สภาองค์กรของผู้บริโภค เผย ฟ้องศาล ปค.เพิกถอนค่าใช้จ่ายภาครัฐที่สนับสนุนผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน หรือ Adder หลังจากพบว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีค่า Adder เพื่ออุ้มภาคเอกชนผลิตไฟฟ้า และให้ ปชช.แบกรับค่าไฟฟ้าแพงอีกต่อไป
วันนี้ (21 ส.ค.) นางสาวรสนา โตสิตระกูล กรรมการนโยบาย สภาองค์กรของผู้บริโภค ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนถูกลง จนหมดความจำเป็นจ่ายค่า Adder อุ้มเอกชนอีกแล้ว และการตัดค่า Adder จะลดค่า FT ได้ 17 สตางค์/หน่วย หรือ 37,400 ล้านบาทต่อปี เพื่อช่วยลดภาระค่าไฟให้กับประชาชน แต่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานอ้างติดสัญญากับเอกชน สภาองค์กรของผู้บริโภคจึงตั้งเรื่องฟ้องศาลปกครองเพื่อให้ยกเลิกค่า Adder เพื่อลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน
ด้าน ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ อดีตกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ชี้ให้เห็นว่า มีการกระทำที่ขัดกับ พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน มาตรา ที่ 65 ที่วงเล็บ 1 กำหนดให้ควรสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมของการลงทุน วงเล็บ 4 คือคำนึงถึงความเป็นธรรมของผู้ใช้พลังงานและผู้รับใบอนุญาต ซึ่งทั้ง 2 วงเล็บนี้เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคา
ซึ่งเป็นการบัญญัติให้กำหนดค่าไฟที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และมีค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ ที่รัฐกำหนดเป็นแรงจูงใจให้เอกชน หรือ PE ที่ไม่ใช่ต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันไม่มีความจำเป็นต้องส่งเสริมให้เอกชนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอีก เพราะมีเอกชนเสนอให้รัฐรับซื้อพลังงานถึง 3 เท่าจากต้นทุนการผลิตลดต่ำลง
ศ.ดร.บรรเจิด ระบุว่า เมื่อ PE คือ ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ต้นทุนที่แท้จริง ตามกฎหมายดังกล่าว การจัดเก็บค่าไฟฟ้าดังกล่าวอีก 17 สตางค์/หน่วย จึงเป็นการผลักภาระเกินสมควร อีกทั้งไม่กำหนดให้สัญญาวันหมดอายุ ทำให้ค่าไฟไม่ปรับไปตามต้นทุนที่แท้จริง รวมถึงรัฐยังรับซื้อไฟฟ้าตามสัญญา adder หลังผลิตไฟฟ้าได้เกินความจำเป็นอีก
“จึงปราศจากเหตุผลด้วยประการทั้งปวงในการจัดเก็บค่าไฟฟ้าดังกล่าว และเป็นการผลักภาระให้ประชาชนเกินความสมควร โดยที่ประชาชนไม่สามารถโต้แย้งมาตรการของรัฐได้ จึงไม่เป็นไปตามมาตรา 65(1) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน และยังไม่แก้ไขให้ความเป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้าตามมาตรา 65(4) อีกด้วย จึงเป็นเหตุผลสมควรฟ้องให้รัฐให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อเพิกถอนมติดังกล่าว” ศ.ดร.บรรเจิด ระบุ
ขณะที่ นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ บอกว่า ตอนนี้รวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องคดีกับศาลปกครองเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ และสภาฯ จะยื่นฟัองประมาณต้นเดือนหน้าต่อไป