xs
xsm
sm
md
lg

แนวทางใหม่ เอื้อ “รัฐ/เอกชน” ผุดโปรเจกต์โซลาร์เซลล์ เข้าใช้ที่ราชพัสดุทั่วประเทศ ทั้งหลังคา/พื้นดิน/ทุ่นลอยน้ำ เน้นโครงการที่ทำให้เกิดรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดแนวทางใหม่ “ธนารักษ์” แจ้งส่วนราชการ/ท้องถิ่น/เอกชน เจ้าของโปรเจกต์ “โซลาร์เซลล์” ทั่วประเทศ เข้าใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ ทั้งบนหลังคา/พื้นดิน/ทุ่นลอยน้ำ ทุกโครงการ เน้นประโยชน์ โครงการที่นำไปดำเนินการให้เกิดรายได้ ย้ำ โครงการต้องไม่เข้าข่ายการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจ เนื่องจากมีลักษณะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีการลงทุนสูง

วันนี้ (24 ก.ย.) มีรายงานจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เวียนหนังสือถึงส่วนราชการ/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และผู้เช่าที่ราชพัสดุที่เป็นเอกชน และ หน่วยงานของรัฐ ทั่วประเทศ

เพื่อแจ้งแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุเพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อยู่ในความครอบครอง

พบว่า แนวทางดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันได้มีส่วนราชการ ขอหารือกรมธนารักษ์ เกี่ยวกับการนําที่ราชพัสดุไปให้เอกชนดําเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Ground-mounted) และแบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar)

ต่อมา ได้มีการยกเลิกแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุเพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์แบบบนหลังคา และกําหนดแนวทางการใช้ประโยชน์โครงการผลิตไฟฟ้า ในที่ราชพัสดุ ขึ้นใหม่

สำหรับแนวทางใหม่ ที่น่าสนใจ เช่น กรณีติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ในที่ราชพัสดุ หากเป็นการดําเนินการเพื่อประโยชน์ในทางราชการ โดยการไฟฟ้าฝ่ายจําหน่าย (กฟน. และ กฟภ.) เป็นผู้ดําเนินการ

และส่วนราชการ/อปท. ชําระเงินให้การไฟฟ้าฝ่ายจําหน่ายจากค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า) ตามหลักการจําแนกประเภทรายจ่ายตามงบประมาณ หรือเป็นกรณีการจัดหาผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภค

โดยที่ไม่มีไฟฟ้าส่วนเกิน หรือมีกระแสไฟฟ้าไหลกลับระบบจําหน่ายไฟฟ้า (On-Grid) เพื่อจําหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก และไม่มีลักษณะเป็นการนําที่ราชพัสดุไปใช้ประโยชน์ในทางที่เกิดรายได้

การดําเนินการดังกล่าวถือเป็นการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุเพื่อประโยชน์ในทางราชการตาม กฎกระทรวงการใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2563 ที่ส่วนราชการ อปท. สามารถดําเนินการได้ตามเงื่อนไขดังกล่าว

โดยไม่ต้องขออนุญาตต่อกรมธนารักษ์ โดยจะต้องกําหนดเงื่อนไขให้การไฟฟ้าฝ่ายจําหน่าย หรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคทําประกันความเสียหายของอาคาร หรือสถานที่ที่ติดตั้งอันเกิดจากอัคคีภัย และเหตุทั้งปวง อันเกิดจากการติดตั้งระบบ (เฉพาะส่วนที่ติดตั้ง) ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อดําเนินการเรียบร้อยแล้ว ให้ส่วนราชการ อปท. แจ้งผลการดําเนินการดังกล่าวให้กรมธนารักษ์ทราบ พร้อมทั้งแจ้งผลการดําเนินการในรายงานเกี่ยวกับการใช้ ปกครอง ดูแล และบํารุงรักษาที่ราชพัสดุ ตามข้อ 19 ของกฎกระทรวง

และให้รายงานผลการลดก๊าซเรือน กระจกอันจากการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในที่ราชพัสดุให้กรมธนารักษ์ทราบเป็นประจําทุกปี

หากมีลักษณะเป็นการน่าที่ราชพัสดุไปใช้ประโยชน์ในทางที่เกิดรายได้ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายจําหน่าย หรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคเข้ามาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

โดยผู้ติดตั้งจะจําหน่ายไฟฟ้าส่วนหนึ่งให้กับส่วนราชการ/อปท. เพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการในการปฏิบัติงานตามหน้าที่และอํานาจ และอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นไฟฟ้าส่วนเกิน หรือ มีกระแสไฟฟ้าไหลกลับระบบจําหน่ายไฟฟ้า (On-Grid) เพื่อจําหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก หรือกรณีที่การกําหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายคาร์บอนเครดิตจากโครงการ เป็นต้น

การดําเนินการดังกล่าวถือเป็นการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายจําหน่าย หรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภค จะต้องขอความยินยอมจากส่วนราชการ อปท. ที่ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุก่อน แล้วจึงแจ้งความประสงค์ขอเช่าต่อกรมธนารักษ์ พร้อมแนบหนังสือให้ความยินยอม

จากนั้นกรมธนารักษ์จึงจะดําเนินการจัดหาประโยชน์ ที่ราชพัสดุนั้นๆ โดยการจัดทําสัญญาเช่าหรือสัญญาต่างตอบแทนอื่นนอกเหนือจากสัญญาเช่ากับการไฟฟ้า ฝ่ายจําหน่ายหรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2564

กรณีการติดตั้ง Solar Farm ,Solar Ground-mounted และ Floating Solar ในที่ราชพัสดุ ส่วนราชการ อปท. ที่เป็นผู้ใช้ที่ราชพัสดุ หรือผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ ที่ไม่มีกฎหมายให้อํานาจในการผลิตและจําหน่ายไฟฟ้า ไม่สามารถเป็นเจ้าของโครงการและดําเนินโครงการผลิตไฟฟ้า ในที่ราชพัสดุได้

กรณีส่วนราชการ อปท. ที่เป็นผู้ใช้ที่ราชพัสดุ หรือผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ มีความประสงค์ให้การไฟฟ้าฝ่ายจําหน่าย (กฟน. กฟภ.) หรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคที่มีหน้าที่และอํานาจเข้ามาดําเนินโครงการในที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองใช้ประโยชน์งบประมาณ

หากเป็นการดําเนินการเพื่อประโยชน์ในทางราชการในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ และอํานาจของส่วนราชการ โดยการไฟฟ้าฝ่ายจําหน่าย (กฟน. และ กฟภ.) เป็นผู้ดําเนินการและส่วนราชการ อปท. ชําระเงินให้การไฟฟ้าฝ่ายจําหน่ายจากค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า)

โดยที่ไม่มีไฟฟ้าส่วนเกินหรือมี กระแสไฟฟ้าไหลกลับระบบจําหน่ายไฟฟ้า (On-Grid) เพื่อจําหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก และไม่มีลักษณะเป็นการ น่าที่ราชพัสดุไปใช้ประโยชน์ในทางที่เกิดรายได้

การดําเนินการดังกล่าวถือเป็นการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุเพื่อประโยชน์ในทางราชการ ตามกฎกระทรวงการใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2563 ที่ส่วนราชการ อปท. สามารถดําเนินการได้ตามเงื่อนไขดังกล่าวโดยไม่ต้องขออนุญาตต่อกรมธนารักษ์ โดยจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้

(1) เนื่องจากส่วนใหญ่การติดตั้ง Floating Solar อาจมีขนาดกําลังการผลิตที่เข้าข่ายนิยาม “โรงงาน” จึงขอให้ดําเนินการตามกฎหมายว่าด้วย โรงงาน กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการผังเมืองหรือกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาและส่งเสริม พลังงาน และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

(2) ผู้ดําเนินโครงการจะต้องได้รับความเห็นชอบการอนุมัติหรือการอนุญาตเพื่อเข้าทําประโยชน์ในพื้นที่ตามกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า และจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามระเบียบ คณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน ที่เกี่ยวข้องกับการกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิจารณา สถานที่ตั้งและสภาพแวดล้อมของโรงไฟฟ้า สําหรับการออกใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน

(3) พื้นที่ตั้งโครงการต้องไม่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านแสงสะท้อนต่อบริเวณใกล้เคียงสนามบิน หรือเป็นพื้นที่อ่อนไหวหรือมีข้อกําหนดค้านมาตรฐานความปลอดภัย

(4) การเลือกพื้นที่ตั้งโครงการ Floating Solar ให้คํานึงถึงความเหมาะสมต่อทรัพยากรสัตว์ พืช ทั้งบนบกโดยรอบและในแหล่งน้ำ อย่างมีนัยสําคัญ

โดยให้พิจารณาสัตว์ป่า หรือพืชที่หายาก หรือใกล้สูญพันธุ์และ สภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีอยู่เดิมด้วย และจะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแบบวิศวกรรมและการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ที่ติดตั้ง Floating Solar

โดยการให้ใช้พื้นที่ในอ่างเก็บน้ำจะต้องไม่เป็นอุปสรรค ต่อการดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจตามกฎหมายของส่วนราชการ อปท. ด้วย

(5) ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้ประมวลหลักการปฏิบัติ (Code of Practice: CoP) ตามระเบียบคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงานว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทํารายงานประมวลหลักการปฏิบัติและ รายงานผลปฏิบัติตามประมวลหลักการปฏิบัติ สําหรับการประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า พ.ศ. 2565

(6) เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ จึงขอให้ส่วนราชการ อปท. โดยจะต้องกําหนดเงื่อนไขให้การไฟฟ้าฝ่ายจําหน่าย หรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภค

“ทําประกันความเสียหายของอาคารหรือสถานที่ที่ติดตั้งอันเกิดจากอัคคีภัยและเหตุทั้งปวงอันเกิดจากการติดตั้งระบบ (เฉพาะส่วนที่ติดตั้ง) ด้วย”

(7) เมื่อดําเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนราชการ อปท. จะต้องแจ้งผลการดําเนินการ ดังกล่าวให้กรมธนารักษ์ทราบ พร้อมทั้งแจ้งผลการดําเนินการในรายงานเกี่ยวกับการใช้ ปกครอง ดูแล และ บํารุงรักษาที่ราชพัสดุ ตามข้อ 19 ของกฎกระทรวงการใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2563

(8) จะต้องรายงานผลการลดก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ในที่ราชพัสดุให้กรมธนารักษ์ทราบเป็นประจําทุกปี

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวไม่เข้าข่ายการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ

ประกอบกับประกาศคณะกรรมการสวัสดิการข้าราชการ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ เนื่องจากมีลักษณะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีการลงทุนสูง

หากการดําเนินการดังกล่าวมีลักษณะเป็นการนําที่ราชพัสดุไปใช้ประโยชน์ ในทางที่เกิดรายได้ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายจําหน่ายหรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคเข้ามาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

โดยผู้ติดตั้งจะจําหน่ายไฟฟ้าส่วนหนึ่งให้กับส่วนราชการ อปท. เพื่อใช้ประโยชน์ในทาง ราชการในการปฏิบัติงานตามหน้าที่และอํานาจ และอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นไฟฟ้าส่วนเกินหรือมีกระแสไฟฟ้าไหลกลับ ระบบจําหน่ายไฟฟ้า (On-Grid)

เพื่อจําหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก หรือกรณีที่มีการกําหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับ การขายคาร์บอนเครดิตจากโครงการ เป็นต้น

การดําเนินการดังกล่าวถือเป็นการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ ซึ่งการ ไฟฟ้าฝ่ายจําหน่ายหรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคจะต้องขอความยินยอมจากส่วนราชการ อปท.ที่ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุก่อน แล้วจึงแจ้งความประสงค์ขอเช่าต่อกรมธนารักษ์

พร้อมแนบหนังสือให้ความยินยอมจากนั้น กรมธนารักษ์จึงจะดําเนินการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุนั้นๆ โดยการจัดทําสัญญาเช่า หรือสัญญาต่างตอบแทนอื่น

นอกเหนือจากสัญญาเช่ากับการไฟฟ้าฝ่ายจําหน่าย หรือผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2564

โดยอาคารประกอบ ที่ปลูกสร้างเกี่ยวเนื่องกับโครงการได้รับการยกเว้นไม่ต้องยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ จะต้องชําระค่าตอบแทนตามอัตรา กรมธนารักษ์กําหนด และจะต้องดําเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน กฎหมายว่าด้วย การควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการผังเมืองหรือกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน รวมถึง กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย.

โดย กรมธนารักษ์ ยังได้กำหนด “หลักเกณฑ์กลางการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ” สำหรับหน่วยงานที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ Clean Energy โดยเปิดโอกาสให้นำที่ราชพัสดุมาพัฒนาเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

1. ส่วนราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น - จะได้รับการยกเว้นค่าตอบแทนทั้งหมด หากติดตั้งเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในทางราชการ แต่หน่วยงานต้องรายงานผลการติดตั้งให้กรมธนารักษ์ทราบเมื่อแล้วเสร็จ

2. หน่วยงานของรัฐที่เป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุ - จะไม่ต้องเสียค่าเช่าเพิ่มเช่นเดียวกัน หากติดตั้งเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในหน่วยงานของรัฐ แต่ต้องขออนุญาตกรมธนารักษ์ก่อนดำเนินการ

3. รัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ผลิตหรือจำหน่ายไฟฟ้า (กฟผ., กฟน., กฟภ.) - หากติดตั้งเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง จะไม่ต้องเสียค่าเช่าเพิ่มโดยต้องขออนุญาตกรมธนารักษ์ก่อนดำเนินการ แต่หากติดตั้งเพื่อขายไฟเข้าระบบ

กรมธนารักษ์จะผ่อนปรนค่าเช่าในอัตราต่ำสุด เช่น Solar Rooftop เก็บค่าเช่าเพียง 2 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน หรือ 2 บาท ต่อตารางวาต่อเดือน ส่วน Solar Farm หรือ Floating Solar คิดค่าเช่าที่ดินเพียง 0.75% ของมูลค่าที่ดินต่อปี ซึ่งถือว่าลดลงถึง 75% จากอัตราปกติ

4. ผู้เช่าเอกชน - กรณีติดตั้งเพื่อใช้ไฟเองภายในครัวเรือน (ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์) หรือใช้ในกิจการตามกฎหมายการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จะไม่ต้องเสียค่าเช่าเพิ่ม

แต่ต้องขออนุญาตกรมธนารักษ์ก่อน หากติดตั้งเพื่อขายไฟเข้าระบบจะต้องเช่าเพิ่มในอัตราผ่อนปรน โดย Solar Rooftop คิดค่าเช่า 2 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน หรือ 2 บาทต่อตารางวาต่อเดือน ส่วน Solar Farm หรือ Floating Solar จะเก็บค่าเช่าที่ดิน 1.5% ของมูลค่าที่ดินต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงถึง 50% จากอัตราปกติ

5. การเปิดประมูลจัดให้เช่าใหม่ สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่มีผู้เช่า กรมธนารักษ์จะเปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาลงทุนโครงการ Solar Farm หรือ Floating Solar โดยกำหนดค่าแรกเข้า 0.5% ของมูลค่าที่ดินตามจำนวนปีที่เช่า และค่าเช่าที่ดิน 1.5% ของมูลค่าที่ดินต่อปี (ลดลงครึ่งหนึ่งจากอัตราปกติ).


กำลังโหลดความคิดเห็น