xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทยพล่าน ยื้อโหวตนายกฯหลัง9ก.ย.!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุทิน ชาญวีรกูล - ชัยเกษม นิติสิริ
เมืองไทย 360 องศา

เรียกว่าเฉียดคุกเข้าไปทุกทีสำหรับ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ทูลเกล้าฯยุบสภาไปเมื่อวันก่อน ท่ามกลางเสียงท้วงติงว่า ไร้อำนาจ และในที่สุดก็ถูกตีกลับมา แต่ก็ยังดีที่มีสติและยืนยันว่าจะไม่เสนอยุบสภาขึ้นไปอีกแล้ว โดยเปลี่ยนใจกลับมายืนยันเสนอชื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยจะยุบสภาทันที

เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนถึงกรณีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาถูกตีกลับว่า สิ่งที่โพสต์ไปในเฟซบุ๊ก ชัดเจนแล้ว ได้ยื่น พ.ร.ฎ.ยุบสภาไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย. เมื่อยื่นไปแล้วได้รับการประสานงานกลับมาว่ามีประเด็นที่ยังไม่มีข้อยุติคือ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯจะมีอำนาจยื่นยุบสภาได้หรือไม่ เรารับกลับมาและจะปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งหมด

เรายืนยันเจตนารมณ์ที่ยื่น พ.ร.ฎ.ยุบสภาขึ้นไป โดยทราบดีว่าเป็นพระราชอำนาจ คือ เราต้องการคืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติที่เกิดขึ้น อีกประเด็นเราอยากเห็นกระบวนการประชาธิปไตยเดินหน้า เราเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรค พท.ในการโหวตนายกฯ พรรคการเมืองที่จะโหวต ถือเป็นเอกสิทธิ์ โหวตอะไรไปก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

“ยืนยันหากนายชัยเกษมได้เป็นนายกฯเราจะดำเนินการยุบสภาทันที ไม่ต้องรอ 4 เดือน เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยเดินหน้าและแก้ไขปัญหาต่างๆ เรื่องนี้ได้คุยกับนายชัยเกษมเรียบร้อยแล้ว”

ถามว่า เมื่อมีการตีกลับมาเช่นนี้ จะไม่ยื่น พ.ร.ฎ.ยุบสภาขึ้นไปใหม่แล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ชัดเจนแล้วหากมีการเลือกนายกฯ ก็ไม่ต้องใช้เส้นทางนี้ เมื่อนายชัยเกษมได้รับการโหวตเป็นนายกฯคนใหม่ เมื่อรับการโปรดเกล้าฯ เสร็จก็มีอำนาจยุบสภาทันทีเพื่อแก้วิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นก็จะไม่ไปก้าวล่วง ส่วนที่พรรคประชาชน (ปชน.) มีท่าทีจะโหวตให้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นั้น ก็ไม่เป็นไร เป็นเอกสิทธิ์ และการที่โพสต์เฟซบุ๊ก 2 ประเด็นข้างต้นไปนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพราะลงในเฟซบุ๊กของตนเอง

เมื่อถามว่า ได้ประสานไปทางพรรค ปชน.แล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่กล่าวมาเป็นจุดยืนของเรา บอกไปแล้วว่าการเลือกตั้งอยากให้เกิดขึ้นทันที ในสภาก็ให้เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย ส่วนตัดสินใจอย่างไรก็ยินดี เราบอกไปแล้วว่าถ้าเลือกเราก็จะยุบสภาทันที เพื่อเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนตัดสินใจ เมื่อถามย้ำว่า นอกจากการโพสต์แล้ว จะประสานงานตรงไปยังพรรค ปชน.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนประกาศจุดยืนชัดเจน บอกแล้วว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. และทุกพรรคการเมืองจะตัดสินใจอย่างไรก็ได้ แต่ขอให้รับผิดชอบการตัดสินใจที่ตัวเองได้ตัดสินใจด้วย

หลังจากนั้น ที่บ้านพักของ นายชัยเกษม นิติสิริ พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น นายภูมิธรรม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

นายชัยเกษม ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน และหากกระผมได้รับการลงคะแนน ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาทันที โดยไม่ต้องรอเวลาถึง 4 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน เข้าสู่การเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยต่อไป กระผมขอยืนยันอีกครั้งว่า นี่คือสัญญาที่ทำไว้ต่อพี่น้องประชาชน และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลจะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้โดยไม่มีข้อเปลี่ยนแปลง ไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมใด ๆ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าก่อนหน้านั้นในช่วงเช้าถึงเที่ยงของวันที่ 4 กันยายน อาจจะมีความสับสนบ้าง เนื่องจากมองว่าด้วยข้อเสนอใหม่แบบนี้ของพรรคเพื่อไทย อาจทำให้พรรคประชาชนลังเลอาจพลิกกลับมาหนุน นายชัยเกษม เพื่อหวังว่าจะยุบสภาทันที พร้อมกับคำพูดที่ดูเหมือนกำกวมของแกนนำพรรคบางคน เช่น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคที่ถามหาความชัดเจนในการยุบสภาจาก นายภูมิธรรม และพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งกล่าวทำนองว่าหากยังไม่ชัดเจนก็ควรให้ นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่กำหนดเอาไว้วันที่ 5 กันยายนออกไปก่อน

แต่หลังจากนั้น นายณัฐพงษ์ ก็กล่าวยืนยันกลางห้องประชุมสภา ว่ามติพรรคยังหนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกฯเหมือนเดิม และได้ลงนามในข้อตกลงแล้ว

แน่นอนว่า หากมองในเกมของพรรคเพื่อไทย และ นายทักษิณ ชินวัตร ถือว่างานนี้ “เทหมดหน้าตัก” จริงๆ แต่ขณะเดียวกันการเล่นเกมแบบนี้ดูแล้วมันไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าใดนัก เพราะมีการกลับไปกลับมาเอาแน่นอนไม่ได้ เป็นการทำทุกอย่างเหมือนเอาตัวรอดอย่างเดียว อีกทั้งในทางการเมืองถือว่าเป็นความพยายามในการ “ยื้ออำนาจ” เอาไว้ให้นานที่สุด โดยไม่สนใจความเหมาะสมใดๆ ทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน สำหรับพรรคประชาชนงานนี้หากพลิกกลับไปทางเพื่อไทย ก็ต้องถือว่าตัวเอง “ตระบัดสัตย์” ของจริง เพราะได้ลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรกันไปแล้ว แต่ก็ถือว่ายังดีทีไหวตัวทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของพรรคเพื่อไทย

สำหรับในมุมของพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร นาทีนี้ แม้ว่าโอกาสที่จะพลิกเกมมาเพื่อให้กลับมาสนับสนุน นายชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรี ดูแล้วมืดมน แต่สิ่งที่ประมาทไม่ได้ก็คือ “เกมยื้อ” ของ นายทักษิณ ที่อย่างน้อยต้องการให้เลยวันที่ 9 กันยายนที่ ศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีกำหนดนัดฟังคำสั่งเรื่องการไต่สวน “ป่วยทิพย์” และพิสูจน์ว่ามีการจำคุกจริงหรือเปล่า เพราะหากผลออกมาเป็นลบ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะกลับเข้าคุก

ดังนั้น วันที่ 9 กันยายน ถือว่าเป็นจุดชี้ขาดสำคัญอีกวันหนึ่ง สำหรับ ทั้ง นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมต้องยื้อให้ผ่านวันนี้ไปก่อน เพราะหากมีการโหวตนายกฯ วันที่ 5 กันยายน เป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล ทุกออย่างก็จบเห่

สิ่งที่ต้องจับตาบทบาทการทำหน้าที่ของ ประธานสภาผู้แทนราษฎร คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รวมไปถึงรองประธาน ทั้งสองคน ที่ล้วนเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกับ นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทยทั้งหมด สำหรับ “นายวันนอร์” แม้ว่าจะเป็นคนของพรรคประชาชาติ แต่จากบทบาทของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ถือว่าไม่ต่างจาก “พรรคสาขา” ทำให้หลายคนเริ่มมองว่า การโหวตในวันที่ 5 กันยายน อาจจะไม่ราบรื่น มีการป่วนในห้องประชุม ทำให้ประธานต้องเลื่อนออกไป โดยจะมีการกำหนดวันในภายหลัง ระวังให้ดีก็แล้วกัน !!



กำลังโหลดความคิดเห็น