"วันนอร์" ส่งคำร้อง 20 สส.พรรคเพื่อไทย ขอให้วินิจฉัยกรณีตุลาการฯ หมดวาระ ให้ศาล รธน.แล้ว ยันทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
ต่อกรณีที่ 20 สส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้าชื่อ เพื่อขอให้ประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายต่อกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง วินิจฉัย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สิ้นสุดความเป็นนายกฯ จากข้อเท็จจริงที่พบว่า นายสราวุธ ทรงศิวิไล ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ครบวาระ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.แต่ในวันดังกล่าวนายปัญญายังคงร่วมวินิจฉัยคดีอยู่
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบก๋ษาได้เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายสราวุธ ทรงศิวิไล เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา อุดชาชน โดยระบุวันที่ 30 ส.ค.2568 ทำให้คำร้องของ 20 สส.พรรคเพื่อไทยอาจต้องตกไปนั้น
ล่าสุดวันนี้(3 ก.ย.) มีรายงานข่าวจากสำนักประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้รับเรื่องจาก 20 สส.พรรคเพื่อไทยแล้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 ก.ย. และได้ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันเดียวกัน เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ประธานสภาฯ มีหน้าที่เหมือนเป็นบุรุษไปรษณีย์ เมื่อรับเรื่องและตรวจสอบการเข้าชื่อดังกล่าวแล้วต้องส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถทักท้วงในรายละเอียดของคำร้องดังกล่าวได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ว่า 20 สส.นำโดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ได้ยื่นคำร้องผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาความชอบด้วยกฏหมายของกระบวนการพิจารณาคำร้องกรณีสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
โดยมีรายละเอียดว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดให้ น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งในวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น แต่ยังปรากฏข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญอาจส่งผลต่อความชอบด้วยกฎหมายของการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
โดยในวันที่ 29 ส.ค. ซึ่งเป็นวันพิจารณาและวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้นาย สราวุธ ทรงวิไล ดำรงตำแหน่งธุรการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.เป็นต้นไป แทนนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระ ดังนั้น เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งในสราวุธแล้ว แม้ว่าตามมาตรา 17 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญปี 2561 จะบัญญัติให้ตุลาการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ ปฎิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าตุลาการที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
แต่เนื่องจากเรื่องพิจารณากรณีคลิปเสียงสนทนาเป็นคดีที่มีความสำคัญกับการวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศรับรองว่าการแต่งตั้งนายสราวุธ ดำรงตำแหน่งตุลาการแทนนายปัญญา จึงไม่ควรที่จะให้นายปัญญา อุดชาชน ที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้วเข้าพิจารณาคดีที่มีความสำคัญ
ดังนั้น การที่นายปัญญาร่วมพิจารณาและลงมติในคดีดังกล่าวจึงอาจมีปัญหาความชอบด้วยกฏหมายของการพิจารณาและวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งเทียบเคียงกับกรณีที่ศาลเคยมีมติให้เพิกถอนการพิจารณาของศาลในการประชุมคณะตุลาการศาล เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2567 กรณีแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายสุเมธ รอยกุลเจริญ เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 นั้น สส. ที่เข้าชื่อยื่นคำร้องเห็นว่ากระบวนการพิจารณาและการลงมติของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. อาจมีปัญหาความชอบด้วยกฏหมาย จึงขอให้ศาลและนูญพิจารณาและชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ หากผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้รับทราบด้วย