สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม รักษาการเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายธรรมยุต คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม และกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มรณภาพแล้วที่โรงพยาบาลศิริราช วันนี้ (3 ม.ค.) เมื่อเวลา 07.50 น.สาเหตุจากการติดเชื้อในกระแสเลือด หลังเข้ารับการรักษาด้วยโรคไตวายเรื้อรัง ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2550 สิริอายุ 82 ปี โดยศิษยานุศิษย์จะเคลื่อนศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ในช่วงบ่ายวันนี้
ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้(4 ม.ค.) จะเป็นให้มีการสรงน้ำศพที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ศาลา 13 ระหว่างเวลา 13.00-16.30 น.
สำหรับประวัติของสมเด็จพระพุทธชินวงศ์มีดังต่อไปนี้
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (กนฺตจาโร ประจวบ) เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 7 วัดมกุฏกษัตริยาราม พ.ศ. 2517-ปัจจุบัน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย นามเดิม ประจวบ นามสกุล เนียมหอม นามฉายา กนฺตาจาโร เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2469 เวลา 11.40 น. ที่หมู่บ้านโรงจีน ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรคนที่ 1ของคุณพ่อคง คุณแม่ท้อน เนียมหอม ได้เข้าเรียนระดับประถมเมื่ออายุ 10 ปี ที่โรงเรียนเฉลียววิทยา วัดเหนือ บางแพ
บรรพชา เมื่ออายุได้ 12 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 ณ วัดเหนือบางแพ ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมเสนานี (เงิน) วัดสัตตนารถปริวัตร อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูนาถ สุมโน เจ้าอาวาสวัดเหนือบางแพ ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เป็นพระศีลาจารย์
เมื่ออายุได้ 14 ปี พ.ท.วิบูล สิริสุภาส ซึ่งขณะนั้นยังดำรงอยู่ในสมณเพศและดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูวิบูลธรรมคุต วัดราชบพิธ กรุงเทพมหานคร ได้นำเข้ามาฝากตัวให้อยู่กับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) ครั้งยังทรงดำรงสมณศักดิ์ที่พระเทพเวที วัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2483
และเมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2489 เวลา 14.16 น. โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) ขณะทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมปาโมกข์ เป็นพระอุปัชฌายะ พระธรรมกิจจานุการี (ผัน กิจฺจการี) วัดมกุฏกษัตริยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระเทพกิตติเมธี (หิ้น คนฺธาโร) วัดมกุฏกษัตริยาราม ครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระปริยัติเมธี เป็นพระอนุสาวนาจารย์
วิทยฐานะ
ปริยัติศึกษา
แผนกธรรม น.ธ.เอก
แผนกบาลี ป.ธ.๕
สามัญศึกษา
ประโยคเตรียมอุดมศึกษา (ม.๘)
ประโยคครู พ.
ประโยคครู พ.ป.
อุดมศึกษา
ปริญญาตรี ศาสนศาสตร์บัณฑิต (ศน.บ.) จากสภา-การศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย
พ.ศ. ๒๕๐๙ ปริญญาโท (M.A.) ทางปรัชญา จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย
พ.ศ. ๒๕๓๐ ปริญญาเอก (Ph.D.) ทางปรัชญา จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๐๕ รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระกิตติสารมุนี
พ.ศ. ๒๕๑๕ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราชที่ พระราชกวี
พ.ศ. ๒๕๑๗ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพที่ พระเทพโมลี
พ.ศ. ๒๕๒๘ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นธรรมที่ พระธรรมธัชมุนี
พ.ศ. ๒๕๓๖ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรองชั้นหิรัณยบัฏที่ พระธรรมปัญญาจารย์
หน้าที่การงาน
การปกครอง
พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม
พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นพระอุปัชฌายะ
พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
การศึกษา
เป็นครูสอนประปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม
เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม
เป็นประธานเปิดสอบบาลีสนามหลวง ณ สนามสอบวัดชูจิตธรรมารามในมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สำนักเรียนวัดมกุฏ-กษัตริยาราม)
เป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม สังกัดกรุงเทพมหานคร
เป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริยาราม สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
เป็นผู้จัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา “วชิรมกุฏ” วัดมกุฏกษัตริยาราม สนองพระนโยบายสมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถระ)
เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมบาลี และแผนกสามัญศึกษา “มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย” (พ.ศ. ๒๕๑๖) ที่ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรี-อยุธยา ตามพระดำริของสมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร)
ได้ขยายการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญอยู่ที่วัดไผ่ดำ และเป็นผู้จัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา วัดไผ่ดำ ตำบลทองเอน อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
การเผยแผ่
แสดงธรรมในวันธรรมสวนะ แสดงธรรมอบรมประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา
แสดงธรรมทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ และทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เป็นครั้งคราว
การสาธารณูปการ
ได้บูรณปฏิสังขรณ์และก่อสร้างอาคารถาวรวัตถุภายในวัดมกุฏกษัตริยาราม
ก่อสร้างอาคารเรียน อาคารที่พักอาศัย อุโบสถ หอประชุม ที่มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (วัดชูจิตธรรมาราม) ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมจำนวน ๑๐๐ หลัง
ก่อสร้างศาลาการเปรียญและกุฏิที่พักอาศัยที่สำนักปฏิบัติธรรม “มกุฏคิรีวัน” ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน ๒๘ หลัง
ให้ความอนุเคราะห์ในการก่อสร้างโรงพยาบาลบางแพ จังหวัดราชบุรี
ตำแหน่งหน้าที่ในอดีตและปัจจุบัน
พ.ศ. ๒๔๙๑ – ๒๕๐๒ เป็นเลขานุการสังฆมนตรีว่าการองค์การเผยแผ่และสั่งการแทนสังฆนายก
พ.ศ. ๒๕๐๒ – ๒๕๐๕ เป็นเลขานุการสังฆนายก
พ.ศ. ๒๕๑๓ - ๒๕๑๕ เป็นเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
เป็นเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย (ก.ส.ม.)
เป็นกรรมการและเลขานุการมูลนิธิส่งเสริมกิจการศาสนาและมนุษยธรรม (ก.ศ.ม.)
เป็นรองประธานกรรมการมูลนิธิ ก.ศ.ม.
พ.ศ. ๒๕๐๕ – ๒๕๒๖ เป็นรองเลขาธิการและเลขาธิการสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา แห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๒๖ – ๒๕๓๗ เป็นอธิการบดีสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย
เป็นกรรมการอบรมพระธรรมทูตต่างประเทศ (ธรรมยุต)
เป็นอนุกรรมการศูนย์ควบคุมการไปต่างประเทศ สำหรับพระภิกษุสามเณร (ศ.ต.ภ.)
เป็นกรรมการคณะธรรมยุต
เป็นกรรมการเถรสมาคมคณะธรรมยุต
เป็นผู้อำนวยการมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย
เป็นประธานคณะกรรมการมูลนิธิสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อน
เป็นประธานคณะกรรมการมูลนิธิธัมสิริ
เป็นกรรมการมูลนิธิมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (ม.ว.ก.)
เป็นกรรมการมูลนิธิสิรินธร (ส.ธ.)
เป็นกรรมการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
เป็นกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช อุฏฐายีมหาเถระ
เป็นเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม
เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลันมหามกุฏราชวิทยาลัย
เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
เป็นประธานกรรมการบริหารสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต)
เป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะใหญ่ (ธรรมยุต)
การปฏิบัติศาสนกิจในต่างประเทศ
เดินทางไปดูการพระพุทธศาสนา ณ ประเทศอินเดีย (ก่อนและหลังการเดินทางไปศึกษา)
เดินทางไปร่วมฉลองพุทธชยันติ ณ ประเทศญี่ปุ่น และไปเยี่ยมทหารไทยที่ประเทศเกาหลี กลับมาแวะดูการพระศาสนาที่ฮ่องกงและประเทศเวียดนาม
เดินทางไปร่วมประชุมสงฆ์คณะธรรมยุต ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประจำปี
เป็นผู้เริ่มก่อตั้งวัดญาณรังษี ที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เดินทางไปดูการพระพุทธศาสนา ที่ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเดนมาร์กและประเทศนอร์เว
เดินทางไปดูการพระพุทธศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย
เดินทางไปดูการพระศาสนาที่ประเทศไต้หวัน
เกียรติคุณพิเศษ
ได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี ๒๕๒๖