“ผศ.ดร.วันวิชิต” เผยบทสนทนากับ “บิ๊กเล็ก” ก่อนรับตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.กลาโหม ยืนยันพร้อมท้าสาบานไม่เคยโทร.สั่ง “แม่ทัพกุ้ง” ให้หยุดยิงหลังเปิดฉากรบเขมร 6 ชม. ส่วนจะเป็นคนนั้นหรือไม่ ไม่ขอก้าวล่วงเพราะเข้าไม่ถึง พ้อมีขบวนการใส่ร้าย เสี้ยมให้ รมว.กห.ขัดแย้งแม่ทัพกุ้ง
จากกรณีที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวบรรยายพิเศษที่พุทธสถานปฐมอโศก อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้กล่าวถึงการสู้รบกับกัมพูชาช่วงวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังจากสู้รับกันได้เพียง 6 ชั่วโมงก็มีผู้ใหญ่สั่งให้หยุดยิง แต่ตนไม่หยุด เพราะต้องการเอาแผ่นดินคืนและได้เริ่มทำการรบไปแล้ว จึงขอรบต่อ และถ้าหากหยุด ตนจะเปิดเผยชื่อคนสั่งให้หยุดซึ่งผู้มใหญ่คนนั้นจะมีโทษถึงปรหารชีวิตนั้น
ล่าสุด วันนี้(9 พ.ย.) ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง ที่ปรึกษา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก Wanwichit Boonprong ดังนี้
ผมจะขอชี้แจงตรงนี้ ที่นี่ครั้งเดียวนะครับ ถึงเรื่องราว และคำถามว่าเหตุผลใดผมจึงมารับตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.กลาโหม และตอนนี้กำลังขบวนการตัดต่อคลิป พยายามบ่งชี้ว่า “ใครสั่งแม่ทัพกุ้งหยุดยิง” แน่นอนมันเป็นการดิสเครดิตตัว ทำให้ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีกลาโหมเกี่ยวข้อง ผมจะขอเริ่มต้นอธิบายถึงความสัมพันธ์ผมกับ “พี่เล็ก” พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ตามเหตุผลที่เรียงลำดับเป็นข้อๆ ดังนี้
1. โดยสัตย์จริง ผมได้พบกับ “พี่เล็กครั้งแรก” เมื่อต้นปีนี้ เพื่อติดต่อเข้าพบเข้ารับแนวทางแก้ไขปัญหา ในการเรียน วปอ. พี่ๆ ใน วปอ.ต่างทราบดี
2. หลายคนอาจมองว่าผมมาจากครอบครัวทหาร น่าจะรู้จักมักจี่กันมาก่อนแล้ว ไม่เลยครับ คุณพ่อผมจบเตรียมทหารรุ่น 4 พลเอกณัฐพล จบเตรียมทหารรุ่น 20 ห่างกันมาก และการรับราชการคนละพื้นที่ ไม่เคยบรรจบกัน คุณพ่อพบกับพี่เล็กครั้งเดียวในงานแต่งงานแห่งหนึ่ง พี่เล็กเข้ามาสวัสดีคุณพ่อผม ในฐานะที่คุณพ่อของผมเป็นรุ่นพี่ ของท่านเท่านั้น
3. พอมีเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ท่านให้เกียรติโทรมาเชิญผมเป็นที่ปรึกษา ของผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดน ไทย - กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้ร่วมงานกันเดือนกว่าๆ ก็ปิดต้วลง เพราะมีการเปลี่ยนรัฐบาลเกิดขี้น
4. ช่วงปลายเดือนกันยายน ท่านโทรมาถามอย่างให้เกียรติว่า “อยากให้มาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี” อาจารย์สะดวกมั้ยครับ ผมจึงมีคำถามที่ต้องเคลียร์ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่าจะรับตำแหน่งที่ปรึกษาฯ หรือไม่ ซึ่งตรงกับคลิปในกระแสที่กำลังสัมภาษณ์แม่ทัพพี่กุ้ง
ผมเรียนถามท่านว่า
ผม: “การเจรจาลงนามที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อหยุดยิงในเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. (ความจริง การเริ่มต้นยิงปะทะ วันที่ 24 -26 มีข่าวสั่่งให้หยุดยิงภายใน 6 ชั่วโมง)
เรื่อราวทั้งหมด พี่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือพี่ได้โทรไปหาพี่กุ้ง มั้ยครับ” (ข้อมูลจริงๆ คือ มาเลเซียประสานมาให้หยุดยิง วันที่ 26 ครับ)
พลเอกณัฐพล : “พี่ตอบอาจารย์จริงๆ นะ พี่สาบาน พี่ไม่เคยโทรไป หรือสั่งการใดๆ กับกุ้ง หรือแม้แต่ ผบ.ทบ.เลย พี่เป็นทหารทำไมจะไม่รู้”
ผม: “ถ้าอย่างนั้นเป็นคุณ….ใช่มั้ยครับ”
พลเอกณัฐพล: “พี่ไม่ก้าวล่วง และเข้าไม่ถึง…ด้วย”
ผม: “ครับ งั้นผมน่าจะเข้าใจแล้วว่าใคร ขอคิดเองคนเดียวนะครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ผมยินดีเข้าร่วมทำงานกับพี่ครับ”
พลเอกณัฐพล : “พี่ขออย่างเดียว อย่าอวยหรือแก้ต่างให้พี่ ขอแค่ช่วยเอาความจริงมาบอกประชาชน พี่พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ พี่ห่วงแต่ว่า ถ้าอาจารย์เข้ามาตรงนี้ ชีวิตอาจารย์จะไม่เหมือนเดิม มีแรงกระแทกอย่างแน่นอน”
ผม : “ไม่เป็นไรครับ เพราะรัฐบาลนี้อยู่ไม่นาน ผมถือว่าไปเรียนรู้จากหน้างาน ได้ประสบการณ์จริง จะได้มาบอกเล่านักศึกษา หรือคนอื่นๆ ได้ครับ”…
5. วันที่ผมตอบรับตำแหน่ง พี่ๆ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ติดตาม หรือใกล้ชิดกับ แม่ทัพพี่กุ้ง ต่างบอกว่า “ดีแล้ว อาจารย์จะช่วยพี่เล็กได้มาก ช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนเข้าใจพี่เล็กผิดไปมาก และชอบเสี้ยมให้ขัดแย้งกับพี่กุ้ง” ไม่มีเลยครับ ทหารสักนายมาห้ามผม หรือห่วงใยว่าอย่าเข้าไปเลย
ผมยืนยันไม่ได้รู้จักท่านเป็นการส่วนตัวมาก่อนเลย ผมเองสมัยหนึ่งยังเคยวิจารณ์ให้คุณสุทิน คลังแสง เป็น รมว.กลาโหมต่อไปเลย ให้พลเอกณัฐพล รอก่อน เพราะอยากให้พลเรือนสามารถทำงานกับกองทัพได้ (คลิปหลักฐานไปหาดูในรายการ คมชัดลึก นะครับ)
คนมักกล่าวหาใส่ความอย่างมีอคติ ว่าท่านเป็นสปาย เป็นไส้ศึก ผมบอกว่าถ้าคิดอย่างนี้ทั้งกองทัพไทย ก็เป็นไส้ศึกกันหมดล่ะครับ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดท่านปัจจุบัน เติบโตมาจากกรมยุทธการทหารบก ตามรอย “พี่เล็ก” มาเลย หรือ เสนาธิการทหารบกเป็นเพื่อนรักสนิทสนมกับ ผบ.ทบ.มาก ท่านยังเป็นน้องรักกับ รมว.กลาโหม ถ้ามีมูลเชื้อความหวาดระแวงกันอย่างนี้ พลเอกณัฐพลไม่น่าจะได้รับการยอมรับจากน้องๆ ในกองทัพหรอกครับ ถ้าคนติดตามข่าวสารการเมืองการทหารมายาวนาน ถ้าใครมีชื่อถูกเสนอมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ถ้า ผบ.ทบ.ไม่เอาด้วย ก็ไปต่อยากนะครับ
เมื่อผมได้มีโอกาสติดตาม รมว.กลาโหม อาทิ ไปเยี่ยมทหารจากการสู้รบ ไทย-กัมพูชา ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ท่านเองไม่อยากให้ลงข่าว กังวลจะมีคนกล่าวหาว่าสร้างภาพ (ถ้าคนคิดไม่ดีจะบอกว่า สงสัยสำนึกผิดเลยทำแบบนี้ ; อันนี้ผมดักคอไว้ก่อนเลยนะครับ จะมีคนคิดลบแบบนี้จริงๆ)
พวกผมและทีมงานขอร้องและบังคับให้ลงภาพ ลงข่าว จะได้กระทุ้งไปยังส่วนการเมือง พรรคการเมืองให้เข้าใจทหารมากขึ้น ที่เค้าทำเพื่อประเทศ ราชบัลลังก์ และประชาชน (ผมถึงกล้าลงรูปหมวดบุ๊ค, หมวดป้อ ในเฟซบุ๊กไงครับ)
ทุกวันนี้ รมต.ยังไปดอดเยี่ยมทหารชายแดน พาผมไปเยี่ยมทหารเกณฑ์เค้ามีชีวิตกันอย่างไร ไม่เคยหยุดเสาร์-อาทิตย์
ป.ล. นี่คือที่มาความจริงทุกประการ ใครไม่พอใจจะเลิกติดตามผม ก็ได้นะครับ ถ้าเนื้อหาไม่ถูกใจใคร แต่ผมทนไม่ได้ขบวนการชี้หน้าใส่ร้ายว่าขายชาติ ใส่คนที่ทำงานด้วยความจงรักภักดี ไม่ปริปากบอกใคร ผมทนไม่ได้ จำเป็นต้องชี้แจง ถ้าผมอยู่นิ่งเฉย ไม่ออกมาชี้แจงอะไรบ้าง ผมก็ไม่ควรสอนหนังสือใครได้แล้วครับ


