xs
xsm
sm
md
lg

สวดส่งรัฐบาล"อนุทิน" น้ำท่วมหาดใหญ่ประจาน "นักการเมือง-พรรค" ล้มเหลวทั้งระบบ !? ** น้ำท่วมใต้ พรรคการเมืองจ้องแปรวิกฤต เป็นโอกาส !

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุทิน ชาญวีรกูล - สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ สวดส่งรัฐบาล "อนุทิน" น้ำท่วมหาดใหญ่ประจาน "นักการเมือง-พรรค" ล้มเหลวทั้งระบบ !?

น้ำท่วมหาดใหญ่-สงขลา คราวนี้ถือเป็นวิกฤตภัยใหญ่ หนักหนาสาหัส และยังมีอีกหลายพื้นที่ในภาคใต้ที่รอการช่วยเหลือจากรัฐบาล

หลายวันมานี้ การทำงานของรัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ และรุมด่าทั่วทุกสารทิศ

ล่าสุด แทนที่รัฐบาลจะก้มหัวรับฟังเสียงชาวบ้านกลับส่งโฆษกฯ อย่าง "สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ" ออกมาโต้เถียง สวนเสียงด่า ว่ารัฐบาลไม่ได้ช้า แต่โบ้ยว่าเป็นเพราะประชาชนไม่ยอมอพยพเอง ! และ น้ำมาเร็ว เกินควบคุม ต่างหาก

โฆษกฯยังแก้ตัวแทนนายกฯ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่บินลงพื้นที่แบบคณะเล็ก ก็ไม่เป็นภาระใคร

ขณะที่โรงพยาบาลมีไฟฟ้า มีอาหารพอ ไฟไม่ได้ดับ เรื่องร้ายๆในโซเชียลฯนั้น เพราะมีคนโพสต์เฟกนิวส์ ใส่ร้ายรัฐบาล
เรียกว่า แก้ตัวจนลิ้นแทบพันกัน

แต่ถามว่า ชาวบ้านเชื่อไหม? คำตอบคือ… ไม่! เพราะภาพจริงที่ปรากฏในพื้นที่คือ ทหาร-ตำรวจ-มูลนิธิฯ–กู้ภัย–อาสาสมัครวิ่งกันหัวหมุน

ส่วนประชาชนติดอยู่ในบ้าน ติดน้ำ ต้องรอคนมาช่วยแบบนาทีต่อชีวิต

รัฐบาลพูดอย่าง แต่ชาวบ้านเห็นอย่าง… ความจริงมันสวนกันแบบสุดทาง !

น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้… ต้องบอกว่า ประจานความล้มเหลวของทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ความล่าช้า แต่เป็นแผลใหญ่ของประเทศที่สะท้อนว่า นักการเมือง–พรรคการเมือง ไม่เคยแก้วิกฤตชาติได้เลย!!

อนุทิน ชาญวีรกูล
มีแต่วงจรผลประโยชน์ นายทุน–พ่อค้า–ข้าราชการ ที่จับมือกันกัดแทะประเทศ ทุจริต คอร์รัปชัน

นักการเมืองที่เข้ามาเป็นรัฐบาล เพราะไม่เคยคิดเรื่อง "ส่วนรวม" พอเจอเรื่องใหญ่จริงๆ ก็ไปไม่เป็น!

เห็นได้จากอะไร ระบบแจ้งเตือนพัง, ระบบอพยพสะเปะสะปะ, ประชาสัมพันธ์ไร้ทิศทาง, การประสานงานล่าช้า ข้อมูลสับสนจนชาวบ้านเดือดร้อน รับเคราะห์เกินกว่าเหตุ

ถามว่าแล้วใครรับผิดชอบ? คำตอบคือ…ไม่มี!

สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ
เพราะทุกคนชี้นิ้วไปมา…เหมือนนายกฯ"อนุทิน" ที่พร่ำพูดว่า มีหน่วยงานอยู่หน้างานดูแลอยู่แล้ว นั่นไง

รัฐบาลจะอ้างอะไรก็อ้างไป

แต่ภาพที่คนเห็นคือ…คนไทยช่วยกันเอง มากกว่าที่รัฐช่วยประชาชน

รัฐบาลที่มี ก็เหมือนไม่มี วิกฤตครั้งนี้ไม่ใช่ภัยธรรมชาติอย่างเดียว แต่มันเป็นภัยจากการบริหารประเทศแบบไร้วิสัยทัศน์ ไร้ประสิทธิภาพ

เมื่อนักการเมืองคิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง รัฐราชการหย่อนยาน ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นภาพที่เห็น

น้ำท่วมหาดใหญ่ที่คนทั้งประเทศรุมด่าว่า นักการเมือง พรรคการเมือง ล้มเหลวทั้งระบบ!

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
++ น้ำท่วมใต้ พรรคการเมืองจ้องแปรวิกฤต เป็นโอกาส !

น้ำท่วมใหญ่ที่ภาคใต้ครั้งนี้ ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างหนักหนาสาหัส แต่ยังส่งผลถึงการเมืองในภาพรวมด้วย
พรรคภูมิใจไทย โดย “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ที่เคยขู่เช้าขู่เย็น ว่าถ้าฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะชิงยุบสภาในวันที่ 12 ธันวาคม ที่เป็นวันเปิดสภาสมัยสามัญนี้เสียเลย

แต่วันนี้ “อนุทิน” คงต้องคิดใหม่ เพราะถ้ายุบสภา ก็จะถูกมองว่า ทอดทิ้งประชาชน

นี่ยังไม่นับถึงเรื่องที่ รัฐบาลให้ความช่วยเหลือล่าช้า จนบางคนแทบเอาชีวิตไม่รอด ต้องทนหิว ทนหนาว ออกมาไม่ได้ 3 วัน 5 วัน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
อย่าลืมว่า น้ำท่วมครั้งนี้หนักเป็นประวัติการณ์ ความเสียหายเกินประเมิน ต่อให้น้ำลดจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ประชาชนก็ยังเดือดร้อน รอความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการฟื้นฟู เยียวยาอีกสารพัดเรื่อง ต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบ เบิกจ่ายงบประมาณ มาดำเนินการ

หากนายกฯ ยังฝืนยุบสภา ก็จะถูกมองว่าสนใจแต่จะเล่นการเมือง หาช่องครองอำนาจต่อ โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน อย่างนี้คะแนนนิยมพรรคภูมิใจไทย ก็จะหล่นวูบทันที ทั้งๆ ที่กำลังตั้งเป้าขยายฐาน ลงไปยึดภาคใต้

หากมองภาพรวมของการเมืองภาคใต้ จากเมื่อก่อนที่พรรคประชาธิปัตย์ ยึดครองแทบจะเบ็ดเสร็จ แต่ยุคนี้ มีทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน (ก้าวไกล) พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคกล้าธรรม เข้าไปปักธง แชร์พื้นที่

ถ้าโฟกัสเฉพาะ จ.สงขลา ที่กำลังเจอปัญหาน้ำท่วมหนักที่สุด โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ ย่อมเป็นจุดที่พรรคการเมืองจะต้องเข้าไปหาทางใช้วิกฤต ให้เป็นโอกาส

จ.สงขลา มี สส.เขต 9 เขต

เขต 1 : อ.เมืองสงขลา “ สรรเพชญ บุญญามณี” พรรคประชาธิปัตย์ แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าจะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย

เขต 2 : อ.หาดใหญ่ “ศาสตรา ศรีปาน” พรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ายไป ภูมิใจไทย

เขต 3 : อ.นาหม่อม, อ.หาดใหญ่ (บางส่วน) และ อ.จะนะ (บางส่วน) “สมยศ พลายด้วง” พรรคประชาธิปัตย์ ย้ายไปภูมิใจไทย

เขต 4 : อ.ระโนด, อ.กระแสสินธุ์, อ.สทิงพระ และอ.สิงหนคร (บางส่วน) “ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว” พรรคกล้าธรรม

เขต 5 : อ.รัตภูมิ, อ.ควนเนียง และอ.สิงหนคร (บางส่วน) “เดชอิศม์ ขาวทอง” พรรคประชาธิปัตย์

เขต 6 : อ.คลองหอยโข่ง และ อ.สะเดา “สุภาพร กำเนิดผล” พรรคประชาธิปัตย์

เขต 7 : อ.นาทวี, อ.สะบ้าย้อย และอ.เทพา( บางส่วน) “ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ” พรรคประชาธิปัตย์ ย้ายไปภูมิใจไทย

เขต8 : อ.เทพา (บางส่วน) และ อ.จะนะ (บางส่วน) “พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่” พรรคประชาธิปัตย์

เขต 9 : อ.บางกล่ำและอ.หาดใหญ่ (บางส่วน) “ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง” พรรคประชาธิปัตย์

จะเห็นได้ว่า ในการเลือกตั้งปี 2566 ที่ผ่านมา สส.สงขลา จะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ 7 คน มี รวมไทยสร้างชาติ กับ กล้าธรรม แบ่งไปได้พรรคละเขต

พิพัฒน์ รัชกิจประการ
แต่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่จะมีขึ้นในต้นปี 2569 นี้ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ในฐานะ”หัวหน้ามุ้งใหญ่” ในภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย หมายมั่นว่า จะปักธงได้หลายเขต หลังจาก “นิพนธ์ บุญญามณี” หนึ่งในบ้านใหญ่สงขลา พาลูกทีมเข้าสวามิภักดิ์

พรรคภูมิใจไทย วางตัวผู้สมัครไว้แล้ว อย่างเช่น “นิพนธ์ บุญญามณี” เขต 1, “สรรเพชญ บุญญามณี” เขต 2, “ศาสตรา ศรีปาน” เขต 3, “สมยศ พลายด้วง” เขต 4, “โยธิน ทองเนื้อแข็ง” เขต 5, “ณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ” เขต 7 “ฆอซาลี ดุสะเหม๊าะ” เขต 8 และ “พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร” เขต 9

ส่วนประชาธิปัตย์ ในยุคที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” รีเทิร์นกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ก็หมายมั่นว่า จะรักษาเก้าอี้ไว้ให้ได้มากที่สุด โดยมีการวางตัว “เจือ ราชสีห์” ที่เขต 1 , “จูรี นุ่มแก้ว” เขต 2, พงศกร สุวรรณรักษา (ทนายอาร์ม) เขต 3, “สิทธิพัฒน์ เสนเนียม” เขต 4 “วงศ์วชิระ ขาวทอง” เขต 5 “สุภาพร กำเนิดผล” เขต 6 “ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง” เขต 9

ขณะที่พรรคกล้าธรรม ที่มี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ก็ตั้งเป้าไว้ที่สงขลาเช่นกัน หลังจากที่ เขต 4 “ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว” ปักธงได้แล้ว

ต้องรอดูว่า วันที่ 2 ธ.ค.นี้ พรรคกล้าธรรม มีกำหนดเปิดตัวผู้สมัครครั้งใหญ่ ที่ไบเทค บางนา ซึ่งมีกระแสข่าวว่า “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะควง “รัฐมนตรีชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง อดีต รมช.มหาดไทย และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มาเข้าร่วม

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ผู้สมัครของพรรคกล้าธรรม ใน จ.สงขลา ที่เป็น สส.อยู่ตอนนี้ นอกจากจะมี “ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว” ที่เขต 4 แล้วยังมี “เดชอิศม์ ขาวทอง” ที่เขต 5 , “สุภาพร กำเนิดผล” ภรรยาของเดชอิศม์ ที่ เขต 6 , “ศักดิสิทธิ์ ขาวทอง” ลูกชายของเดชอิศม์ ที่เขต 9 และ “พล.ต.อ.สุรินทร์ ปาลาเร่” ที่เขต 8 ด้วย

สนามเลือกตั้งที่ จ.สงขลารอบนี้ “ภูมิใจไทย-กล้าธรรม-ประชาธิปัตย์” ฟัดกันดุเดือดแน่

เชื่อว่าปัจจัยหนึ่งที่จะเป็นตัวตัดสินว่า ประชาชนควรจะกาคะแนนให้ใคร คือ ในช่วงที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมครั้งนี้ ใครคือเพื่อแท้ในยามยาก !


กำลังโหลดความคิดเห็น