xs
xsm
sm
md
lg

เขมรใช้เวทีสมัชชา IPU เพ้อเกินเวลาจนถูกตำหนิ อ้างไทยเปิดเสียงหลอนละเมิดสิทธิ ยกสนธิสัญญา-ศาลโลก–MOU เคลมที่พิพาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอง ปธ.วุฒิฯเขมร ใช้เวทีสมัชชา IPU ซัดไทย ละเมิดชายแดน เปิดเสียงหลอนกลางดึก ละเมิดสิทธิฯ ยกสนธิสัญญาฝรั่งเศส–คำพิพากษาศาลโลก–MOU 43 หนุนสิทธิกัมพูชาเหนือพื้นที่พิพาท ยันเคารพข้อตกลงหยุดยิง 28 ก.ค. ร่ายพูดยาวเกินเวลาโดน ปธ. IPU ตำหนิ

วันนี้ (21ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นาย อุช โบฤทธิ์ รองประธานวุฒิสภา ผู้แทนรัฐสภากัมพูชา ขึ้นกล่าวในเวที General Debate ในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา(IPU) ครั้งที่ 151 ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยได้กล่าวขอบคุณผู้แทนจากไทยที่มีส่วนร่วมในสมัชชาสหภาพรัฐสภา และยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวทีนานาชาติ โดย กัมพูชายึดมั่นสันติภาพ ความปรองดอง และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศทุกข้ออย่างซื่อสัตย์

นายอุช โบฤทธิ์ กล่าวว่า หากประเมินสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของการประชุม IPU หนนี้ จะพบว่ามาตรฐานมนุษยธรรมถูกละเมิดอย่างรุนแรงจากปัญหาตามแนวชายแดนของกัมพูชา ซึ่งมีปัญหามาเนิ่นนาน กัมพูชาไม่คิดจะเป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น จึงขอร้องประเทศไทย ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านของเรา ให้รับทราบเรื่องนี้ด้วย

รองประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวต่อว่า สงครามระหว่างประเทศของเรา (หมายถึงไทยกับกัมพูชา) เรื่องพรมแดนล้วนมีขอบเขตตามที่กำหนดโดยกฎหมาย ถูกควบคุมโดยเครื่องมือระหว่างประเทศที่มีผลผูกพัน ตั้งแต่สนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ค.ศ.1904 ซึ่งมีแผนที่ประกอบเป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังมีสนธิสัญญาอีกหลายฉบับ ตลอดจนหลักกฎหมาย รวมถึงคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) ด้วย หลักฐานยังถูกเขียนขึ้นโดยบันทึกข้อตกลงปี 2000 (MOU 2543) มีการตั้งกรรมาธิการร่วม รับผิดชอบทางด้านเทคนิคในการดำเนินการเรื่องเขตแดน
น่าเสียดายที่ความขัดแย้งนี้ควรได้รับการพิจารณาตามเครื่องมือทางกฎหมาย รวมถึงอำนาจตุลาการที่ได้รับการยอมรับ

นายอุช โบฤทธิ์ ยังแสดงความขอบคุณประเทศจีน มาเลเซีย และ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สำหรับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา และมีการสร้างผลงานสำคัญขึ้นมา นั่นก็คือข้อตกลงหยุดยิงของทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม แต่แม้กระบวนการตามข้อตกลงจะมีความก้าวหน้า ทว่าบริเวณพรมแดนยังคงเปราะบาง ชาวบ้านกัมพูชายังคงถูกโยกย้าย ถูกปิดล้อม และถูกดดันให้ออกจากพื้นที่ ทหารกัมพูชา 18 คนยังถูกควบคุมตัว ซึ่งถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีปฏิบัติการจิตวิทยา ปล่อยเสียงแหลมดังในเวลากลางคืน ทำให้ประชาชนชาวกัมพูชาใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัว แม้การกระทำเช่นนี้จะไม่ใช่การโจมตีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง แต่ก็เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายข้อ โดยเฉพาะสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยไทยกระทำการฝ่ายเดียวเพื่อกำหนดข้อบังคับต่างๆ อ้างว่าเป็นการกระทำภายในประเทศของตน

นายอุช โบฤทธิ์ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า กัมพูชายอมรับไม่ได้ที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดต่อมรดกโลก เพราะปราสาทพระวิหาร และปราสาทต่างๆ เป็นของกัมพูชา การส่งกำลังทหารเข้าไปก็เพื่อพิทักษ์ปราสาทของเรา เป็นพื้นที่ของกัมพูชา รวมถึงการวางอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ก็อยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชา

นายอุช โบฤทธิ์ กล่าวย้ำว่า กัมพูชาเคารพต่อข้อตกลงหยุดยิง กฎหมายระหว่างประเทศ และสนธิสัญญาทุกฉบับ

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าการพูดของนายอุช โบฤทธิ์ ใช้เวลานานเกินกำหนด ทั้งๆ ที่บริเวณโพเดียมจะมีการติดไฟเตือนเอาไว้เมื่อเวลาหมด ทำให้ระหว่างพูดจึงมีแสงสีแดงเตือนถี่ๆ หลายรอบ

ขณะที่ประธานการประชุมได้กล่าวแจ้งเตือนผ่านไมโครโฟนหลายครั้งว่า เวลาหมดแล้ว แต่ นายอุช โบฤทธิ์ ก็ไม่สนใจ โดยพยายามพูดจนจบตามเนื้อหาที่เตรียมมา จนประธานได้กล่าวตำหนิว่า เป็นการพูดที่ไม่เคารพเวลา ส่งผลกระทบต่อสมาชิกชาติอื่นๆ เพราะทุกคนก็อยากพูดเช่นเดียวกัน ขณะที่สมาชิกชาติอื่นๆ ต่างส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นายอุช โบฤทธิ์ มีคิวพูดในลิสต์ B เพราะเป็นรองประธานวุฒิสภา ไม่ใช่ประธาน จึงถูกจัดคิวพูดในวันที่ 2 ของเวที General Debate โดยก่อนหน้านี้นายอุช โบฤทธิ์ ไม่ปรากฏในห้องประชุมต่างๆ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา รวมถึงเวที General Debate ซึ่งเป็นเวทีใหญ่วันแรก ที่เปิดให้ประธานรัฐสภาจากประเทศต่างๆ ได้อภิปรายต่อที่ประชุมคนละ 6-7 นาที โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาของไทย ขึ้นพูดในลำดับที่ 17 ในลิสต์ A แต่นายอุช โบฤทธิ์ ก็ไม่ได้มาร่วมรับฟังด้วยแต่อย่างใด มีเพียงสมาชิกรัฐสภาของกัมพูชามานั่งสังเกตการณ์เท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น