'ผู้นำฝ่ายค้าน' เผย ชาวบุรีรัมย์ อัดอั้น จากผลกระทบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เหตุมาตรเยียวยามีขั้นตอนยุ่งยาก ย้ำ 'รัฐบาล' ต้องใช้ทุกกลไกกดดันเข้าร่วมเจรจาทวิภาคี-เก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหาร
วันที่ (18 ส.ค. 2568) ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชน 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เกี่ยวกับผลกระทบต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในปัจจุบัน ประชาชนส่วนหนึ่งได้กลับเข้าไปยังที่พักอาศัยแล้ว แต่ยังพบปัญหาอุปสรรคในการประกอบอาชีพ
โดยเฉพาะมาตรการชดเชยเยียวยา ที่ควรจะต้องถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด เนื่องจากจากการติดตามขณะนี้ รัฐบาลมีมาตรการ เช่น เงินทดแทนการขาดรายได้ การลดหย่อนภาษี ค่าซ่อมบ้าน ค่าซ่อมรถ ในวันนี้จึงลงพื้นที่มาติดตามปัญหาที่เป็นอุปสรรค แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นว่า สามารถดำเนินการได้ทันที คือวิธีการชดเชยเยียวยา ซึ่งแบบฟอร์มที่ใช้เป็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เป็นเอกสารในการจ่ายสงเคราะห์กลุ่มเปราะบาง
ดังนั้น การรับเงินเยียวยา จึงได้ไม่ครบทุกคน ทั้งที่ประชาชนทุกหลังหลังคาเรือนในพื้นที่ชายแดนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลควรแบบเยียวยาทั่วหน้าในบางพื้นที่ทุกครัวเรือน และอีกบางส่วนแบ่งเพิ่มเติมให้กับกลุ่มเกษตรกร
นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำว่า พรรคประชาชนจะผลักดันทุกด้านในกลไกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งการตั้งกระทู้ถาม และเวทีกรรมาธิการคณะต่างๆ ส่วนกรณีเด็กเยาวชน และกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง จะต้องได้รับการดูแลอย่างดีเพียงพอ จากการรับฟังเสียงสะท้อนประชาชนในวันนี้พบว่า ต่างมีความอัดอั้น และมีความเครียดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะอีกเมื่อไหร่
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลพาทูตอาเซียน 8 ประเทศลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ตามเสียงสะท้อนประชาชนที่ต้องการให้สถานการณ์ยุติโดยเร็ว จึงต้องอาศัยกลไกในการแก้ไขปัญหา ทั้งเวทีทวิภาคี กลไกเวทีระหว่างประเทศ ในการกดดันกัมพูชาเดินหน้าเจรจากับไทย ซึ่งการพาลงพื้นที่ จะทำให้นานาประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงว่า กัมพูชาปฏิบัติอะไรที่ไม่ถูกต้อง
ส่วนกรณีการประชุม RBC ที่มีการขอเลื่อนประชุมออกไปจากทางฝั่งกัมพูชานั้น ก็สะท้อนถึงสิ่งที่กัมพูชาได้แสดงออกมาโดยตลอด ในการพยายามหลีกเลี่ยงการเจรจาในกลไกทวิภาคี แต่ไทยต้องใช้ทุกวิธีกดดันให้กัมพูชากลับเข้าสู่การเจรจากับไทย ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่แก้ไขได้ คือการเก็บกู้ทุนระเบิดสังหาร ทุกรัฐบาลที่เป็นประเทศโลกมหาอำนาจ ให้เงินสนับสนุนกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้วย
“เราเรียกคณะผู้แทนมาร่วมสังเกตการณ์ และได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ว่าทางกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา หรือกฎหมายต่างประเทศอะไรบ้าง อาจจะเพิ่มแรงกดดัน ที่จะให้ประเทศต่างๆ ที่เคยให้การสนับสนุนกัมพูชา ใช้วิธีการตัดการสนับสนุน หรือกดดันให้ใช้กลไกทวิภาคี ในการแก้ไขปัญหาทุนระเบิดได้ด้วย” นายณัฐพงษ์ กล่าว
นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงแนวทางที่จะให้กัมพูชาเข้าร่วมการเก็บกู้ทุ่นระเบิดว่า เป็นที่ทราบดีอยู่แล้ว อย่างกลไกกดดันด้านเศรษฐกิจในเวทีระหว่างประเทศ ย้ำว่า ไทยจะต้องใช้กลไกที่มี กดดันให้ได้มากที่สุด เพื่อให้การเจรจาเกี่ยวกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเดินหน้าต่อ