“อนุทิน” ถก ครม.ศก. สั่งเร่งช่วยเหลืออุทกภัยภาคใต้ ยอมรับหาดใหญ่ท่วมหนักสุด มอบ “ธรรมนัส” เกาะติดพื้นที่อำนวยการ บูรณาการทุกฝ่ายลดระดับภัยพิบัติ คาดสถานการณ์จะคลี่คลายรวดเร็ว เร่งเยียวยา-ฟื้นฟูเข้า ครม. ชี้ชาวบ้านเข้าเกณฑ์ทุกหลังคาเรือน
วันนี้ (24 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ทำนียบรัฐบาลห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2568 โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยวาระสำคัญเป็นการพิจารณามาตรการผลักดันการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (Thailand Fast Part) เสนอโดย สำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน บีโอไอ ทั้งนี้ ก่อนการประชุมนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า หารือนอกรอบประมาณ 20 นาที ก่อนที่ทั้งสองจะเดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามาที่ตึกบัญชาการ 1 เข้าห้องรับรอง ก่อนเข้าห้องประชุม
นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดประชุมว่า ขอเปิดประชุม คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจหรือการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการประชุม ครั้งที่ 5/2568 และก่อนจะเริ่มประชุม ตนขอมอบเป็นข้อสั่งการและนโยบายเรื่องการช่วยเหลืออุทกภัยในภาคใต้ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการเกิดเหตุอุทกภัยในหลายจังหวัดภาคใต้ และที่มีสภาพหนักสุด คือ ที่จังหวัดสงขลา อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งตนและคณะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งในที่แห่งนี้ที่ได้ประสบภัยด้วย คือ ประธานหอการค้า ต้องขออภัยที่ได้อุตส่าห์นำสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศไปประชุม ประจำปีที่อำเภอหาดใหญ่ มีผู้คนไปมากมาย แต่เกิดอุบัติเหตุน้ำท่วมก่อน และความรุนแรงทำให้กระแสไฟฟ้าทั้งหลายไม่สามารถจ่ายได้ในอาคาร ซึ่งตนได้พบกับท่านที่สนามบิน เพราะต้องใช้เวลารอการเดินทางนานมาก แต่อย่างน้อยยังโชคดี ท่านสามารถที่จะประสานไฟท์เดินทางกลับได้ ต้องขออภัยท่าน ณโอกาสนี้ด้วยและขออภัยพี่น้องประชาชนทุกท่าน
ทั้งนี้ ตนได้มอบให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เรื่องดำเนินการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและช่วยเหลือเยียวยากับผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งสถานการณ์การช่วยเหลือเยียวยาดูแล ลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ส่วนที่ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้คือจำนวนปริมาณน้ำที่ยังคงมีการเพิ่มมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตัวพายุปริมาณฝนยังไม่ได้หยุด ตั้งแต่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกตลอดเวลา ทำให้มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามาอำเภอหาดใหญ่ เปรียบเสมือนเป็นพื้นที่รับน้ำและยังมีน้ำจากเขาที่มาจากอำเภอสะเดา เข้ามาเติมอีด ซึ่งจริงๆอำเภอหาดใหญ่ มีคลองระบายน้ำที่เป็นมาตรฐานที่เรียกว่าคลองชลประทาน ร.1 หากทุกคนเคยผ่านก็จะได้เห็น ไม่เหมือนคลอง แต่เหมือนแม่น้ำเส้นหนึ่งมีความกว้างมากพอสมควร แต่ยังไม่สามารถที่จะระบายน้ำได้
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานกำลังเร่งบริหารจัดการสถานการณ์น้ำอย่างเต็มที่ และเมื่อช่วงเช้านี้ตนได้ขอให้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ เดินทางลงไปอำนวยการ เพื่อที่จะลดระดับของความเป็นภัยพิบัติให้ได้มากและเร็วที่สุด และในฐานะที่รัฐบาลมีคณะกรรมการ ที่ตั้งขึ้นมานานแล้ว เพื่อป้องกันบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่ง ร้อยเอก ธรรมนัส ก็เป็นประธาน บริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัตินั้น ได้เดินทางลงไปบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่าย ซึ่งตนได้รับรายงานในเบื้องต้นว่าได้ไปขอความร่วมมือฝ่ายกองทัพภาค 4 และกรมชลประทาน ที่ร้อยเอก ธรรมนัส กำกับดูแลโดยตรง ขณะเดียวกัน ส่วนของฝ่ายปกครอง ตนได้ขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รับฟังข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส เพื่อบูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงาน ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี จึงมีความคาดหมายว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงด้วยความรวดเร็ว
สถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่ มีบริเวณกว้างครอบคลุมหลายอำเภอ หนักที่สุดคืออำเภอหาดใหญ่ เพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของภาคใต้ ดังนั้น ต้องเร่งฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับมาโดยเร็ว
ส่วนเรื่องมาตรการฟื้นฟู ต้องขอให้นายเอกนิติและผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ โดยขอยืนยันว่า ได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทำการสำรวจผู้ประสบภัยที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเข้าเกณฑ์ทุกหลังคาเรือนบวกกับทรัพย์สินที่เสียหายมีความชัดเจนเข้าเกณฑ์ช่วยเหลือเยียวยา ฉะนั้น อยากให้เร่งฟื้นฟูให้กับประชาชนขั้นต้นเรื่องการเยียวยาอย่างที่ดำเนินการมาตลอด ขอให้เร่งดำเนินการและนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป


