เมืองไทย 360 องศา
จากคำพูดล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กันยายน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า นโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ในเฟสที่สอง จะแจกเป็นเงินสด
โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ในคอนเซ็ปต์ ยังมีอยู่แน่นอน เพียงแต่ปรับรูปแบบ อย่างที่เราบอกดิจิทัลวอลเล็ตมีแผนที่จะจ่ายเป็นเงินสดด้วย อะไรด้วย แล้วมาดูว่าอะไรที่จะแก้ในรายละเอียดก็มี แต่แน่นอนต้องแก้
ถามว่านายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส. พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ว่า เงินดิจิทัลวอเล็ตหลังจากจ่ายเงินสดให้กลุ่มเปราะบาง ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เป็นเงินสดเช่นเดียวกัน และแบ่งจ่ายตามงบประมาณ ใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวยอมรับว่า “ใช่อย่างงั้นเลยค่ะ แต่ขอรายละเอียดให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน เพราะถ้าพูดไปแล้วเปลี่ยน ก็จะหาว่าพูดไม่ตรง เราต้องทำการบ้านกันก่อน”
สำหรับการแจกเงิน ดิจิทัล วอลเล็ต ของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย การดำเนินการจะแบ่งออกเป็นสองเฟส โดยจะเริ่มแจกให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีจำนวนประมาณ 14 ล้านคน โดยแจกเป็นเงินสด คาดว่าต้องแจกภายในเดือนกันยายน นี้ เพราะกำลังจะสิ้นปีงบประมาณ 2567 และเป็นการนำเงินจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 จำนวน 1.22 แสนล้านบาทนำมาแจก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางไปจากเดิมที่เคยยืนยันว่าจะแจกเป็นเงินดิจิทัล หรือเติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน โดยมีเงื่อนไขต้องไปซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ลงทะเบียน และซื้อสินค้าที่กำหนดในเงื่อนไขเอาไว้ ความหมายในตอนแรกก็คือ ไม่แจกเป็นเงินสดนั่นแหละ
อย่างไรก็ดี หลังจากมีเสียงทักท้วงและคัดค้านจำนวนมาก ว่าได้ไม่คุ้มเสีย สร้างหนี้ ไม่ได้เพิ่มพายุหมุนทางเศรษฐกิจอย่างที่คาดหวังเอาไว้ ที่สำคัญยังส่อไปในทางทุจริต เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่เท่านั้น พร้อมทั้งเรียกร้องว่า หากจะแจกจริงๆก็สมควรแจกเป็นเงินสดดีกว่า แต่รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยยังยืนกรานว่า ต้องดำเนินการไปตามแนวทางเดิม
นอกเหนือจากนี้ แม้ว่าเวลานี้จะสามารถหาเงินสำหรับนำมาแจกตามนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ได้แล้วก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น นั่นคือ มีแค่จำนวน 1.22 แสนล้านบาทเท่านั้น ที่ใช้สำหรับแจก“กลุ่มเปราะบาง” ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เคยลงทะเบียนไว้จำนวน 14 ล้านคน และล่าสุดในการพิจารณา ร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ในวาระที่ 2-3 กลับมีการพบว่า มีการโยกงบจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท สำหรับนำไปจ่ายหนี้ให้กับธนาคารของรัฐ โดยนำงบดังกล่าว มาโปะในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รวมแล้วตัวเลขกลมๆ ก็จะมีแค่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท จากที่เคยตั้งงบเอาไว้จำนวน 4.5 แสนล้านบาท สำหรับแจกจำนวน 4.5 ล้านคน
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวก่อนการอภิปรายร่างงบประมาณ ปี 68 ว่า เราคงจะเน้นไปที่เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะต้องใช้งบประมาณปี 68 อีกกว่า 3 แสนล้านบาท แต่จนแล้วจนรอดรัฐบาลก็ยังไม่สามารถหางบประมาณมาเพียงพอที่จะใช้กับดิจิทัลวอลเล็ตทั้งโครงการที่เคยตั้งงบประมาณไว้ 4.5 แสนล้านบาท
สำหรับงบปี 68 หามาได้แค่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาทเศษ เท่ากับว่าจะครอบคลุมที่จะแจก ไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือเงินดิจิทัล ได้เพียงแค่ 18 ล้านคน และรัฐบาลก็ยังคงมืดแปดด้าน ที่จะหางบประมาณมาให้ครบ
“ฉะนั้น ชะตากรรมของคนที่เหลือ ที่เคยลงทะเบียนเอาไว้ และไม่ได้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังอยู่ในภาวะวิกฤตที่ยังไม่แน่ใจว่า จะได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต หรือไม่” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
“เนื่องจากในรายละเอียดนั้นยังมีการปรับลดที่ไม่สมเหตุสมผล อะไรที่ควรลดก็ยังไม่มีการปรับลด และที่สำคัญจะต้องใช้หนี้ธนาคารของรัฐ ทั้งธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และยังมีการโอนให้โครงการดิทัลวอลเล็ตจำนวน 35,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ก็ได้เพียง 180,000 กว่าล้านบาท ยังไม่เพียงพอที่จะแจกเงิน 10,000 บาท ให้ครบทั้ง 45 ล้านคน ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อพิจารณาตามรูปการณ์แล้ว เหมือนกับว่า รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่มารับช่วงต่อจากรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องเดินหน้าแจกเงินดิจิทัลต่อไป โดยปรับเป็น“แจกเงินสด” ตามความต้องการของประชาชน และต้องแจกเพราะมีการรับปากยืนยันกันไปแล้ว หากทำไม่ได้ ก็จะเกิดผลเสียทางการเมืองตามมามหาศาล เรียกว่า “จมธรณี” กันไปเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีการ “กลับลำ” หันมาแจกเป็นเงินสดดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีปัญหาเดิมๆอีกก็คือ แล้ว “จะเอาเงินมาจากไหน” ให้ครบ 4.5 แสนล้านบาท เพราะตามข้อมูลตัวเลขที่ได้มาเวลานี้ รวมกันแล้วมีเพียงแค่ 1.8 แสนล้านบาทเท่านั้น จากจำนวนเต็มที่ต้องใช้สำหรับแจกให้ครบ 40.5 ล้านคน ตามเป้า จากเดิมที่เคยบอกว่ามีจำนวน 50 ล้านคน 5 แสนล้านบาทแล้วก็ตาม
ทำให้หลายคนเริ่มจับทางได้อีกว่า รัฐบาลกำลังจะมีการเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมในปี 68 หรือ “กู้เพิ่ม” อีกครั้งในเร็วๆ นี้ เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่มีการเสนองบเพิ่มเติมปี 67 จำนวน 1.22 แสนล้านบาทไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้สูง เพราะเมื่อพิจารณาจากเงินที่หามาได้ในเวลานี้ ที่ล่าสุดนำเงินที่จะจ่ายหนี้ให้กับธนาคารของรัฐ จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท ก็โยกกลับมาใช้สำหรับการแจกเงินดิจิทัลในเฟสแรก ที่จะแจกเป็นเงินสดภายในเดือนกันยายนนี้
สิ่งที่เห็นในเวลานี้ สำหรับรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เหมือนกับว่า “แจกไป หาไป” เพราะเมื่อดูจากเงินที่มีอยู่ในมือแล้ว ถือว่ายังห่างไกลจากยอดเต็มที่ตั้งเอาไว้จำนวน 4.5 แสนล้านบาท ทำให้ไม่มีทางเลือก ก็ต้อง “กู้เพิ่ม” เพื่อนำมาโป๊ะให้ครบจำนวน แต่ปัญหาก็คือมันก็ไม่ง่ายดายนัก เพราะเสียงคัดค้านก็ยังดัง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อกฎหมาย ในเรื่องวินัยการเงินการคลังที่ค้ำคออยู่
ดังนั้นเหมือนกับว่า นาทีนี้ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ในอาการ “เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ลำบาก” เพราะแม้ว่าจะพลิกกลับลำมาเป็นแจกเงินสดตามเสียงเรียกร้องแล้วก็ตาม แต่ปัญหาใหญ่ที่วนกลับมาที่เดิมก็คือ “จะหาเงินมาจากไหน” มาให้ครบจำนวน 4.5 ล้านคน เพราะไม่ว่ามองไปทางไหนยังมองไม่เห็นทาง โดยเฉพาะคนที่อยู่นอกเหนือกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน จะได้หรือเปล่า!!