ปฎิเสธไม่ได้ว่า คณะรัฐมนตรี”แพทองธาร“ครั้งนี้ หลายสายตาจับจ้องไปที่ชื่อ“ศ.ดร.นถุมล ภิญโญสินวัฒน์”หรือที่รู้จักในนิคเนมว่า“อาจารย์แหม่ม”มานั่งคุมกระทรงเกรดเอ อย่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องรับหน้าที่ดูแลคุณภาพชีวิตของเกษตรกรทั่วประเทศ จึงถือเป็นงานที่ท้าท้ายอยู่ไม่น้อย
ถึงแม้ว่า โปรไฟล์ของ“อาจารย์แหม่ม”จะไม่ธรรมดา เพราะมีดีกรีเป็นนักสถิติศาสตร์ มาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก ด้านการเงิน จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย แต่ก็ยังมีคำถามว่า “รัฐมนตรีคนล่าสุดจะเข้าใจปัญหาของเกษตรกรได้อย่างถ่องแท้หรือไม่”
ก่อนที่ ศ.ดร.นฤมล จะผงาดมานั่งคุมกระทรวงเกษตรฯเธอได้ปฎิบัติหน้าที่“ผู้แทนการค้าไทย”ในยุค“เศรษฐา ทวีสิน”มาก่อน และช่วงนั้นทำให้อาจารย์แหม่มอยู่ประเทศไทยแบบนับวันได้ เพราะความรับผิดชอบหลักของเธอ ที่ต้องยอมรับว่าหนักเอาเรื่อง และการขยายตลาดส่งออกสินค้าทางการเกษตร กว่า 10 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมนี ฝรั่งเศส และบุกเบิกตลาดใหม่ อย่างแอฟริกาใต้ และ ซาอุดีอาระเบีย ล้วนแต่ผ่านมือเธอมาหมดแล้ว
และล่าสุดเหมือนจะได้คำตอบชัดเจนว่า ทำไมผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ ถึงเหมาะสมที่จะมาเป็นความหวังให้เกษตรกรทั่วประเทศ เพราะหลังจาก “รมว.นฤมล”ปฎิบัติหน้าที่มาเพียง 14 วัน โดยเมื่อเช้าของวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา“อาจารย์แหม่ม”บินลัดฟ้าจากประเทศไทยสู่สาธารณรัฐคาซัคสถาน ด้วยเป้าหมายสำคัญคือ ยกระดับรายได้ให้เกษตรกร ศ.ดร.นฤมล นำทีมเปิดวงเจรจากับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรของคาซัคสถาน เพื่อนำไปสู่การค้าร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ
ศ.ดร.นฤมล รู้ดีว่า คาซัคสถานเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และมีฐานเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียกลาง อีกทั้ง คาซัคสถานยังมีนโยบายที่จะเป็นศูนย์กลางในการขนส่งของกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย หรือที่เรียกว่า EAEU ทุกข้อที่ร่ายมา ทำให้ ศ.ดร.นฤมล ปักแลนด์มาร์ค เดินหน้าสานสัมพันธ์ให้คาซัคสถานเป็นตลาดส่งออกสินค้าประมงแปรรูป และสินค้าฮาลาล แห่งใหม่ในแถบเอเชียกลาง สำหรับประเทศไทยทันที
แต่คาซัคสถานเป็นประเทศสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย ทำให้มีความคล้ายคลึงกับระบบของสหภาพยุโรป ดังนั้น การส่งออกสินค้าจากไทย จะต้องได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มประเทศสมาชิก จำเป็นต้องประสานงานในเรื่องนี้ด้วย ศ.ดร.นฤมล จึงเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรระหว่างไทยและคาซัคสถาน ครั้งที่ 1 เพื่อให้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูล และหารือถึงแนวทางการขยายการค้าสินค้าเกษตร
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า เร็ว ๆ นี้ คาซัคสถานจะเป็นประเทศใหม่ล่าสุดที่ไทยจะสามารถส่งออกสินค้าทางการเกษตรไปยึดตลาดได้เพิ่มอีกแห่งหนึ่ง และยังจะมีอีกหลายประเทศตามมาแน่นอน เพราะ ศ.ดร.นฤมล ประกาศเป้าหมายในวันแถลงนโยบายของกระทรวงเกษตรฯไว้ว่า จะพัฒนาภาคเกษตรไทยอย่างต่อเนื่อง และช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องเกษตรกรไทยให้อยู่ดีกินดี สินค้าเกษตรมีมูลค่าสูง และทรัพยากรเกษตรยั่งยืน
สุดท้ายแล้ว คงจะต้องจับตาดูฝีไม้ ลายมือ ในการกำกับดูแลช่วยเหลือเกษตรกร และยกระดับภาคการเกษตร แบบห้ามกระพริบตา เพราะด้วยบุคลิกของหญิงแกร่งคนนี้ แข็งกร้าวเป็น อ่อนโยนได้ ประสบการณ์ครบเครื่องทั้งบู้และบุ๋น ความรู้ไม่เป็นรองใครแน่นอน คนรอบข้างรู้กันดีว่า“อาจารย์แหม่ม”ขึ้นชื่อเรื่องความขยัน เฉียบขาด และจริงจัง แค่ไหน !