ประชาชนจากทุกสารทิศผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาลงนามไว้อาลัย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างเนืองแน่น จนกระทั่งปิดให้ลงนามในเวลา 17.00 น.เผยสรุปยอดประชาชนที่มาร่วมลงนาม 13,072 คน ยอดพวงมาลา 58 พวง เงินทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย 109,270 บาท
ในช่วงเย็น บรรยากาศการลงนามไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง อย่างเนืองแน่นเหมือนเช่นช่วงเช้าและช่วงบ่าย
เริ่มจาก ด.ช.อัครพล ทองประเสริฐ อายุ 12 ปี ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม เดินทางมาร่วมสักการะ พร้อมนางผกากรณ์ ไกรทอง มารดา วัย 56 ปี จ.นนทบุรี โดย นางผกากรณ์ กล่าวว่า ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) ร้องไห้ เสียใจเป็นอย่างมาก แต่ภาวนาให้พระองค์เสด็จไปสู่สรวงสวรรค์ และตั้งใจจะไว้ทุกข์ 100 วัน หรือจนกว่าถวายพระเพลิงพระศพ
“เคยเห็นพระกรณียกิจของพระองค์ ที่ได้ช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กยากจนในต่างจังหวัด กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ตนสมัครเป็นสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และอาสาสมัคร กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ซึ่งทำหน้าที่สำรวจเด็กที่ถูกทอดทิ้ง เด็กพิการ ผู้สูงอายุที่ไม่มีใครดูแล เพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยทุ่มเทกับงานตรงนี้อย่างเต็มที่ ยึดตามแนวที่พระองค์ทรงกระทำมา”
นางแดง นครเกษม อายุ 72 ปี จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด เมื่อรู้ว่าพระองค์ประชวรพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ติดตามแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังทุกวัน วันไหนแถลงการณ์ออกมาดีขึ้นก็ใจชื้น วันไหนที่พระอาการไม่ดี ใจก็ไม่ดีไปด้วย ก็ได้แต่ภาวนาให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรเร็ววัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น รู้สึกตกใจกับการสิ้นพระชนม์เป็นอย่างมาก ทำอะไรไม่ถูก เสียใจ เพราะพระองค์ช่วยเหลือประชาชน ทำเพื่อประชาชนยากจน เห็นพระองค์ทรงงานหนักแล้วเหนื่อยแทนพระองค์
ทั้งนี้ หลังจากลงนามไว้อาลัยแล้วจะนั่งเฝ้ารอรับเสด็จฯ ที่จะมายังพระบรมมหาราชวัง อยากเข้าเฝ้าพระองค์ใดก็ได้พระองค์หนึ่ง แค่นี้ก็เป็นบุญแล้ว ต่อจากนี้ไป ไม่อยากให้พระราชวงศ์พระองค์ใดเป็นอะไรไปอีกเลย อยากให้อยู่เป็นมิ่งขวัญของคนไทยไปนานๆ
นายวสันต์ ปกรเลิศอุดม อายุ 52 ปี รอง ปธ.ลูกเสือชาวบ้าน กทม. และคณะตัวแทน เขตยานนาวา จอมทอง และดุสิต กล่าวว่า ทราบข่าวว่าพระองค์รักษาตัวที่ รพ.ศิริราช พวกเราไปเฝ้ารอตลอด จนวันที่ 1 ม.ค.ไปลงนามถวายพระพร และได้รับพระราชทานวันปีใหม่เป็นหมวกสีเหลือง หนังสือธรรมะ และหนังสือพระราชประวัติ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราได้รับ จากนี้ไปคงไม่มีอีกแล้ว พวกเราลูกเสือชาวบ้านเสียใจอยากมาก ไม่อยากให้ท่านจากไป พระราชกรณียกิจของพระองค์ พระองค์ทำเพื่อพี่น้องทั้งประเทศ จนไม่สามารถจะจดได้หมด ถึงแม้พระองค์ท่านจะอายุมาก ก็ยังทรงงานอย่างหนักเพื่อพวกเรา เราจึงจารึกไว้ในใจตลอดกาล และเนื่องจากลูกเสือชาวบ้านเคยได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระพี่นาง ทุกปี จึงจะร่วมไว้อาลัยตลอด 100 วัน หรือจนกว่าจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ
แม้บางส่วนไม่ได้มาเข้าเคารพสักการะและร่วมลงนาม ไว้อาลัยด้วยตัวเอง แต่ได้ส่งตัวแทนมาถวายพวกมาลา เช่น คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระองค์ มูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา นอกจากนี้ ยังมี นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อสมท นำคณะผู้บริหารมาถวายพระศพต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และร่วมลงนามไว้อาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากหลังจากที่ลงนามเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ได้เดินทางกลับ ต่างจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้ารอรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ ที่จะเสด็จมาสวดพระอภิธรรมพระศพ ในเวลา 19.00 น.บริเวณหน้าลานสนามหญ้า
สำหรับยอดการลงนามถวายความอาลัยนั้น จนกระทั่งปิดให้ลงนามในเวลา 17.00 น.มีประชาชนมาร่วมลงนามทั้งสิ้น 13,072 คน ยอดพวงมาลา 58 พวง เงินทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามอัธยาศัย 109,270 บาท