กิจการร่วมค้า ฟิวร์เจอร์สกาย เผย แรงงานต่างด้าว นายจ้าง และ บน.จ. เข้าใช้ e-Work Permit เพียง 1 เดือน ตัวเลขทะลุเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมยืนยัน ระบบนี้ ไม่มีช่องโหว่ ให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาได้อย่างแน่นอน
นายชัยรัตน์ แสงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กิจการร่วมค้า ฟิวร์เจอร์สกาย เปิดเผยถึงความสำเร็จของโครงการ Outsourcing Service ซึ่งเป็นให้บริการลงทะเบียนคนต่างด้าวที่ต้องการเข้ามาทำงาน และ/หรือ ต้องการต่ออายุใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย ผ่านระบบ e-Work Permit ของกระทรวงแรงงานว่า หลังจากเปิดให้บริการครบ 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2568 จนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ปรากฏว่า ระบบ e-work permit สามารถรับลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว ได้มากถึง 220,769 ราย
โดยแบ่งเป็นการลงทะเบียนของกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้ คือ คนต่างด้าว(แรงงานต่างด้าว) 120,269 ราย นายจ้าง 81,551 ราย บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว (บน.จ.) 331 ราย ผู้ดำเนินการแทน 17,619 ราย หน่วยงานรัฐและมูลนิธิ 999 ราย นอกจากนี้ ยังมีคนต่างด้าว (แรงงานต่างด้าว) ที่แจ้งเข้าระบบ e-work permit โดยอัตโนมัติอีก 2,102,570 ราย ทำให้ข้อมูลของแรงงานต่างด้าว ที่อยู่ในระบบ e-work permit ของกระทรวงแรงงานมีมากถึง 2,323,339 ราย
“เราเปิดให้บริการ e-Work Permit ครบ 1 เดือนแล้ว ซึ่งผลตอบรับของระบบในเบื้องต้นถือว่า บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนผู้ใช้บริการในแต่ละวันก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงมีความมั่นใจมากขึ้นว่า ระบบ e-Work Permit สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
นายชัยรัตน์ ยังได้กล่าวอีกว่า กรณีที่มีผู้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบ e-Work Permit ตามโครงการ Outsourcing Service ไปก่อนหน้านี้โดยเฉพาะในเรื่องของงบประมาณในการจัดทำโครงการ รวมไปถึงความไม่มั่นใจระบบ โดยกังวลว่า อาจจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาใช้ระบบ e-Work Permit นั้น ขอชี้แจงว่า เงินที่นำมาจัดทำโครงการนี้ ทราบว่า มาจากกองทุนเพื่อการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว หรือ เงินที่เก็บจากแรงงานต่างด้าวเป็นค่าธรรมเนียมในการขออนุญาตทำงานในประเทศไทย
ขณะที่โครงการนี้ถูกกำหนดให้เอกชน ซึ่งก็คือ กิจการร่วมค้า ฟิวร์เจอร์สกาย ต้องเป็นผู้ลงทุนจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ บุคลลากร และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปก่อน โดยจะได้รับค่าจ้าง ตามปริมาณใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวที่ผลิตเสร็จ เป็นรายฉบับ ๆ 520 บาท ซึ่งกระทรวงแรงงาน กำหนดจ่ายเป็นงวดรายเดือน รวมไม่เกิน 120 งวด
ส่วนข้อกังวลที่ว่า ระบบ e-Work Permit อาจมีช่องโหว่ ให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาใช้ระบบในการออกใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยได้นั้น ขอชี้แจงว่า e-Work Permit เป็นระบบที่ต้องมีการเก็บอัตลักษณ์บุคคล หรือต้องทำ Bio metric แรงงานต่างด้าว เช่น สแกนใบหน้า สแกนม่านตา รวมทั้งการต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ ทั้ง 10 นิ้วก่อนที่จะมีการตรวจความถูกถ้วนของเอกสาร เพื่อเข้าสู่กระบวนการออกใบอนุญาตทำงานต่อไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ หรือเปลี่ยนตัวบุคคล นอกจากนี้ e-Work Permit ยังเป็นระบบที่ช่วยป้องกันการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งยังเป็นระบบที่ไม่สามารถทำการทุจริตได้อีกด้วย
นายชัยรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า e-Work Permit ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบที่โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ดังนั้นหากผู้ใดมีข้อสงสัยก็สามารถติดต่อไปยังศูนย์บริการใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว ที่มีอยู่ 40 แห่งทั่วประเทศ คือ ในกรุงเทพมหานคร 7 แห่ง และในต่างจังหวัด 33 แห่ง รวมทั้งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง (ศูนย์ชายแดน) อีก 5 แห่ง ตลอดจนรถโมบาย ซึ่งเป็นหน่วยบริการเคลื่อนที่อีก 8 หน่วย ที่พร้อมเดินทางไปให้บริการทั่วประเทศ


