ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ เปิดตัว-เปิดชื่อ แต่คนเมินทั้งคนทั้งพรรค! ยิ่งถามถึง "นายกฯ" คำตอบคือ ‘ยังไม่เจอ’ ยืนหนึ่งแชมป์โพลยาว !
แม้จะทยอยเปิดตัว เปิดหน้า เปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีกันแทบทุกพรรค แต่การตอบรับของประชาชน กลับเงียบสวนทางความคึกคักของนักการเมือง
คำถามจึงไม่ใช่ว่า “ใครเปิดตัวแล้วบ้าง” แต่เป็นคำถามที่แทงใจนักการเมืองมากกว่า ว่าเปิดตัวแล้ว…ทำไมคนยังไม่ศรัทธา!?
ผลสำรวจล่าสุดจาก "นิด้าโพล" ตอบคำถามนี้ได้ชัดเจนแบบไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ สนามเลือกตั้งที่ชี้วัดความนิยมหลักของประเทศ
ปรากฏว่า เมื่อถามถึงบุคคลที่คนกรุงเทพมหานคร จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ อันดับ 1 ไม่ใช่นักการเมืองหน้าใหม่ ไม่ใช่ตัวเก๋า ไม่ใช่อดีตผู้นำ
แต่คือคำตอบสั้นๆ ตรงๆ “ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้” ในสัดส่วนที่สูงถึง 47.25%
พูดกันแบบไม่ต้องอ้อมค้อม เปิดตัวมาก็ตั้งหลายราย แต่คนกรุงยังไม่เห็นใครที่ “ใช่” สักคน
อันดับ 2 คือ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ จากพรรคประชาชน ที่ได้ 16.95% ถือว่ายังพอมีแรงส่ง แต่ก็ยังตาม “คนที่ยังไม่เจอ” อยู่หลายช่วงตัว
ถัดมาเป็น "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย 10.90% , "มาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ 9%
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนอารมณ์คนกรุงได้ชัดว่า ไม่ได้ปิดประตูใส่ใคร แต่ก็ยังไม่กล้าฝากประเทศไว้กับใครจริงๆ
และแม้รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะยาวขึ้นเรื่อยๆ จากทุกขั้ว ทุกค่าย ทั้งหน้าใหม่ หน้าเดิม หน้าเซอร์ไพรส์ แต่คะแนนกลับกระจายไม่มีใครก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์รวมความมั่นใจได้จริง
ภาพรวมจึงออกมาแบบเจ็บๆ ว่า นักการเมืองพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ประชาชนยังไม่พร้อมจะเชื่อ!!
หันมาดูความเชื่อมั่นต่อพรรคการเมือง…อาการไม่ต่างกัน
เมื่อถามว่าคนกรุงเทพฯจะสนับสนุนพรรคใดในวันนี้...
อันดับ 1 ยังเป็นคำตอบเดิม “ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้” ถึง 40.20%
รองลงมาคือ พรรคประชาชน 26.25% พรรคภูมิใจไทย 10.05% พรรคประชาธิปัตย์ 9.55% และพรรคเพื่อไทย 6.85%
สรุปสั้นๆว่า ประชาชนคนกรุงสิ้นหวังทั้งคนทั้งพรรคการเมือง
++ “จตุพร บุรุษพัฒน์” แคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 พรรคโอกาสใหม่ สายอนุรักษ์นิยม
“พรรคโอกาสใหม่” ตกเป็นข่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ช่วง “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พากลุ่ม“16 สส.” แยกตัวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ มาหนุน“อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรี
วางแผนกันไว้ว่า เมื่อมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ก็มีพรรคการเมืองตั้งไว้รอแล้วนั่นคือ พรรคโอกาสใหม่ มี “ทุนพลังงาน” เป็นสปอนเซอร์หลัก และมี“อดีตปลัดตุ๋ม” จตุพร บุรุษพัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนบรรดาแกนนำพรรคคนอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการเกษียณ
แต่แล้ว “เสี่ยเฮ้ง” กับกลุ่ม 16 สส. รวมทั้ง “เสี่ยแด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม คนของ “ลุงตู่” ก็ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย สวมเสื้อสีน้ำเงิน
อย่างไรก็ตาม “พรรคโอกาสใหม่” ยังคงเดินหน้า และได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) ที่ อาคาร JW TOWER พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ และ สส.เขตบางส่วน
ก่อนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ “จตุพร บุรุษพัฒน์” เป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีความสนิทสนมกับ “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ช่วงที่ปลัดฉิ่ง เกษียณอายุราชการ เคยมีกระแสข่าวว่า “จตุพร” จะถูกโยกให้ข้ามห้วยไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยแทน แต่ก็มีกระแสต้านจากคนคลองหลอด สุดท้ายจึงไม่ได้ไป
นอกจากนี้ “จตุพร” เคยมีชื่อติดโผว่า จะเป็นตัวแทนของกลุ่มทุนมานั่ง รมว.พลังงาน ในช่วงการปรับครม.รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร หลังเขี่ยพรรคภูมิใจไทย ไปเป็นฝ่ายค้าน
แต่สุดท้าย “จตุพร” ได้เป็น รมว.พาณิชย์ และ “สุชาติ ชมกลิ่น” เป็น รมช.พาณิชย์
“พรรคโอกาสใหม่” เกิดขึ้นจากการจับมือ ของ “ปลัดฉิ่ง-ปลัดตุ๋ม” ร่วมกับอดีตข้าราชการหลายท่าน เป็นผู้ก่อตั้งจึงถูกเปรียบเปรยว่า เป็นที่รวมข้าราชการเกษียณ เป็น “สุสานข้าราชการ”
ซึ่งเรื่องนี้ “จตุพร” ชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะคำว่า “สุสาน” นั้นคือป่าช้าของคนตาย... พวกเราไม่ใช่คนตาย แต่ พวกเราคือ “คลังสมอง” เป็นที่รวมของบุคลากรระดับมืออาชีพ มีความรู้ ความสามารถ และมากด้วยประสบการณ์ เราต้องเอา “การบริหาร นำการเมือง” ไม่ใช่เอาการเมืองนำการบริหาร !
“จตุพร” บอกว่า สิ่งนี้พิสูจน์ได้ด้วยการเลือกคนของพรรคโอกาสใหม่ เข้าไปเยอะๆ แล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย!!
สำหรับ นโยบายของพรรคโอกาสใหม่ คือการเป็นรัฐสวัสดิการทุกมิติ การจงรักภักดี และ การปกป้องสถาบันฯ การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โลกร้อนที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การปฏิรูประบบการศึกษา ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาที่ดิน ป่าไม้
เราจะเปลี่ยน “วาทกรรม”เป็น “วาระงาน” ... เปลี่ยนคำว่า “ถ้า” เป็นคำว่า “ทำ” เปลี่ยน ส่วนตัวให้เป็นส่วนรวม “เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสใหม่” เพื่อแก้ปัญหาให้กับคนไทยทุกคน
การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคโอกาสใหม่ ตั้งเป้าจำนวน สส.เขต และสส.บัญชีรายชื่อ รวมอย่างต่ำ 25 ที่นั่ง เพื่อให้ “แคนดิเดตนายกฯ” มีคุณสมบัติไปชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ ตามที่กฎหมายกำหนด
“ปลัดตุ๋ม” ทิ้งท้าย ด้วยการแสดงจุดยืนว่า พรรคโอกาสใหม่พร้อมทำงานกับทุกพรรคที่ไม่ล่วงเกินสถาบันฯ


