xs
xsm
sm
md
lg

กุเรื่องเล่นใหญ่ “ลอบสังหาร”มุกนี้คุ้นๆ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

ตอนแรกรู้สึกเฉยๆ กับคำพูดของ “สองพ่อลูกเขมร” นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ล่าสุดได้รับมอบอำนาจเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการทำศึกกับไทย และ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ออกมาอ้างว่ามีความพยายาม “ลอบสังหาร” แน่นอนว่าย่อมต้องการกล่าวหาฝ่ายไทยว่ามีเจตนาสังหาร พร้อมทั้งขู่ว่า แม้ว่าพวกเขาจะถูกสังหารจริง ก็จะมี “ฮุน เซน-ฮุน มาเนต” เกิดขึ้นมาอีกนับหมื่นนับแสน อะไรประมาณนั้น

คำพูดที่ว่านี้ ฮุน เซน ได้ย้ำออกมาหลายครั้ง หลายวันต่อเนื่อง ตอนแรกก็นึกว่าเป็นการพูดแบบผ่านๆ แต่กลายเป็นว่า นายฮุน เซน เอาจริงเอาจังกับเรื่องดังกล่าว ย้ำให้เห็นว่ามีจริง และไทยก็กำลังเล็งเป้ามาที่เขา “สองพ่อลูก”

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ในเฟซบุ๊ก ของ นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา มีการโพสต์ข้อความว่า เมื่อวันก่อนมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกเกี่ยวข้องกับการที่ญี่ปุ่นมอบโดรนให้ไทย, จีนมอบโดรนให้กัมพูชา และเกาหลีใต้ขายกระสุนปืน และเครื่องบินให้ไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ในการลอบสังหาร ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต ส่วนเรื่องที่สองคือ แผนการลอบสังหารจากฝ่ายผู้นำไทยต่อผม และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ซึ่งหากทั้งสองประเด็นนี้ไม่ได้รับการชี้แจงหรือคลี่คลาย อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต ดังนั้น ผมขอชี้แจงดังนี้ :

1. เรื่องโดรน อาวุธ หรือเครื่องบิน ไม่ว่ากัมพูชา หรือไทยจะได้รับจากประเทศใด ขออย่าขยายความจนเลยเถิดจากข้อพิพาทระหว่างกัมพูชา-ไทย ไปสู่ความขัดแย้งกับประเทศอื่น โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศเหล่านั้นกำลังมีบทบาทช่วยยุติข้อขัดแย้ง สนับสนุนการหยุดยิง และส่งเสริมสันติภาพระหว่างกัมพูชา-ไทย

2. เรื่องแผนลอบสังหาร จากผู้นำไทยต่อตัวผมและนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต นั้น เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก แม้ว่าผู้นำไทยจะไม่ชอบหรือเกลียดผมกับ ฮุน มาเนต ก็ตาม แต่ก็คงยังไม่ถึงขั้นไร้คุณธรรมจนต้องวางแผนสังหาร

ในประวัติศาสตร์ อาจมีการลอบสังหารแม่ทัพที่มีฝีมือเพื่อเอาชนะสงคราม แต่ยุคนี้ไม่เหมือนยุคก่อน เราต้องการคนที่สามารถเจรจากันได้ เพื่อสร้างสันติภาพ กัมพูชาต้องการผู้นำไทยที่เข้มแข็งเพื่อเจรจาสันติภาพ และไทยเองก็ต้องการผู้นำกัมพูชาที่เข้มแข็ง ซึ่งปัจจุบันมีเพียง ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต เท่านั้น ที่มีอำนาจพอในการเจรจา โดย ฮุน มาเนตเองเป็นผู้ออกหน้าเจรจาโดยตรง

ด้วยเหตุผลนี้ จึงไม่มีเหตุผลใดที่ผู้นำไทยจะวางแผนสังหาร ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต และหากเกิดเหตุ ฮุน เซน หรือ ฮุน มาเนต ถูกสังหารโดยฝีมือของผู้นำไทยจริง ก็คงจะเกิดฮุน เซน หรือฮุน มาเนต ขึ้นอีกนับหมื่นนับแสน หรือเป็นล้านคน บนแผ่นดินกัมพูชา ซึ่งจะกลายเป็นศัตรูโดยสายเลือดและยากจะลบล้าง

สำหรับตัวผมและ ฮุน มาเนต เอง ก็ไม่ใช่กบที่จะฆ่าได้ง่ายๆ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นการอธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้นำไทยไม่ได้วางแผนสังหาร ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต แต่อย่างใด

ในแผนการลอบสังหารนั้น มีการกล่าวว่าจะใช้เครื่องบินโจมตี จุดนี้ประเทศที่ขายเครื่องบินรบให้ไทย ควรเข้มงวดกับข้อตกลงการใช้งานให้มากขึ้น เพราะในอดีต ไทยเคยใช้เครื่องบินที่ซื้อจากอเมริกา และสวีเดน บุกล้ำเข้ามาในเขตกัมพูชา

กัมพูชาไม่ได้คัดค้าน การที่ไทยจะซื้อเครื่องบินรบ แต่ขออย่าให้ไทยนำเครื่องบินนั้นมาใช้ในการโจมตีภายในเขตกัมพูชา, ลาว, มาเลเซีย หรือ เมียนมา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีพรมแดนติดกับไทย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม สื่อของกัมพูชาก็ได้พร้อมใจกันเผยแพร่รายงานข่าวอ้างว่าฝ่ายไทยมีแผนลอบสังหาร ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต โดยจะใช้เครื่องบินโจมตีเบา AT6 TH ติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีด้วย GPS ของเกาหลีใต้ บินขึ้นจากจังหวัดตราด ไปยิงโจมตีใส่บ้านพักของ ฮุน เซน และฮุน มาเนต ซึ่งล่าสุด เฟซบุ๊ก ของสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความปฏิเสธว่า รายงานข่าวที่เผยแพร่ในสื่อกัมพูชาเกี่ยวกับการขายขีปนาวุธนำวิถีด้วย จีพีเอส และเครื่องบินโจมตีเบา At-6 TH ของเกาหลีใต้ ให้แก่ประเทศไทยนั้น เป็นเท็จ

เอาเป็นว่า เนื้อหาในเฟซบุ๊ก ของ ฮุน เซน และ ในรายงานข่าวของสื่อกัมพูชาที่พร้อมใจกัน “อวยตัวเอง” และสร้างมโนขึ้นมาว่า ฝ่ายวางแผนลอบสังหาร มีการนำอาวุธทันสมัยจากต่างประเทศมาถล่ม ความหมายรวมๆ ก็คือ “ยกตัวเองให้สำคัญ” จนต้องลอบสังหาร

ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนภาวะทาง “จิตวิทยา” บางอย่างออกมาให้เห็นเหมือนกัน นั่นคือการสะท้อนให้เห็นถึง “ความไม่มั่นคง” เกิดความกลัว เหมือนกับมี “อาการหลอน” กลัวว่าจะมีคนมาทำร้าย ซึ่ง ฮุน เซน ก็อยู่ในอาการแบบนี้ เพราะเมื่อมีอำนาจนานๆ ก็เกิดอาการหลง แต่ขณะเดียวกันเวลานี้เริ่มหวาดผวากับ “พลังต่อต้าน” เริ่มเสื่อมความนิยม ส่วนสำคัญมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง โดยภาวะความเดือดร้อนของชาวบ้าน จะเป็นตัวสั่นคลอนอำนาจของสองพ่อลูกเขมรได้มากที่สุด

ขณะเดียวกันอย่าได้แปลกใจที่ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา พวกเขาพยายามสร้างความตึงเครียดระหว่างประเทศ แม้ว่าสาเหตุสำคัญจะมาจาก “ผลประโยชน์ขัดกัน” ระหว่างสองครอบครัว คือ “ครอบครัวฮุน” กับ “ครอบครัวชินวัตร” ของ นายทักษิณ ชินวัตร จนลุกลามบานปลาย ลากเอาชาวบ้านทั้งสองประเทศเดือดร้อนไปด้วย แต่อีกด้านหนึ่งที่เขาต้องการ ก็คือ การก่อสงคราม เพื่อสร้างกระแสชาตินิยมขึ้นมา ซึ่ง ฮุน เซน มักทำแบบนี้ทุกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าอำนาจของตัวเองกำลังสั่นคลอน เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เคยเกิดขึ้นกับเวียดนาม ลาว และกับไทย เมื่อปี 2554

อย่างไรก็ดี แม้ว่าเรื่องการ “ลอบสังหาร” เป็นเพียงการสร้างกระแสเพื่อกลบเกลื่อนหลายเรื่อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสำคัญให้กับตัวเอง และยังเป็นการ “ปลุกความนิยม” ให้กลับมาอีกครั้งเท่านั้น และกลายเป็นเพียงเรื่องตลกขบขันมากขึ้นไปอีก

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งเมื่อพูดถึงเรื่อง “แผนลอบสังหาร” แบบนี้แล้วไม่ใช่มีเพียงกรณีของ ฮุนเซน แห่งเขมรเท่านั้น ในไทยก็เคยมีเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เคยเป็นเพื่อนเก่ากับเขามานานหลายสิบปีเช่นกัน คือ ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง เมื่อครั้งที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยมีการสร้างกระแสลอบสังหารหลายครั้ง ครั้งหนึ่งมีเหตุการณ์ในลักษณะที่เรียกว่า “คาร์บ๊องส์” มีการเชื่อมโยงเรื่องการลอบวางระเบิดเครื่องบิน เป็นต้น

ดังนั้น นาทีนี้เรื่องการ “ลอบสังหาร” ก็เป็นแค่เพียงเรื่องตลก ที่มโนขึ้นมาเพื่อสร้างความสำคัญ และปลุกกระแสทางการเมืองขึ้นมา ซึ่งคราวนี้เป็นเรื่องของ ฮุน เซน จากเดิมที่เคยเป็นเรื่องมโนของ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อหลายปีก่อน เอาเป็นว่าเป็นเรื่องขำภายใต้บรรยากาศหยุดยิง ที่มีการลงนามกันไปแล้วที่มาเลเซีย ที่มีข้อปฏิบัติร่วมกัน 13 ข้อ ก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะยังไว้ใจไม่ได้ และไทยต้องเด็ดขาด เหลาะแหละไม่ได้อีกแล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น