xs
xsm
sm
md
lg

ปชน.ชี้หลังลงชายแดน พบต้องเร่งเยียวยา-ให้สวัสดิการ จนท.คาดใช้ราว 200 ล้าน จี้ตั้งโต๊ะสัญจรรุกแก้ปัญหาใฟ้ชาวบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เท้ง” สะท้อนภาพรวมประชาชน หลังลงพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัด 2 วัน มองการเยียวยา-สวัสดิการเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องสำคัญ คาดใช้งบราว 200 ลบ. เยียวยาถ้วนหน้า แนะ ”รัฐบาล“ ตั้งโต๊ะสัญจร รุกแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน ด้าน “โรม” สะท้อนปัญหาขาดรายได้ แม้เจรจาหยุดยิง

วันนี้ (19 ส.ค. 2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ฯ และคณะ สส. ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ 4 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทยกัมพูชา

โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องสำคัญคงอยู่ที่เรื่องของการเยียวยา และสวัสดิการโดยเฉพาะของเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ซึ่งเป็นชุดทำงานที่อยู่ในพื้นที่และไม่ได้อพยพ เพื่อที่จะดูแลทรัพย์สิน และความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน อีกประการหนึ่งคือเรื่องของสาธารณสุขที่ตนเองได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลพนมดงรักว่าเจ้าหน้าที่ยังมีความเครียดและวิตกกังวล (PTSD) และส่งผลกระทบให้ไม่สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ โดยจะมีการนำความคิดเห็นเหล่านี้ไปตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภา ในวันพฤหัสบดี (21 ส.ค. 68) ที่จะถึงนี้

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ในหมู่บ้านภูมิซรอน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า เสียงสะท้อนของประชาชนเป็นห่วงในเรื่องของรายได้ เพราะไม่ใช่เพียงแค่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันนั้น แต่ปัจจุบันประชาชนก็ยังไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ รวมไปถึงปัญหาหนี้สินและดอกเบี้ย ซึ่งหนี้ในระบบยังคงต้องมีการหารือกับรัฐบาลถึงแนวทางที่จะชะลอดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า ในนาม กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ก็จะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมด้วยในวันพฤหัสบดีนี้ รวมทั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี

“การเยียวยาไม่ได้สำคัญเฉพาะพี่น้องที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น แต่อยากให้นึกว่าความไม่แน่นอนของสถานการณ์ยังมีอยู่ ถ้าประชาชนไม่มั่นใจในการเยียวยาวันนี้ และเกิดสถานการณ์ขึ้น เขาก็จะลังเลในการออกจากพื้นที่ เพราะประชาชนให้ความสำคัญกับการดูแลปศุสัตว์ สัตว์เลี้ยง และอาจจะทำให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงมากขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงความต้องการของประชาชนที่อยากให้มีบังเกอร์เพิ่ม เพราะในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีหลุมหลบภัยไม่เพียงพอ ซึ่งหากสถานการณ์เกิดขึ้นอีกครั้งจะทำให้การอพยพอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย

ส่วนงบประมาณของรัฐบาลจะมีเพียงพอในการเยียวยาประชาชนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่า ขณะนี้เรามีทรัพยากรที่เพียงพอแต่กระจัดกระจายอยู่หลายหน่วยงาน ซึ่งรัฐบาลควรปรับปรุงระเบียบและการจัดสรรงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ พร้อมยกตัวอย่างการเยียวยาหลายครัวเรือน แบบที่ประชาชนได้เสนอมา และตนเองได้ลองคำนวณจากจำนวนผู้อพยพ 180,000 คน ถ้าเยียวยาให้ครัวเรือนละ 1,000 บาท ก็จะมียอดรวมอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งมองว่ายังอยู่ในกรอบที่เป็นไปได้

นายณัฐพงษ์ มองถึงความสำคัญในขณะนี้คือการจัดสรรการเยียวยาให้กับประชาชน ซึ่งบางส่วนควรมีการเยียวยาอย่างถ้วนหน้าก่อนหรือไม่ เพราะตอนนี้ทุกคนเสียหายประกอบอาชีพไม่ได้ รวมไปถึงกระบวนการรับเงินเยียวยาที่ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากยังไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร

“หากรัฐบาลทำงานเชิงรุก ออกมาสัญจรตามหมู่บ้าน หากประชาชนเดือดร้อนอะไรให้เขาติดต่อมาทีเดียวก็น่าจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ไม่ต้องให้ไปคอยติดต่อเองทีละหน่วย” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเคสที่น่าเป็นห่วง ว่ามากรณีไหนบ้าง นายณัฐพงษ์ ได้ยกตัวอย่างบ้านและร้านค้าที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เสียหายหมดทั้งหลัง แต่ตนเองไม่ได้อยากให้มองเฉพาะบ้านที่ได้รับความเสียหาย ยังมีประชาชนที่ขาดรายได้ จากการทำสวนยางพารา เขาเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นผู้เดือดร้อนทั้งหมด

ส่วนการก่อกวนของทหารกัมพูชาระหว่างการลงพื้นที่ของคณะทูตสังเกตการณ์ชั่วคราวนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงสู้กับข่าวปลอมของกัมพูชาให้กับต่างประเทศได้รับทราบ ซึ่งส่วนนี้ฝ่ายค้านก็พยายามที่จะทำงานสนับสนุนรัฐบาลในเวทีนานาชาติต่อไป พร้อมให้ความเห็นถึงอุปสรรคที่เกิดกับประชาชนคือ กลไกของระบบราชการ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลมีอำนาจเต็ม และสามารถทำได้ทันที


กำลังโหลดความคิดเห็น