xs
xsm
sm
md
lg

“ธนาธร” ขายฝัน “เมกะโปรเจกต์สีส้ม” ทุ่ม 6.3 แสนล้าน 8 ปีเปลี่ยนไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แกนนำก๊วนก้าวหน้า ชู “เมกะโปรเจกต์สีส้ม” ทุ่ม 6.3 แสนล้าน 8 ปี เปลี่ยนไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ชวนทุกคนลองให้โอกาสพรรคประชาชน กล้าคิดอย่างทะเยอทะยานไปด้วยกัน

วันนี้ (23 พ.ย.) ที่อาคารอนาคตใหม่ ในกิจกรรมรีชาร์จประชาชน Recharge the People เป็นวันที่ 2 ในการเสวนาหัวข้อคุณภาพชีวิตดีที่คนไทยคู่ควร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมเปิดเวทีในหัวข้อ “Orange Megaprojects การลงทุนครั้งใหญ่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย” ว่า วันนี้ทางพรรคขอให้ตนมานำเสนเรื่อง Orange Megaprojects ซึ่งเวลาเราคิดถึงเมกะโปรเจกต์ เราคิดถึงสะพาน ตึก หรือสิ่งที่เป็นโครงสร้างใหญ่ๆ พรรคประชาชนบอกว่าเราควรต้องกลับมาลงทุนกับคุณภาพชีวิตของประชาชน การเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนถึงจะเป็นเมกะโปรเจกต์ เวลาเราบอกว่าเราอยากเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เราอยากเป็นเหมือนเขาด้านอะไร อย่างแรกเราอยากมีรายได้ เราอยากให้คนของเรามีรายได้ต่อเดือนเท่าเขา และเราอยากได้คุณภาพชีวิตเท่าเขา ดังนั้น เวลาเราบอกว่าเราอยากเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วมี 2 มิติ คือ มิติด้านรายได้ และมิติด้านคุณภาพชีวิต

นายธนาธร กล่าวว่า โดยตนอยากเริ่มจากการพาทุกคนไปดูปัญหาใหญ่ๆ ของประเทศไทยว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกคือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหากเราดูการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตัวเลขจีดีพีเราจะเห็นว่ามีทั้งปีขึ้นและปีลง 10 ปีมีปัญหา 1 ครั้ง แต่ในภาพรวมยังเติบโตอยู่ แต่หากเราดูเป็นทศวรรษ ทศวรรษที่ 2530 เรามีการเติบโตเฉลี่ย 7.3% ต่อปี ทศวรรษที่ 2540 เราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 5.3% ทศวรรษที่ 2550 การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 3.2% ต่อปี และทศวรรษนี้ เหลือ 2.0% ต่อปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเรากำลังแข่งขันกับโลกไม่ได้ เราเติบโตสู้กับชาวบ้านไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่สะท้อนเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้าแต่สะท้อนปัญหาที่สะสมมายาวนานซึ่งแก้ไขได้ยากกว่ามีวิกฤตเฉพาะหน้าแล้วลงลึก

นายธนาธร กล่าวต่อไปว่า การใช้จ่ายและการลงทุนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ก่อให้เกิดการเติบโตของรายได้ ทำให้เงินที่เรากู้มาเป็นสัดส่วนมากขึ้นกว่ารายได้ ซึ่งสะท้อนว่าเราลงทุนอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และการตรวจสอบของเราตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล และพรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านก็บอกเช่นนั้น เช่น เราเจอเรื่องตึกที่สร้างขึ้นมาแล้วไม่ได้ใช้งาน และหากเรายังใช้ต่อไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพดอกเบี้ยต่อประมาณการรายได้ของรัฐก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลต่อไปจะแบกรับภาระที่หนักมาก เงินจะเหลือให้นำไปพัฒนาน้อยลงเพราะต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยที่มากขึ้น ต่อไปต้องใช้เงินอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ สร้างผลการเติบโตต่อไปในอนาคตให้กับประเทศได้จริง

นายธนาธร กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ตนอยากเสนอการใช้จ่ายภาครัฐที่มาจากภาษีของทุกคน คือ 1. จะต้องเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น แก้ปัญหาสังคมได้ 2. สร้างงานที่มีคุณภาพ คนต้องมีงานทำ และต้องเป็นงานที่มีคุณภาพ 3.สร้างอุตสาหกรรมใหม่ สร้างเทคโนโลยีของคนไทย 4. ทำให้ประเทศไทยพร้อมรับมือสำหรับความท้าทายในอนาคต เราเสนอ 6.3 แสนล้านบาทใน 8 ปี ซึ่งจะถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยให้เทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้วได้ แบ่งเป็นการจัดการน้ำเสีย 6 หมื่นล้านบาท น้ำประปาดื่มได้ 7.5 หมื่นล้านบาท ขนส่งสาธารณะ 3.7 หมื่นล้านบาท การจัดการขยะ 1.83 แสนบ้านบาท โรงเรียน 5 หมื่นล้านบาท โรงพยาบาล 3 หมื่นล้านบาท และโครงข่ายไฟฟ้าอัจรยะ 1.92 แสนล้านบาท ตัวเลขอาจฟังดูเยอะแต่เมื่อหารด้วย 8 ปีแล้ว ออกมาปีละไม่ถึง 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งพอเป็นไปได้ที่จะลงทุนสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้กลับมาสะท้อนคุณภาพชีวิตของประชาชน

“หากเราไม่กล้าคิดอย่างทะเยอทะยานเราจะไปไม่ถึง หลายคนฟังแล้วบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ลองให้โอกาสพวกเราดู ผมคิดว่านี่เป็นเวลาของการกล้าทะเยอทะยาน นี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปหากพรรคประชาชนได้รับความไว้วางใจ ให้เข้ามาบริหารจัดการงบประมาณ งบฯ จะไม่ถูกใช้อย่างสะเปะสะปะ แต่จะถูกใช้อย่างมีเป้าหมาย เราจะทำให้คงเส้นคงวาและทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นจริง เหตุผลที่ต้องใช้ 8 ปี เพราะเรื่องเหล่านี้มันใหญ่ 4 ปีไม่จบ 8 ปีตั้งเป้าแบบนี้ว่าจะมีบริการเหล่านี้ให้ทัดเทียมกับประเทศพัฒนาแล้ว ผมคิดว่ามีโอกาส ขอทุกคนเดินทางไปกับพวกเรา ให้กำลังใจพวกเรากล้าคิดอย่างทะเยอทะยานไปด้วยกัน” นายธนาธร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น