ศาล ปค.สูงสุด สั่งเพิกถอนประกาศ ก.แรงงาน ที่อนุญาตให้นักบินต่างชาติทำการบินในเส้นทางบินภายในประเทศ เหตุออกโดยมิชอบ กระทบโอกาสในการประกอบอาชีพของคนไทย
วันนี้ (17 พ.ย.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เพิกถอนประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ประจำหน้าที่นักบินประจำอากาศยานด้วยวิธีการเช่าพร้อมผู้ประจำหน้าที่ (Wet Lease) ตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2567 โดยให้นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสมาคมนักบินไทย และนายกสมาคมนักบินไทย ได้ยื่นฟ้อง กระทรวงแรงงาน กับพวกรวม 2 คน ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนประกาศกระทรวงแรงงาน ดังกล่าว ที่ รมว.แรงงาน ออกตามที่บริษัทเอกชนผู้ประกอบธุรกิจในการเดินอากาศรายหนึ่งได้มีหนังสือถึง เพื่อขอความอนุเคราะห์พิจารณาการใช้ผู้ควบคุมอากาศยานต่างชาติทำการบินในเส้นทางบินภายในประเทศเป็นการชั่วคราว โดยอ้างว่า เนื่องจากภาครัฐบาลได้มีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศและสายการบินมีแผนในการจัดหาอากาศยานแบบ A320 จำนวน 2 ลำ ด้วยวิธีการเช่าพร้อมผู้ประจำหน้าที่ (Wet Lease) มาใช้บริการในเส้นทางบินภายในประเทศเป็นการชั่วคราว
ส่วนที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศดังกล่าว ระบุเหตุผลว่า เมื่อพิเคราะห์ถึงบทบัญญัติตามมาตรา 7 วรรคสอง และมาตรา 14 พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 2560 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการออกประกาศที่พิพาทอันเป็นการยกเว้นให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรแล้ว แม้ว่าในเรื่องดังกล่าว รมว.แรงงาน จะมีอำนาจตามกฎหมายในการออกประกาศยกเว้นได้ก็ตาม แต่การใช้อำนาจตามกฎหมายเช่นว่านั้นจะต้องเป็นกรณีพิเศษเฉพาะเรื่องที่มีความจำเป็นในการรักษาความมั่นคง การเศรษฐกิจของประเทศ หรือการป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะตามนัยมาตรา 14 แห่งพระราชกำหนดดังกล่าว และจะต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ โอกาสในการประกอบอาชีพและวิชาชีพของคนไทย การส่งเสริมภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ไทย และความต้องการแรงงานต่างด้าวที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศเท่านั้น
เมื่อการออกประกาศที่พิพาทในคดีนี้เป็นกรณีสืบเนื่องมาจากการที่บริษัทเอกชนผู้ประกอบธุรกิจในการเดินอากาศรายหนึ่งได้มีหนังสือถึง รมว.แรงงาน เพื่อขอความอนุเคราะห์พิจารณาการใช้ผู้ควบคุมอากาศยานต่างชาติทำการบินในเส้นทางบินภายในประเทศเป็นการชั่วคราว ซึ่งเห็นได้ว่ามิใช่เป็นกรณีพิเศษเฉพาะเรื่องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ การออกประกาศที่พิพาทในคดีนี้จึงมีลักษณะเป็นการออกกฎที่ไม่ได้รักษาประโยชน์สาธารณะตามที่ พ.ร.ก.กำหนดการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 2560 บัญญัติไว้ แต่เป็นการรักษาประโยชน์สาธารณะด้านอื่น ซึ่งถือเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จึงมีคำพิพากษาให้เพิกถอนประกาศดังกล่าว



