xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯลั่นไทยต้องปรับทุกมิติฟื้นศก. เป้าแซงเพื่อนบ้าน-หนึ่งในภูมิภาค เทียบศก.เหมือนพรรคไม่ปรับก็เป็นไดโนเสาร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อนุทิน" ปาฐกถา “Reset โครงสร้างประเทศ Recover ศก.” ลั่นไทยต้องปรับทุกมิติฟื้นศก. ตั้งเป้าโตแซงเพื่อนบ้าน-หนึ่งในภูมิภาค อย่าทำตัวเป็นกระต่ายกับเต่า รับโลกวันนี้ผันผวนอยู่ยาก เปรียบศก.เหมือนพรรค ไม่ปรับตัวก็โดนเรียกไดโนเสาร์ ปลุกพลังทุกภาคส่วน บูรณาการขับเคลื่อนศก.เติบโตมั่นคงยั่งยืน ย้ำปีหน้าเลือกตั้งแน่ หวังเล็กๆจะได้มาร่วมงานอีก

วันนี้ (8ต.ค.) ที่โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 13.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานสัมนาใหญ่เศรษฐกิจไทย ประจำปี 2568 “เมื่อโลกเปลี่ยน..ประเทศไทยไปทางไหน?” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “Reset โครงสร้างประเทศ Recover เศรษฐกิจไทย” ว่า ผู้ที่ได้รับขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลทุกท่าน ซึ่งรางวัลนี้ จะเป็นสัญลักษณ์ ทำให้ผู้คนทั้งหลายได้รับทราบถึงความพร้อมและความเข้มแข็ง ของผู้ประกอบการ และระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ว่าเรายังมีความหวังในอนาคตอย่างแน่นอน ช่วงเวลาที่มีความท้าทายที่สุดช่วงหนึ่งของประเทศไทย คือช่วงเวลาที่ประชาชนชาวไทยทุกคนกำลังตั้งคำถามว่าประเทศไทยจะไปทางไหนต่อ เราจะรอดหรือไม่กับสงครามการค้าที่เกิดขึ้น ปีหน้าจะมีวิกฤตอะไรอีก จะเลือกตั้งไหมเลือกแน่ครับ เพราะต้องมีการยุบสภา และยังมีบัณฑิตจบใหม่ จะมีงานทำหรือไม่ พวกเขาจะกล้ามีลูกกันหรือเปล่าในโลกที่ผันผวนใครจะเลี้ยงดูพวกเราตอนแก่ ซึ่งต้องยอมรับว่าโลกของเราวันนี้ อยู่ยากกว่าสมัยที่เราเป็นเด็กและเติบโตขึ้นมา สงครามความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโรคอุบัติใหม่ มีแต่คำว่าสงครามทั้งนั้นที่เราคุ้นชิน แต่คำอื่นเป็นคำใหม่ที่เราเผชิญอยู่คือเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคระบาดใหม่ ของพวกนี้ มากับเทคโนโลยีนวัตกรรม ที่เปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลง ของภาคอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงของระบบต่างๆ ที่ทำให้ มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ซึ่งมีผลกระทบต่อโลก และยังมีการปฏิวัติทางเทคโนโลยีนวัตกรรม โดยเฉพาะ AI เกิดพร้อมกันกำลังเปลี่ยนรูปเศรษฐกิจโลก งานที่เคยมีก็หาย วิชาที่เคยเรียนใช้ไม่ได้ทั้งหมด ประเทศที่ปรับตัวช้าไม่เพียงสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ แต่สูญเสียอำนาจต่อรองบนเวทีโลก ตรงนี้สำคัญมาก

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราจะรีเซ็ตโครงสร้างประเทศ และเศรษฐกิจของไทย ซึ่งเป็นโจทย์ที่สะท้อนความเป็นจริง เราจะต้องปรับระบบเดิมที่ไม่ตอบโจทย์ ต่ออนาคตและวางรากฐานใหม่ เพื่อให้ไทยย่างก้าวไปต่อได้ ในทางเศรษฐกิจ โดยจะต้องมีการทบทวนสิ่งที่ทำทุกวันนี้เหมาะกับความเปลี่ยนแปลงของโลกหรือไม่ โดยเมื่อ 20 ปีก่อนตนอยู่ภาคเอกชนเห็นองค์กรที่เติบโต และองค์กรที่ล่มสลาย ที่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง

นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่คิดว่าไม่เจ๊งก็เจ๊งไปเยอะ สิ่งที่คิดว่าไม่น่าจะโตได้ ก็โต แม้แต่พรรคการเมืองก็เช่นกันพรรคการเมืองไหนไม่ปรับตัวก็โดนเรียกว่าเป็นพรรคไดโนเสาร์และในที่สุดก็ล้มหายตายจากกันไป ฉะนั้นทุกระบบที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกวันนี้

วันนี้ประเทศไทยของเราต้องเปลี่ยนการทำงานทั้งโครงสร้าง แต่ความเป็นประเทศมันต่างจากบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่มีกำไรเป็นเป้าหมายสูงสุด แต่ความเป็นประเทศเป้าหมายสูงสุดคือความมั่นคงในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม ด้านการต่างประเทศ จะต้องรักษาสมดุลให้ได้ เพื่อไม่ให้มิติใด มิติหนึ่งตกหล่นลงหรือเป็นตัวดึงถ่วง การรีเซ็ตประเทศ จึงไม่ใช่ เพียงการเปลี่ยนนโยบาย แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดและการทำงาน การบริหารความร่วมมือ จากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐเอกชนและประชาชน ที่ต้องให้ความร่วมมือไปพร้อมกัน

รัฐบาลที่มีตนเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีนี้ สิ่งที่จะทำคือการรีเซ็ตความมั่นคง ก่อนที่เศรษฐกิจจะเดินจะวิ่งต่อไปได้ความมั่นคงของประเทศจะต้องชัดเจนทั้งภายนอกและภายในประเทศ รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยใช้พลังทั้งการทูต การทหารและเศรษฐกิจเพื่อนำสันติภาพกลับคืนมาสู่ประชาชนเปลี่ยนความตึงเครียดให้เป็นความร่วมมือในอนาคตนี่คือความคาดหวัง และทิศทางที่เราต้องดำเนินต่อไป

ขณะเดียวกันเราต้องจัดการกับปัญหาภัยสังคม ยาเสพติดพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ และการหลอกลวงทางเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงทำลายชีวิตประชาชนในประเทศ แต่ยังมีผลกระทบ ต่อผู้ประกอบการ ในด้านความเชื่อมั่น ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ตนได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำงานแบบบูรณาการยึดหลักโปร่งใส เป็นธรรม กฎหมายประเทศเราต้องศักดิ์สิทธิ์ไม่เลือกปฏิบัติ ที่สำคัญเราต้องหาทางทุกวิถีทาง ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของต้นทุนแฝง ในระบบเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการไม่มากก็น้อย

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในกระบวนการสมัครเข้าเป็นสมาชิกโออีซีดี ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลก หากใครเข้าเป็นสมาชิกได้จะเป็นการยกระดับ ถือเป็นเรตติ้งของประเทศ ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาจะเน้นกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ที่ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม นี่เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่เราต้องเร่งยกเครื่องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆให้ได้มาตรฐานสากลและตอบสนองความต้องการของสังคมในโลกยุคปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

การรีเซ็ตในมิติต่อไปคือเรื่องของเศรษฐกิจ รัฐบาลนี้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจมุ่งเน้นเรื่องสำคัญคือการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ลดหนี้ ส่งเสริมภาคเกษตรกรและการสนับสนุน ให้ธุรกิจเอสอ็มอีฟื้นตัว เรื่องการสร้างรายได้ลดรายจ่ายให้ประชาชน เราได้ดำเนินนวัตกรรมลดค่าครองชีพต่างๆ รวมถึงการลดค่าพลังงาน การขนส่ง ในพื้นที่ห่างไกลกความเจริญให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าที่จำเป็นในราคาที่เป็นธรรม

นอกจากนี้ยังดำเนินโครงการ คนละครึ่งพลัส ซึ่งเป็นนโยบายเศรษฐกิจเฉพาะกิจ ที่มีการกระตุ้นในระยะสั้น แต่ได้ผลยาว เศรษฐกิจกระจายตัว ซึ่งได้ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเรียบร้อย และในไม่กี่สัปดาห์นี้ จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ตั้งแต่ฐานราก จำนวนไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งเราใช้งบประมาณทั้งหมด 44,000 ล้านบาท และยังมีการเติมเงินเข้าบัตรสวัสดิการของรัฐอีก 20,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า จะทำการใช้จ่ายหมุนเวียน เกิดการกระจายตัวเสริมสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นในวงกว้าง จึงฝากให้ทุกท่านช่วยกัน กระจายข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ เพราะหากเขาไม่เข้าใจก็จะสูญเสียโอกาส เสียสิทธิ์ ที่จะได้ในวันละ 200 บาท ซึ่งทำให้กุศโลบายนี้ไม่สัมฤทธิ์ผล
อย่างเต็มที่

ส่วนแนวทาง Smart farming จะสนับสนุนพลังงานแสงอาทิตย์ในภาคครัวเรือนและภาคเกษตร และบริหารสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นการสร้างเศรษฐกิจสีเขียว ช่วยทั้งชาวนา และทำให้เราอยู่ในกติกาใหม่ของโลก ส่วนการเสริมศักยภาพภาคเอกชน SME รัฐบาลเข้าใจกำลังเผชิญกับสงครามกดดันทางการค้า ความผันผวนตลาดโลก จึงเร่งเจรจาข้อตกลงภาษีต่างตอบแทน พร้อมผลักดันเศรษฐกิจดิจิตอลอย่างจริงจัง วันนี้เราต้องตั้งเป้า และเราตามเวียดนามเป็นฝันร้าย และไม่เคยคิดว่าประเทศไทยจะมีเศรษฐกิจที่เติบโตช้ากว่าประเทศในภูมิภาคอินโดจีน พวกเราต้องช่วยกันไม่เกินความสามารถเราเคยนำมาไกลมาก จึงอาจทำให้รู้สึกอยู่ตัวแล้ว ก็เลยชะลอตัว แต่เผลอแป๊บเดียวเหมือนกระต่ายกับเต่า ตื่นขึ้นมา เขานำหน้าไปแล้ว แต่เราอย่าเป็นเหมือนนิทานอีสป เราต้องกระโดดให้ทัน และตนมีความเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถและประสบการณ์พื้นฐานที่ดีของระบบเศรษฐกิจไทยที่วางรากฐานมาอย่างยาวนาน ทั้งพื้นฐานโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิตเกษตรกรรม สังคม ตนมั่นใจว่าเรายังสามารถรีซีเรียลฟลุคไปพักตอนนี้ แต่ต้องกระโดดขึ้นมาให้ทัน รัฐบาลจะดำเนินนโยบายนี้ให้เติบโตเรียกความเป็นผู้นำและประสิทธิภาพกลับมา ซึ่งภูมิประเทศเราได้เปรียบมีทางออกหลายทาง เราจะต้องคงความเป็นศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาคนี้ ซึ่งจุดได้เปรียบเหล่านี้ ยังเป็นความหวังประเทศของเรา จะยังสามารถดำรงความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ได้ หากพวกเราทุกคนให้ความร่วมมือกัน ซึ่งการฟื้นฟูเหล่านี้ จะต้องฟื้นฟูศักยภาพของคนไทยทุกคนด้วยและความท้าทายที่กำลังจะมีจากนี้ไป ถ้าเราไม่ฟื้นฟู หรือทำให้เติบโตเพิ่มมากขึ้นการลงทุนน้อยเสียภาษีน้อย กำไรน้อย จ้างงานน้อยลง รัฐจะเอาตังค์ที่ไหน จากนี้ ไปคนตายยาก สมัยก่อน 75 ก็แย้มฝาโลงแล้ว เดี๋ยวนี้ 90 ยังออกกำลังกายสวนลุมเป็นแถว ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเด็กเกิดใหม่น้อยลง เราเป็นสังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ แต่ผู้สูงวัยจะต้องสูงวัยแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่เช่นนั้นภาษีแทนที่จะพัฒนาประเทศ ก็ต้องนำไปรักษาอากง อาม่า เพราะที่ให้แล้วเอาคืนไม่ได้ เรามีระบบประกันสุขภาพที่ดีมากที่จะรักษาทุกคน รักษาทุกที่ รักษาทุกโรค สมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพูดไปว่าคนไทยต้องเป็นวีไอพี ซึ่งมันดีทำให้คุณภาพชีวิตศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทยเกิดขึ้น แต่มันมีต้นทุน หากมีความมั่นคง เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเราไปได้ แล้วคนเหล่านี้จะไม่เป็นภาระของลูกหลาน จะอยู่ได้จนถึงวันที่เขาไม่ไหว หรือต้องติดเตียงซึ่งจะมีงบประมาณไปดูแล ไม่ใช่ว่า 60 กลับบ้านไม่มีอะไรทำ ผ่านไป 2-3 ปีหงอย กลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ติดเตียง ลูกน้องทำงานอยู่ ก็ต้องลากลับไปดูแล ทำงานล่วงเวลาไม่ได้ ไปต่างประเทศไม่ได้ ติดต้องเลี้ยงดูคนที่บ้าน สิ่งเหล่านี้จะต้องไม่เป็นตัวถ่วง จึงต้องมีระบบการดูแลที่ดี โดยสร้างระบบเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีงานทำและมีรายได้ ซึ่งหลังจากวันก่อนตนได้พูดถึงเรื่องการปรับอายุผู้เกษียณอายุภาคราชการ ซึ่งเวลานี้ กำลังหาแนวทางและเชื่อว่าภาคเอกชนก็มีการรองรับ

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการสนับสนุนเราจะสนับสนุนทุกภาคอุตสาหกรรม ที่สอดคล้อง กับปัจจุบัน และทำให้ประเทศไทยพูดแล้วคนเชื่อมั่น รวมไปถึงอุตสาหกรรมสุขภาพการดูแลผู้สูงวัย ปรับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของประเทศให้เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ การออกแบบเมืองอาคารห้างร้านจะต้องเอื้อวิถีชีวิต ของกลุ่มเปราะบาง ที่จะต้องทำให้เขาแข็งแกร่ง เป็นการเปราะบางด้วยอายุแต่แข็งแกร่งด้วยสุขภาพ

นอกจากนี้ เราจะไม่ปล่อยให้วิกฤตเด็กเกิดน้อยเป็นปัญหาของเราในอนาคต กระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะร่วมกันส่งเสริมให้เด็กไทยเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพเน้นการศึกษาต้องเท่าทันโลกมีโอกาสพัฒนาทักษะและแรงบันดาลใจกลับมาช่วยพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอน

นอกจากนี้ต้องรีเซ็ตด้านสิ่งแวดล้อมและดิจิตอล โลกกำลังเดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ รัฐบาลตั้งเป้าหมาย ปี 2550 จะผลักดันพลังงานสะอาดภาคอุตสาหกรรมเกษตรให้ได้ตามเป้า เพื่อที่จะได้มีที่ยืนบนเวทีโลก สินค้าของเราจะได้รับการยอมรับในทุกประเทศ ทุกภูมิภาคของโลกนี้ ไม่ให้มีการตั้งกฎเกณฑ์ที่ทำให้เราเสียเปรียบเรื่องการค้าอีกต่อไป นอกจากนี้ยังออกกฎหมายสำคัญต่างๆเช่นพ.ร.บ.จัดการอากาศสะอาดพ.ร.บ.เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เป็นการลงทุนระยะยาว เพื่อความยั่งยืนในอนาคตของประเทศตามกฎบัตรของสหประชาชาติ พร้อมทั้งเป็นรัฐบาลดิจิตอล ซึ่งจะเป็นผลบวกในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างนี้นายอนุทินได้กล่าวว่า คนเขียนสปีดเดี๋ยวกลับไปต้องโดนเรียกเข้าห้องเย็น เพราะเขียนคำว่าสุดท้ายหลายครั้งแล้ว ไม่จบสะที พร้อมกล่าวอีกว่า ไม่มีรัฐบาลใดที่จะรีเซ็ตประเทศได้โดยลำพังเราต้องการพลังทั้งจากภาครัฐภาคเอกชน จากแรงงาน จากประชาชนทุกภาคส่วน รวมทั้งสื่อสารมวลชน ประเทศไทยไม่ได้ขาดศักยภาพ แต่เราขาดระบบที่เปิดโอกาสให้ศักยภาพนั้นได้ทำงานอย่างเต็มที่ วันนี้อยากให้กลับมามองประเทศไทยด้วยสายตาที่เป็นมิตรสายตาที่จริงใจซึ่งกันและกัน ปิ๊งๆแล้วเราจะเห็นประเทศ ที่ไม่ใช่ประเทศไทยแค่ฟื้นตัวแต่จะเป็นประเทศไทยในเวอร์ชั่นที่พร้อมจะเติบโตอีกครั้งอย่างยั่งยืนและต้องแซงเพื่อนบ้านให้ได้ต้องเป็นหนึ่งในภูมิภาคให้ได้ ไม่เกินความสามารถ

"ผมยืนยันด้วยความมั่นใจ และมั่นใจกว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคภูมิใจไทยของผมอีก หวังว่าปีหน้าผมจะมีรูปอยู่ตรงนี้เหมือนกับคนที่ได้รับรางวัลและหวังเล็กๆจะมาร่วมงานตรงนี้ได้ในปีหน้า แล้วคนที่รับรางวัลเป็นทั้งเพื่อนและพี่ของผมทั้งนั้น ขอให้ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไปด้วยความมั่นคงและยั่งยืนจนสุดความสามารถที่เรามีอยู่" นายกรัฐมนตรีกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น