xs
xsm
sm
md
lg

KTAM เปิดกองทุนชะริอะฮ์ สร้างโอกาสเติบโตในหุ้นต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางปี 2568 ที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอนจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองโลก ทั้งการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายการค้า เรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบศตวรรษทำให้นักลงทุนต่างมองหาสินทรัพย์ที่สามารถสร้างการเติบโตควบคู่กับการกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนักลงทุนทั่วไปแล้ว เรายังคงคำนึงถึงการลงทุนของนักลงทุนชาวมุสลิมที่มีกรอบการลงทุนที่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากการลงทุนจะต้องเป็นไปตามหลักชะริอะฮ์อย่างเคร่งครัด บริษัทฯ จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดเคแทม World Islamic Equity Passive(KT-WISLAMIC) (ความเสี่ยงระดับ 6) เปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 22 ส.ค. – 2 ก.ย. 68 นี้

โดยบริษัทฯ ได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนพร้อมกันทั้ง 2 ชนิด ได้แก่ KT-WISLAMIC–A ซึ่งจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน (Front-end Fee) จำนวน 1% และ KT-WISLAMIC-AB ซึ่งบริษัทฯ จะไม่เรียกเก็บ Front-end Fee แต่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (Back-end Fee) จำนวน 1% ในกรณีที่ถือครองหน่วยลงทุนต่ำกว่า 1 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ส.ค. 68)

สำหรับหลักชะริอะฮ์ คือ หลักการในการดำเนินชีวิตตามข้อกำหนดของศาสนาอิสลาม ครอบคลุมทั้งการใช้ชีวิต การประกอบธุรกิจ และการลงทุน โดยการลงทุนจะมีข้อจำกัดว่าห้ามลงทุนในธุรกิจต้องห้าม เช่น แอลกอฮอล์ การพนัน อาวุธ สินค้าหมู ธุรกิจทางการเงินที่อิงดอกเบี้ยเป็นต้น ซึ่งกองทุน KT-WISLAMIC ได้ให้ความสำคัญต่อการคัดกรองเหล่านี้ จึงทำให้พอร์ตการลงทุนสะอาด โปร่งใส และถูกหลักชะริอะฮ์ โดยการรับรองจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านชะริอะฮ์
กองทุน KT-WISLAMIC เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares MSCI World Islamic UCITS ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV สำหรับกองทุนหลักบริหารจัดการโดย BlackRock Asset Management Ireland Limited (บริษัทในเครือของ BlackRock, Inc.) มีการบริหารแบบ Passive และมุ่งหวังที่จะสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนี MSCI World Islamic Index ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางในประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเป็นไปตามหลักชะริอะฮ์ 

สำหรับจุดเด่นของกองทุน KT-WISLAMIC นอกจากเป็นกองทุนรวมอิสลามกองทุนแรกและกองทุนเดียวในประเทศไทยที่เน้นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศแล้ว กองทุนยังมุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศขนาดใหญ่/ขนาดกลางในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลกที่เป็นไปตามหลักชะริอะฮ์ โดยมีคณะกรรมการชะริอะฮ์พิจารณาการลงทุนให้สอดคล้องตามหลักชะริอะฮ์รวมถึงจะมีการพิจารณาคุณสมบัติทางด้านอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ สภาพคล่อง จึงเชื่อว่าการลงทุนในกองทุน KT-WISLAMIC จะสอดคล้องตามหลักชะริอะฮ์ และถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลเช่นเดียวกันกับที่นักลงทุนต่างประเทศทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้

ปัจจุบันกองทุนรวมหลักได้มีการกระจายการลงทุนไปทั่วโลก โดยข้อมูล ณ วันที่ 12 ส.ค. 68 ได้ลงทุนในหลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ได้แก่ Microsoft Corp บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ, Tesla Inc ผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV), Exxon Mobil Corp บริษัทน้ำมันและก๊าซยักษ์ใหญ่ระดับโลก, Johnson & Johnson บริษัทด้านสุขภาพระดับโลก และ Procter & Gamble Co บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีแบรนด์ดังระดับโลกเป็นต้น

“การเน้นการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่/ขนาดกลางในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วซึ่งถือว่าเป็นหุ้นกลุ่มที่มีสภาพคล่องค่อนข้างสูงจะช่วยให้พอร์ตการลงทุนของเราสามารถรับมือกับความผันผวนต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ หุ้นสหรัฐฯ ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งเมื่อเศรษฐกิจเชิงมหภาคไม่ได้เอื้ออำนวยต่อการเติบโต ซึ่งดูได้จากระดับหนี้สาธารณะและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น การลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีแรงขับเคลื่อนเฉพาะตัว เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ดังนั้น การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนในช่วงที่ตลาดยังมีความไม่แน่นอนจึงมีความสำคัญมาก ซึ่งนอกจากนักลงทุนทั่วไปแล้ว เรายังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนของชาวมุสลิมที่มีความเคร่งครัดโดยต้องเป็นไปตามหลักชะริอะฮ์ เราจึงเชื่อว่าการลงทุนในกองทุน KT-WISLAMIC จะสอดคล้องตามหลักชะริอะฮ์อย่างแท้จริง” นางชวินดา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น