xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" มอบนโยบายจัดทำงบฯ 70 โอดอยากหลีกภัย แต่เจอ “4 ภัยใหญ่” ความมั่นคง-สังคม-ภัยธรรมชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ มอบนโยบายจัดทำงบฯ ปี 70 กำชับใช้โปร่งใส คุ้มค้า ประโยชน์กลับสู่ ปชช. เข้มงบฯ ประจำขอเท่าที่จำเป็น เตรียมปรับงบฯ รับมือภัยธรรมชาติ ขอความร่วมมือรัฐ-เอกชนเลือกจัดอีเวนต์ที่หาดใหญ่ หวังเม็ดเงินช่วยในพื้นที่ ชี้น้ำท่วมเหตุมุ่งพัฒนาทำถนน-ขนส่งทางบก ขวางทางน้ำ โอดอยากใช้ตามสกุลหลีกภัย แต่เจอ 4 ภัย “เศรษฐกิจ-มั่นคง-สังคม-ภัยธรรมชาติ” ลั่นรักษาอธิปไตยต้องไม่มีขาที่ 8 ถ้ายังต้องสู้ไม่มีทางเลือกอื่นต้องชนะลูกเดียว ยันพร้อมหนุนกองทัพ ซื้ออาวุธยังจำเป็น ปลุกสามัคคีทำงานรับใช้ชาติและประชาชน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานในงานมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ปลัดกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม

นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมประชุมเพื่อมอบนโยบาย เพื่อจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2570 ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญทั้งการจัดการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนและการวางรากฐานสำคัญสำหรับประเทศไทยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2570 โดยยึดแนวทางจากแผนการคลังระยะปานกลาง ซึ่งอยู่ในช่วงปี 2570-2573 ปีนี้แม้จะเป็นงบประมาณที่ถูกจัดทำแบบขาดดุล แต่รัฐบาลก็ตั้งใจที่จะลดการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในอนาคตและรักษาสัดส่วนหนี้สาธารณะให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม โดยอยู่บนหลักการรักษาวินัยการเงินการคลังรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ


นายอนุทิน กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2570 เป็นปีที่ประเทศไทยเจอกับความท้าทายทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมสูงวัย สังคมเหลื่อมล้ำ ผลกระทบสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ที่ต้องใช้งบประมาณอันมหาศาลในการปรับตัวป้องกันภัยพิบัติและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันภาครัฐต้องปรับตัวให้ทันสมัยโดยการนำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ มีการติดตามและประเมินผลเพื่อใช้จ่ายงบประมาณอย่างโปร่งใส และแน่นอนต้องตรวจสอบได้ ดังนั้นงบประมาณปี 2570 เราจะต้องตอบโจทย์ได้ครบ สร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ การดูแลสังคม และการรักษาวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด รัฐบาลได้กำหนดนโยบายสำคัญที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศออกเป็น 5 ด้าน ดังนี้ 1 ด้านเศรษฐกิจรัฐบาลจะดำเนินมาตรการให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างเป็นระบบ โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้นควบคู่กับการวางรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาวตามนโยบาย Quick Big Win ของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง ซึ่งนโยบายนี้ถ้าแปลเป็นไทยมีนัยว่าเป็นการกระตุ้นสั้น ได้ผลยาว และกระจายตัว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเติบโตในช่วงไตรมาสที่ 4 ได้แก่ กระตุ้นกำลังซื้อโดยเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่งพลัส โครงการเที่ยวดีมีคืน มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจของเราไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท

นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีมาตรการลดภาระหนี้ภาคเอกชน ผ่านโครงการแก้หนี้ครัวเรือน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่ SME ควบคู่กับการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงการสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการต่างๆ มาตรการเหล่านี้เป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการและลดรายจ่ายสำหรับพี่น้องประชาชน รวมถึงเปิดโอกาสให้สามารถรักษาระดับการจ้างงานได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับการลงทุนเพื่ออนาคตมีการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตบนเส้นทางเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งสีเขียวไม่ใช่พี่ทหาร แต่เป็นเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้คาร์บอน ลดการเผาผลาญ ลดการก่อให้เกิด Co2 รัฐบาลจะบริหารจัดการราคาสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ยกระดับเกษตรกรของเราให้เป็นเกษตรกรที่ทันสมัย มีการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพื่อลดข้อจำกัดการส่งออก เพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร

นายอนุทิน กล่าวว่า การท่องเที่ยวก็เป็นอีกนโยบายที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย สำหรับมาตรการการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่เริ่มดำเนินการไปแล้วคือเที่ยวดีมีคืน เพื่อกระจายเม็ดเงินสู่พื้นที่ท้องถิ่นที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นให้การท่องเที่ยวกระจายตัวไปเมืองรองทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเราพยายามหลีกเลี่ยงคำว่าเมืองรอง แต่ใช้คำว่าเมืองน่าเที่ยว เพื่อทำให้ทุกจังหวัดของประเทศไทยล้วนแล้วแต่เป็นเมืองที่สามารถไปท่องเที่ยวได้ ให้แต่ละจังหวัดพยายามจัดหาสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เป็นวัฒนธรรมเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นกระจายตัวทั่วประเทศ


นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับด้านการต่างประเทศรัฐบาลกำลังเร่งเจรจาเพื่อจัดการแก้ไขผลกระทบจากสงครามการค้ารวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือที่ทุกคนเคยได้ยินว่าโออีซีดี ให้แล้วเสร็จภายในปี 2573 ทั้งนี้ โออีซีดีเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าให้ดียิ่งขึ้น หากประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกเราจะเป็นประเทศที่สร้างความเชื่อมั่น สร้างความเชื่อถือ และสามารถดึงดูดความมั่นใจกับประเทศคู่ค้าประชาคมต่าง ๆทั่วโลก ให้เข้ามาสนใจและลงทุนดำเนินธุรกิจต่างๆในประเทศของเราได้มากยิ่งขึ้น และภาคอุตสาหกรรมก็เป็นฟันเฟืองสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะ SME ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษี รัฐบาลจะสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุน การใช้เทคโนโลยี การเรียนรู้ทักษะ ทั้ง re skill และ up skill เพื่อปรับตัวให้ทันกับการแข่งขันยกระดับธุรกิจภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จะมีการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ดิจิทัล เอไอ พลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาด รวมทั้งผลักดันอุตสาหกรรมสีเขียวที่มีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆเหล่านี้ได้รับการยอมรับในสากล สามารถที่จะส่งออกไปขายได้โดยที่ไม่ติดข้อห้ามหรือข้อจำกัดใดๆที่จะทำให้ เรามีศักยภาพในการแข่งขันที่ลดน้อยลง

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ด้านที่ 2 ด้านความมั่นคง รัฐบาลมุ่งเน้นแนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศของเราและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นรูปธรรม นอกจากนี้รัฐบาลยังมุ่งดำเนินนโยบายต่างประเทศเชิงรุกที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก นำประเทศไทยกับคืนสู่จอเรดาร์อีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างบทบาทประเทศไทยในเวทีโลก

นายอนุทิน กล่าวว่า ด้านที่ 3 ด้านสังคม เราจะจัดการกับปัญหาเร่งด่วนอย่างพวกสแกมเมอร์หรือการหลอกลวงทางเทคโนโลยี อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด รวมถึงการแก้ปัญหาการแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเองหรือพวกพ้อง โดยต้องยึดหลักนิติธรรมและความโปร่งใสเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น

นายอนุทิน กล่าวว่า ด้านที่ 4 ภัยธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรัฐบาลจะพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัยธรรมชาติ เช่น พื้นที่น้ำท่วมประจำ พื้นที่มีความเสี่ยงสูง ควรต้องใช้แนวทางป้องกันก่อนเกิดเหตุ และเรื่องเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบภัยกลับสู่วิถีปกติ


นายอนุทิน กล่าวว่า และอย่างที่ทุกท่านทราบกันดีตนได้ใช้เวลาในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาลงพื้นที่ต่างจังหวัดหลายครั้ง เพื่อหาความช่วยเหลือให้กับประชาชนในจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ จะเห็นได้จากปัญหานี้ประชาชนเผชิญกับภัยพิบัติน้ำท่วมอย่างหนัก ทั้งเรื่องการเยียวยา ตนจะขอให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยด่วนที่สุด เพื่อให้เกิดความครอบคลุมและทั่วถึง ลดขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือหรืองบประมาณต่างๆนโยบายต่างๆไปถึงมือประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด หากหน่วยงานใดทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งต้องขอความร่วมมือให้ทุกท่านได้พิจารณา หากจะมีการจัดประชุม งาน Event สัมมนา อบรม ปฐมนิเทศ ต่างๆในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงท้ายๆของปี อยากขอให้เลือกจังหวัดที่เกิดภัยพิบัติเหล่านี้ เพื่อให้เม็ดเงินไหลเวียนเข้าสู่พื้นที่มากที่สุด เช่น อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งจริงๆเขาเตรียมพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยว นักกีฬาซีเกมส์ ที่กำลังจะเปิดภายในสัปดาห์นี้ เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยโรงแรมต่างๆที่เตรียมรีโนเวทเรียบร้อยแผนการต่างๆ ต้องพับไป เพราะสภาพพื้นที่ไม่อำนวยให้มีการจัดกีฬาที่นั่น ซึ่งทำให้การลงไปของนักท่องเที่ยว กองเชียร์ ผู้สนใจด้านกีฬา ต้องยกเลิกการสำรองห้องพักต่างๆ จึงทำให้เกิดความเสียหายตามมาอีกมากมาย ขอถือโอกาสนี้ฝากทุกท่านในที่นี้ โดยเฉพาะที่นั่งอยู่แถวหน้าซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ตนไม่ได้ตัดงบประมาณในการไปประชุมหรือดูงานสัมมนาภายในประเทศ แต่ขอให้เลือกไปช่วยเหลือจังหวัดที่โชคไม่ค่อยดีเหมือนจังหวัดอื่นๆ และประสบภัยพิบัติต่างๆเหล่านี้ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ช่วยให้เขามีรายได้และในที่สุดสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้โอกาสวิถีชีวิตที่ดีขึ้นกับพี่น้องประชาชนผู้เคราะห์ร้าย ผู้ประสบภัย เพราะจะได้มีเม็ดเงินไหลเวียนในพื้นที่ให้มากที่สุด จึงขอความเมตตาให้ช่วยพิจารณาในเรื่องนี้ เพื่อพี่น้องเพื่อนร่วมชาติของเราที่มีความเคราะห์ร้ายเจอภัยธรรมชาติ เราต้องเข้าไปเยียวยาพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

นายอนุทินกล่าวว่า นอกจากนี้เรื่องสิ่งแวดล้อมเราจะรับมือกับสภาพการเปลี่ยนแปลง ทางสภาพภูมิอากาศโดยผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยลดการเผาในภาคการเกษตรสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด พลังงานแสงอาทิตย์ และจัดตั้งตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่ได้มาตรฐานสากล ตนทราบทุกคนทุกคนมองว่าปี 2593 อาจจะเหลือไม่กี่คนในห้องนี้ แต่เราต้องเริ่มให้กับพวกเขา ลูกหลานของเราอนาคตของประเทศไทย เพราะถ้าเราไม่เริ่มนำ 2593 ไม่เริ่มนับหนึ่งให้ได้เพื่อที่จะไปบรรลุเป้าหมายคือ 100% ในเวลาอีกเพียง 25 ปีเท่านั้น ไม่ใช่เวลาที่ยาวนาน

นายอนุทินกล่าวว่า ด้านที่ 5 การบริหารงานภาครัฐ และปฏิรูปกฎหมาย ให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว เปิดเผยข้อมูลอย่างโปรงใส อำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชนและประชาชน รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ซึ่งเราจะได้ยินคำว่า Regulatory Guillotine มากขึ้น เพื่อให้สิ่งเหล่านี้ที่พูดไปบรรลุเป้าหมายโดยเร็ว นอกเหนือจากนโยบาย 5 ด้านดังกล่าวแล้วรัฐบาลให้ความสำคัญกับการวางรากฐานของประเทศ ซึ่งเป็นการลงทุนกับอนาคตในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า รากฐานที่สำคัญที่สุดคือคนไทยที่มีคุณภาพโดยเรื่องพัฒนาศักยภาพของคนไทยโดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่จะต้องปฏิรูปการศึกษาตลอดเวลา แม้เราจะบอกว่าการปฏิรูปการศึกษามานานแล้วจะต้องไม่คิดเพียงว่าการศึกษาคือการเอาเด็กไปนั่งรับการสอนครูอาจารย์ในห้องเรียนอย่างเดียว แต่ต้องสร้างระบบที่จะพัฒนาศักยภาพของคนไทยได้ตลอดช่วงชีวิต ประเทศต้องมีกลยุทธ์และกลไกที่ชัดเจนเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่สุภาษิต บอกว่าไม่มีใครแก่เกินเรียนยังคงอยู่ และคำนี้ได้ยินมานานแล้วตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นการศึกษาจะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงและส่งมอบให้กับคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ช่วงหรือวัยใด เมื่อใดต้องการอัพสกิลมีความรู้เพิ่มเติม มีความชำนาญ เพื่อตัวของเขาในการสร้างรายได้ประกอบอาชีพ รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ที่ส่งมอบของเหล่านี้ให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน สามารถลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำให้กับสังคมไทย ทั้งคุณภาพด้านการศึกษา มาตรฐานสถานศึกษา และโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาของคนไทย


นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนหลักประกันสุขภาพของไทยให้ดียิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยียกระดับการดูแลสุขภาพเชิงรุก ป้องกันและจัดการโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง สิ่งเหล่านี้ถ้าทำได้เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราไม่เน้นเรื่องการดูแลหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพราะเราจะมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการส่งเสริมสุขภาพมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการประกันสุขภาพ การให้การพยาบาลรักษากับประชาชนคนไทย เราจะต้องส่งเสริม การตั้งระบบดูแลพี่น้องประชาชนตั้งแต่ครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน ตรงนี้เรามีพื้นฐานองค์ความรู้สามารถที่จะนำไปพัฒนาต่อยอดและนำเทคโนโลยีที่เป็นปัจจุบัน เพื่อเสริมหลักการที่บุคลากรมีคุณภาพ ซึ่งบรรพบุรุษของเราได้วางรากฐานเอาไว้ ประเทศไทยก็มีความสมบูรณ์ในเรื่องคุณภาพชีวิตของประชากร นอกจากนี้รัฐบาลจะส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคให้รองรับการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะระบบคมนาคมโลจิสติกส์ให้เชื่อมโยง ทั้งทางอากาศ ทางราง ถนน ทางน้ำ อีกทั้งยังสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทดแทนและนวัตกรรมประหยัดพลังงานรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีคุณภาพควบคุมเพียงพอและเข้าถึงได้ทั้ง ในด้านพื้นที่และราคา ซึ่งจะช่วยให้ยกระดับความสามารถในการแข่งขันและยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง
นายอนุทินกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น กำหนดไว้ละเอียดในยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ 2570 ครอบคลุมในทุกประเด็น ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานทางการคลังเพื่อความมั่นคงและยั่งยืน มุ่งส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Pro-Growth Budget Initiative) วิธีการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนให้เกิดความรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย

“นโยบายที่ได้แถลงมานี้ ปีนี้อาจจะต้องมีการมุ่งเน้นในเรื่องของการแก้ปัญหา 4 ภัย ที่ตนได้กล่าวเมื่อสักครู่ ผมอยากจะนำสกุลหลีกภัย แต่กลายเป็นนามสกุลเจอภัย เจอเข้าไป 4 ภัย คือภัยเศรษฐกิจ ความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ ในช่วง 1 ปีนี้ มีรัฐบาลก่อนหน้านี้ดูแลมาจนถึงเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนมาจนถึงปัจจุบัน เราพบภัยเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก เราถึงต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ได้ช่วยกันทำให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ซึ่งทุกท่านคงรู้สึกได้ว่าพี่น้องประชาชนมีความพึงพอใจเชื่อมั่นและเราจะยังทำต่อไป และจะต้องทำเฟส 2 ให้ได้เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีขวัญกำลังใจ มีความมุ่งมั่น และเชื่อมั่นว่าชีวิตของพวกเขารัฐบาลจะดูแลและเขาจะต้องเดินต่อไป รัฐบาลจะต้องอยู่เคียงข้างเขา พวกเราทุกคนต้องอยู่เคียงข้างเขาในการที่จะนำพาให้ผ่านพ้นภัยเศรษฐกิจ ชื่อของมันเป็นภัย แต่มันเป็นทุกข์แสนสาหัสของพี่น้องประชาชน เราเป็นข้าราชการ เราบริหารราชการแผ่นดิน คือความผาสุขของพี่น้องประชาชน สิ่งเหล่านี้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะต้องนำพี่น้องประชาชนเดินพ้นจากภัยเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุดและเดินไปด้วยกัน”นายอนุทินกล่าว


นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับภัยความมั่นคง เรามีปัญหาข้อพิพาทกับกัมพูชาตนขอเอ่ยชื่อ ซึ่งตนเห็นถึงความเสียสละทุ่มเท ความอดทนเป็นอย่างยิ่งของประชาชนคนไทย ตลอดจนความอดทนความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาปกป้องอธิปไตย รักษาบ้านรักษาเมือง ของทางกองทัพ ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ตนเข้ามาในช่วงที่กำลังพีคพอดี ก่อนประกาศว่าขาที่ 8 จะต้องไม่มี ถ้ามีขาที่ 8 เราก็ต้องแสดงความเป็นไทย ให้กับคนที่คิดว่าประเทศไทย เป็นสิ่งที่ต่อรองได้ ตรงนี้ต้องกราบเรียนว่า เชื่อว่าพี่น้องในกองทัพคงทราบดีว่าเราควรจะต้องให้เขาได้ยินคำว่าประเทศไทยอย่างไร ตนเชื่อมั่นว่าแม้เรามี บทกลอนสอนใจ ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่เคยขลาด ฉะนั้นตรงนี้ตนได้พบปะกับพี่น้องเพื่อนข้าราชการทางฝั่งความมั่นคงมาตลอดเวลาเชื่อมั่นว่าประเทศไทยของเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องรักษาเอกราชของชาติ รักษาเกียรติภูมิ รักษาเกียรติยศของผู้ที่ปกป้องแผ่นดินทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่มีช้อยอื่นนอกจากชนะลูกเดียวถ้าเรายังต้องต่อสู้กัน นี่คือนโยบายที่จะบอกว่ารัฐบาลต้องให้การสนับสนุนในการรักษาอธิปไตยของแผ่นดินอย่างเต็มที่

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ภัยสังคมสแกมเมอร์ ยาเสพติด สอดคล้องกันรัฐบาลได้แสดงทีท่าให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของสแกมเมอร์ ของยาเสพติด เจ้าของบ่อนการพนัน เจ้าของธุรกิจธุรกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งตนได้พิสูจน์ให้เห็นชัดว่าได้ให้ความสนับสนุนร่วมมือ และ ร่วมกันดำเนินนโยบายทุกนโยบาย หรือการดำเนินการในทุกเรื่อง การดำเนินการที่จะทำให้ภัยสังคมเหล่านี้พ้นไปจากประเทศไทยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ซึ่งผลงานก็เห็นอยู่

นายอนุทิน กล่าวว่า ภัยธรรมชาติพายุน้ำท่วมจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ขอย้ำว่าเราจะต้องทำให้งบประมาณของประเทศเราปรับสอดรับกับสถานการณ์ของประเทศและสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป เป็นงบประมาณที่มีเป้าหมายเพื่อประชาชนเป็นสำคัญและเป็นลำดับแรกในปี 2570 นี้ ตนและสำนักงบประมาณจะช่วยกันพิจารณาทบทวนการจัดทำงบประมาณเพื่อพัฒนาและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน และจะต้องหาทุกกลยุทธ์ทุกรูปแบบในการที่จะจัดทำงบประมาณนี้เพื่อช่วยให้พี่น้องประชาชนได้พ้นจากภัย 4 ข้อ เราต้องทบทวนการพัฒนาหลายๆอย่าง พัฒนาความเจริญแต่จริงๆแล้วทำลายตัวเองในอนาคต ยกตัวอย่างสิ่งที่ได้เห็นอย่างชัดเจนคือที่อำเภอหาดใหญ่ทำถนนเยอะแยะไปหมด เพื่อให้เข้าถึงหาดใหญ่ได้ แต่ถนนนี้ด้วยความเร่งด่วนหรือความที่เชื่อว่าจะไม่เกิดภัยอะไรเหล่านี้ก็ตาม รวมถึงอุทกภัยน้ำท่วม ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วม เพราะการตัดถนนเพื่อการขนส่ง ตัดถนนให้การคมนาคมทางบกสะดวก แต่อาจจะไปทำลายเส้นทางน้ำเป็นสิ่งกีดขวางทางเดินของน้ำ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นในหลายจังหวัด ในยามที่ไม่มีปัญหาพวกเราก็ร้องหาถนน หาความสะดวกสบาย อยากได้ถนน อยากได้รถไฟ และทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เข้าถึงจุดหมายได้เร็วสะดวกที่สุด แต่เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นวันนี้ทุกคนร้องหากคลองทางน้ำ แต่บางครั้งก็สายเกินไป มันมีความเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองของงบประมาณ ในที่สุดก็ต้องนำงบประมาณมาเยียวยาดูแล เป็นงบ ประมาณจำนวนมหาศาล ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ให้ความสำคัญกับการคมนาคมขนส่ง แต่ตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการภัยพิบัติจากธรรมชาติ มีกฎหมายหลายๆอย่างต้องเร่งแก้ไข เรามีนโยบายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่คำว่าป้องกันไม่ใช่ซื้ออุปกรณ์อย่างเดียว กฎหมายในวันนี้จังหวัดไม่สามารถประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยได้จนกว่าจะเกิดเหตุ อันนี้ไม่ใช่ป้องกัน ทางรัฐบาลจะต้องไปเร่งแก้ปัญหา อาจจะต้องเปลี่ยนกฎเกณฑ์หรือกฎระเบียบต่างๆที่จะทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดที่ได้รับสัญญาณต่างๆของพื้นที่


นายอนุทิน กล่าวว่า ในการพัฒนาประเทศและพัฒนาทุกอย่างในความเจริญของประเทศ แต่เราต้องดูด้วย สมัยก่อนเราอาจจะคิดว่าซื้อทำไมอาวุธทำได้หรือไม่ ซื้อทำไมอาวุธเดี๋ยวนี้เขารบกับใครเป็นเรื่องเศรษฐกิจทั้งนั้น เป็นดิจิตอลหมดแล้ว ไม่มีแล้วการเผชิญหน้า เรือรบอะไรก็ไม่ต้องซื้อ เอาเรือประมงอะไรไปสู้ก็ได้ วันนี้พิสูจน์หมดแล้วว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังเกิดขึ้นได้หมดดังนั้นการพัฒนาความมั่นคง พัฒนากองทัพก็ต้องเร่งให้เกิดความพร้อมด้วย ฉะนั้นการจัดทำงบประมาณปี 2570 นี้จึงขอให้ทางสำนักงบประมาณร่วมมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

นายกฯ กล่าวอึกว่า สุดท้ายนี้เนื่องจากสถานการณ์ภาคการคลังของประเทศไทยส่งสัญญาณเตือนหลายด้าน ได้สัดส่วนของรัฐบาล GDP มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากร้อยละ 17 ในปี 2536 เหลือร้อยละ 15 โดยประมาณในปีนี้ ขณะที่สัดส่วนรายจ่ายรัฐบาลต่อ GDP มีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยมีรายจ่ายร้อยละ 70-80 ของภาคใช้จ่ายรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลจึงมุ่งเน้นฟื้นฟูสภาพการคลังประเทศ โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง ช่วงปี 2570 - 2573 กำหนดเป้าหมายที่จะปรับลดการขาดดุลงบประมาณไม่เกินร้อยละ 3 ของ GDP ภายในปีงบประมาณ 2572 และครอบคลุมสัดส่วนที่หนี้สาธารณะให้ไม่เกินร้อยละ 70 ต่อ GDP จึงขอให้เพื่อนข้าราชการทุกท่านทุกฝ่ายช่วยกันใช้หรือบริหารการจ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เพื่อไม่ให้ประเทศไทยของเราต้องเจอวิกฤตการณ์ด้านการเงินการคลังในอนาคต ทั้งนี้งบประมาณรายจ่ายปี 2570 กำหนดกรอบวงเงินงบประมาณไว้ที่ 3.788 ล้านล้านบาท ต้องไม่เพิ่มรายจ่ายประจำที่เป็นภาระงบประมาณในระยะยาวด้วย ข้อจำกัดของวงเงินงบประมาณรัฐบาลขอความร่วมมือจากทุกท่าน ให้ร่วมกันปรับเปลี่ยนการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดการใช้งบประมาณพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกต้องมีความโปร่งใส ต้องเกิดประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งอยากจะขอเติมคำว่าต้องมีความคุ้มค่า เมื่อใช้แล้วจะต้องตอบสนองกลับมาด้วยประโยชน์ของทุกๆด้าน ขอเน้นย้ำอีกครั้งเนื่องจากรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นสูงมาก จึงขอให้เข้มงวดรายจ่ายประจำ โดยให้ขอเฉพาะเท่าที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ต้องช่วยกันเพิ่มประสิทธิภาพจะได้มีเม็ดเงินลงทุนมากขึ้น หรือสำหรับโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะมีรายได้จากการดำเนินโครงการในอนาคต ขอให้ช่วยกันพิจารณาใช้จ่ายจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือThailand Future Fund และขอให้หน่วยงานที่มีเงินนอกงบประมาณพิจารณานำเงินนอกงบประมาณ เงินรายได้ และเงินสะสมมาใช้จ่ายในการดำเนินภารกิจก่อนเป็นอันดับแรก

นายกฯ กล่าวด้วยว่า สุดท้ายนี้ตนยังให้ความเชื่อมั่นกับพวกท่าน รัฐบาลจะยึดหลักการทำงานที่จะดำรงไว้ ซึ่งการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และการบริหารราชการแผ่นดินบนหลักของคำว่าธรรมาภิบาล ตนมั่นใจว่าพวกเราทุกคนรักชาติรักแผ่นดินไม่มีใครน้อยไปกว่าใคร ฉะนั้นเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการร่วมมือด้วยกันเพื่อทำภารกิจที่ได้กล่าวเรียนมานี้สำเร็จลุล่วง ช่วยขับเคลื่อนประเทศของเราให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป พวกเราอยู่กับประชาชนเสมอและพวกเราจะต้องมีความสามัคคีในการทำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติและประชาชนด้วยทุกองค์กรที่มีตนมั่นใจแค่นั้นและหวังว่าจะได้รับความร่วมมือด้วยดีเช่นเคย






กำลังโหลดความคิดเห็น