xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์” เผยกมธ.ถกร่างกม.อสม.เสร็จแล้ว เพิ่มเป็น 67 มาตรา หนุนมีสถานะมั่นคง–ยกระดับสุขภาพชุมชนทั่วประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กมธ.วิสามัญฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.อสม. เสร็จสิ้น แก้ไขเพิ่มจาก 50 เป็น 67 มาตรา “สมศักดิ์” ชี้หนุนอสม.มีสถานะมั่นคง–สิทธิประโยชน์ชัดเจน สร้างแรงจูงใจทำงาน ตั้งเป้ายกระดับระบบสาธารณสุขชุมชนให้เข้มแข็ง ลดภาระโรคเรื้อรัง -ค่าใช้จ่ายรัฐ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและแนวหน้าสุขภาพ พ.ศ. …. เปิดเผยภายหลังการประชุมครั้งที่ 7 ว่า คณะกรรมาธิการได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว โดยปรับแก้เพิ่มเติมจากเดิม 50 มาตรา เป็น 67 มาตรา เพื่อให้ครอบคลุมและสมบูรณ์มากขึ้น เตรียมเสนอรายงานให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรภายในสัปดาห์หน้า เพื่อบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในสมัยประชุมนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้มุ่งสร้างความมั่นคงให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งเป็นกลไกหลักในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และเชื่อมโยงประชาชนกับระบบบริการสาธารณสุข โดยกำหนดให้ผู้สมัครต้องมีอายุระหว่าง 18–65 ปี และเมื่อได้รับการแต่งตั้งแล้วจะมีสถานภาพเป็นอสม.ต่อเนื่องตลอดชีวิต เว้นแต่ลาออกหรือถูกถอดถอนตามเงื่อนไขที่กำหนด

ร่าง พ.ร.บ.ยังกำหนดให้มี คณะกรรมการส่งเสริมระบบอาสาสมัครสาธารณสุขระดับประเทศ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน รวมทั้งตั้งคณะกรรมการระดับเขตสุขภาพ จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เพื่อบริหารและกำกับการทำงานของอสม.ในพื้นที่ พร้อมจัดตั้ง คณะอนุกรรมการส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานอสม. เพื่อพัฒนาศักยภาพอสม.ผ่านเทคโนโลยี เช่น ระบบแพทย์ทางไกล และระบบข้อมูลสุขภาพสมัยใหม่

นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง บัญชีนอกงบประมาณ สำหรับสนับสนุนกิจกรรมด้านสาธารณสุขในชุมชน และกำหนดสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม เช่น ค่าป่วยการ สวัสดิการ และการคุ้มครองระหว่างการปฏิบัติงาน เพื่อให้ อสม.มีแรงจูงใจและความมั่นคงในการทำงาน

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มากถึง 33 ล้านคน โดยร้อยละ 76 ของผู้ป่วยนอกเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่เหมาะสม อสม.จึงต้องมีความรู้ในการดูแลสุขภาพตนเองและให้คำแนะนำคนในชุมชน เช่น การนับคาร์โบไฮเดรตหรือสอนใช้ทัพพีมาตรฐานตวงอาหาร เพื่อช่วยลดโรคอ้วน เบาหวาน ความดัน มะเร็ง และโรคหัวใจ

“ประเทศไทยสามารถใช้เครือข่ายอสม.กว่า 1 ล้านคน เป็นกำลังสำคัญในการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่สูงถึงปีละกว่า 8 หมื่นล้านบาท หากอสม.ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐได้ ก็ควรได้รับผลตอบแทนบางส่วนจากงบที่ประหยัดได้ เพื่อสร้างแรงจูงใจและความยั่งยืนในภารกิจดูแลสุขภาพประชาชน”

นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าผลจากการมีกฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ 1.ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพระดับชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน 2.ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่มั่นคง พร้อมรับมือวิกฤตสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ3.อสม.มีสถานะทางกฎหมายที่มั่นคง พร้อมสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่ชัดเจน

“นี่คือรากฐานสำคัญของระบบความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดี และเพื่อให้ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่งในระยะยาว” นายสมศักดิ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น