xs
xsm
sm
md
lg

“โสภณ” ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบ ลั่นเป็นตัวแทนใครไม่สำคัญ ขอบริหารบ้านเมืองให้ดี เขากระโดง-ฮั้ว สว.ว่าตามกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“รองนายกฯ โสภณ” ไหว้ศาลทำเนียบ มองจะเป็นตัวแทนไม่สำคัญ ขอบริหารบ้านเมืองให้ดี ตั้งใจแก้ปัญหายาเสพติด ชูตัวอย่าง “บุรีรัมย์” ใช้ชุมชนแก้ปัญหา เชื่อ เหตุที่ดินเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฏหมาย ถือหลักพุทธศาสนา อดีตยากแก้ไข อนาคตยังมาไม่ถึง ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

วันนี้ (26 ก.ย.) นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณกับตนและวงศ์ตระกูลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ


ทั้งนี้ นายโสภณ กล่าวถึงความรู้สึกที่พรรคได้มอบหมายทำงานในช่วงการเมืองวิกฤต ซึ่งเราคงจะทราบว่า เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถือเป็นรัฐบาลเฉพาะกาล และเมื่อเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย มีเวลาจำกัด ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย ที่จะต้องทำงานแข่งกับเวลา ในท่ามกลางวิกฤตทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงวิกฤตความมั่นคง

อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับประเทศไทยมาถึงวันนี้ได้ ถ้าเราตั้งหลักไม่ดี ไม่มีสติพอยิ่งจะทำให้สภาพของประเทศทรุดหนักลงกว่านี้ เพราะฉะนั้นตนในฐานะที่มาเป็นรัฐบาลชุดนี้มีความมุ่งมั่นที่จะแก้วิกฤตในระยะสั้นๆ ให้ได้ดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเวลาของประชาชนรอไม่ได้ แต่อย่างน้อยต้องสามารถวางหลักที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประชาธิปไตย หลักเศรษฐกิจ หลักความมั่นคง หรือหลักของปัญหาสังคมของประเทศ ซึ่งต้องวางหลักที่สังคมและประชาชนรับได้


ทั้งนี้ นายโสภณ ยอมรับว่า ปัจจุบันมีหลายปัญหา ทั้งเรื่องยาเสพติด ภัยในเรื่องมั่นคง รวมถึงเรื่องปัญหาตามแนวชายแดน ซึ่งประเดประดังเข้ามาหมด และต้องยอมรับว่า ประเทศของในช่วงระยะหลังการศึกษาเราสู้เขาไม่ได้ หากปล่อยไว้อย่างนี้ถ้าไม่เริ่มตั้งหลักช่วยกันทั้งองคาพยพของประเทศ อีก 10 ปีเราจะง่อยเปลี้ยเสียขา เพราะภัยต่างๆ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจยาเสพติด และการศึกษาที่คนไม่มีคุณภาพมาพร้อมกันหมด เรื่องเหล่านี้มันผูกกัน พอมีปัญหาเรื่องการศึกษาเด็กก็ติดยาเสพติด คนไม่มีคุณภาพการทำมาหากินเศรษฐกิจก็ไม่ดี มันผูกกันหมด

ในเรื่องของการแถลงนโยบายได้เตรียมรับมืออย่างไร ที่พุ่งเป้าไปเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีที่มาจากบุรีรัมย์ นายโสภณ กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน ที่จะมาพูดเรื่องคุณสมบัติ ซึ่งคุณสมบัติมี 2 อย่าง คืแ 1. ผ่านการตรวจสอบทางกฎหมาย 2. สังคมจะรับได้หรือไม่ เพราะความดีของคนวัดได้ 2 อย่าง วัดทางโลกคือกฎหมายตัดสิน วัดทางธรรม ต้องเป็นผู้มีธรรมถึงจะรู้กันว่าใครเหมาะใครควร มันต้องดูกันว่า เป็นสิทธิ และเป็นสิทธิที่เราในฐานะคนบุรีรัมย์ต้องชี้แจง ตนคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะรัฐมนตรีจะมาจากบุรีรัมย์มากหรือน้อยไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือมาแล้วทำอะไรให้สังคมได้หรือเปล่า เพียงแต่กังวลเวลาสั้นๆสังคมคาดหวังพวกเราสูงมาก เหมือนคำปรามาสจะทำอะไรได้ เรายิ่งต้องทุ่มสักพักกำลัง ฉะนั้นนายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่า ไม่มีวันหยุดไม่มีวันพักต้องทำ ขณะเดียวกันก็ทำการเมืองด้วยกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ การบ้านพวกตนก็ต้องแสวงหาความเข้าใจกับประชาชน หาแนวร่วมประชาชนเพื่อเลือกตั้งคราวหน้า ส่วนการเมืองทำเพื่อพัฒนาให้ประเทศชาติเราเดินได้


ส่วนที่มีการมองว่า นายโสภณ เป็นตัวแทนของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องนอมินีตนโดนเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ทุกคนมีนอมินีหมด อย่างน้อยก็นอมินีภรรยาตัวเอง แต่ทั้งนี้ จะบริหารอย่างไร และขอพูดตรงๆจะบริหารอำนาจอย่างไร ซึ่งอำนาจที่ตัวเองจะบริหารได้หรือไม่ ซึ่งเราก็เป็นนอมินีของพรรคการเมืองที่ส่งมา ดังนั้นประเด็นว่า เป็นตัวแทนใครไม่สำคัญ อยู่ที่การใช้อำนาจ

ส่วนโจทย์ใหญ่ในการเข้ามาวันนี้ที่ได้รับมอบหมายมีกี่เรื่อง นายโสภณ กล่าวว่า หลักๆ คือ เรื่องของสังคมที่เราจะต้องดูไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด สาธารณสุข ส่วนที่มอบหมายให้ดูแลกลุ่มจังหวัดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนให้ความสำคัญเรื่องการกระจายอำนาจ


ทั้งนี้ ปัญหายาเสพติด จะขอนายกรัฐมนตรี อยากทำเรืองนี้เป็นอย่างมาก เพราะตนสู้กับยาเสพติดมา 2 ปีแล้ว เหมือนปิดทองหลังพระ เรื่องดีๆ ที่คนบุรีรัมย์ทำบางทีคนอาจมองไม่เห็น และอยากเป็นตัวอย่างที่อยากชวนสื่อไปดูว่า เราทำได้จริง 2 ปีที่ผ่านมา เราบูรณาการกันทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชนและหน่วยงานราชการ สามารถทำศูนย์ฟื้นฟูบำบัดได้ สแกนคนได้ 20,000 กว่าคน นำคนไปเข้าศูนย์บำบัดและเลิกได้ถึง 1,600 กว่าคน โดยที่งบราชการไม่ได้ใช้สักบาท

“เป็นจุดก่อตั้ง และเป็นอุดมการณ์ ซึ่งได้ทำเวิร์กชอปแล้ว เขามั่นใจเรา และเราระดมทุนด้วยการเดิน-วิ่ง ในครั้งนั้นหาเงินได้เจ็ดล้าน มอบให้แต่ละอำเภอไปดำเนินการ ซึ่งทุกคนจะได้เห็นเลยว่า เรื่องดีๆ ถ้าทุกคนสามัคคีกันได้ และสามัคคีทำงานก็จะสำเร็จ ไม่ว่าระดับประเทศ หรือชุมชน ซึ่งตนเองได้บอกในพื้นที่ตนเองว่า ที่อื่นยาเสพติดเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่บ้านเราต้องทำให้ได้ แม้ว่า ระดับประเทศจะเหลือการควบคุม เพราะองค์คาพยพมีจำนวน แต่ท้องถิ่น หรืออบต.ต้องช่วยกัน จุดประกายจึงเกิดที่ตรงจุดนั้น” นายโสภณ​ กล่าว


ทั้งนี้ นายโสภณ​ ยังกล่าวว่า ใน 4 เดือน มีความตั้งใจวางไทม์ไลน์แก้ปัญหายาเสพติด คือ เดือนที่ 1-4 จะทำอะไร โดยไม่ใช่การประชุมหรือมอบนโยบาย แต่จะให้ลงมือทำเลย และจะพาสื่อไปดูและช่วยกินขาหมูลําปลายมาศด้วย และบ้านเมืองน่าอยู่ มีอยู่ 5 อย่าง ผลิตภัณฑ์ดี ประเพณีดี การศึกษาดี คุณภาพดี และปลอดยาเสพติด ซึ่งตนเองรณรงค์อยู่กับเรื่องเหล่านี้ ถ้าทำได้ 5 เรื่องนี้ ประเทศไทยก็น่าอยู่

ส่วนที่มีการจับตาการแก้ไขปัญหาเรื่องเขากระโดง นายโสภณ กล่าวว่า ทุกฝ่ายพูดไปแล้วทำตามกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย เมื่อกฏหมายออกมาอย่างไร ชี้แจงได้ เป็นไปตามหลักนิติธรรม ส่วนใครจะชอบหรือไม่ชอบไปอีกเรื่องนึง มันมีถูกใจกับถูกต้อง บางทีก็มีไม่ชอบ เพราะบางทีถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ต้องพิสูจน์กัน แต่บางเรื่องตนเองถือหลักของพระพุทธองค์ เรื่องอดีตยากที่จะแก้ไข อนาคตยังมาไม่ถึง ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ส่วนที่มีคนจับตาเรื่องฮั้ว สว. เมื่อรัฐบาลนี้มาคดีจะหายไป นายโสภณ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รับผิดชอบคดีจะหายได้อย่างไร เพราะผู้มีหน้าที่รักษากฎหมายเขาก็ทำไป ซึ่งทุกคนทำตามหน้าที่ ไม่มีใครไปสั่งใครได้

“ประเทศไทย One Man Show เก่งคนเดียวก็ไปไม่รอด อย่าไปหวังจะมีฮีโร่ พาประเทศไทยให้เก่งคนเดียว” นายโสภณ​ กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น