“ภูมิธรรม” ยันไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่ หลัง “ทักษิณ” พาครอบครัวร้องเพลง-ตีกอล์ฟ ร่วม “อนุทิน” บอกเป็นเรื่องปกติ พักผ่อนวันหยุดยาว รับเหตุการณ์การเมือง เดือน ส.ค. มีผลกระทบบริหารประเทศ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีปรากฏภาพ นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมครอบครัว เดินทางไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ และร่วมร้องเพลง-ตีกอล์ฟ กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะมีปรากฏการณ์หรือดีลการเมืองเกิดขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม ว่า ไม่มีอะไร ถือเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นช่วงวันหยุดยาว ใครว่างก็ไป ใครยังไม่ว่างก็ไม่ได้ไป ซึ่งตนก็ไม่ได้ไป และตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลสื่อสารกัน ประชุมกัน รับฟังความคิดเห็นกันและกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การรับประทานอาหารค่ำร่วมกันระหว่างพรรคร่วม ไม่มีอะไร ไม่มีดีล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “ไม่มีหรอดครับ ปฏิญญาเขาใหญ่ มีแต่ไปตีกอล์ฟ ร้องเพลง ทานข้าวกันธรรมดา”
เมื่อถามว่า หลายคนนำไปเชื่อมโยงกับที่นายทักษิณ เคยระบุว่า หลังเดือนสิงหาคม สถานการณ์หลายอย่างจะเริ่มดีขึ้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้ตนไม่ได้ยินที่นายทักษิณพูด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เราเร่งรัดทำงาน เพราะสถานการณ์ของประชาชนยากลำบาก เป็นสิ่งที่พูดมาตลอดนานแล้ว อย่างที่บางพรรคเคยบอกว่าสถานการณ์ยังไม่วิกฤต ตนก็บอกให้ไปเดินตลาดดู ซึ่งมันก็ปรากฏชัดเจน เราก็พยายามที่จะรีบแก้ไขสถานการณ์ แต่บางพรรคก็ยังทำเฉยชา เล่นแต่การเมืองอย่างเดียว ตีจนเกินเลยไป วิเคราะห์นำไป
ส่วนกรณีปรากฏภาพผู้บริหารของบริษัทพลังงานร่วมก๊วนตีกอล์ฟกับนายทักษิณ จะทำให้ถูกจับตาว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาเรื่องพลังงานได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เราประกาศชัดเจนว่าเราอยู่ในสังคมซึ่งมีคนหลายส่วน และเราพยายามที่จะดึงความร่วมมือกับทุกฝ่าย มาช่วยกันแก้ปัญหา เรื่องทุนใหญ่ไม่ใช่ประเด็น เพราะนโยบายของเรา คือ สร้างความสมดุลอยู่แล้ว เช่น กระทรวงพาณิชย์ ที่กำลังแก้ปัญหาราคาสินค้า ได้ดึง 30 บริษัทรัฐวิสาหกิจ และบริษัทห้างร้าน มาช่วยกันแก้ปัญหา
เมื่อถามว่า ในเดือนสิงหาคมสถานการณ์ทางการเมืองอาจจะมีเรื่องของการยุบพรรคการเมือง และมีอีกหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น จะมีอะไรเป็นตัวฉุดถ่วงกระทบกับการบริหารประเทศหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สถานการณ์รอบด้านในประเทศล้วนมีผลกระทบต่อการเมืองทั้งนั้น จะมากหรือน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งในช่วงเดือนสิงหาคมมีหลายอย่างที่เกิดขึ้น ที่แต่ละคนคาดเดากันไปว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เช่น การพิจารณายุบพรรคก้าวไกล การพิจารณาตัดสินคดีของนายกรัฐมนตรี ในคดีการแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี หรือคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีมาตรา 112 ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะมองได้ว่าทำให้ไม่มีความมั่นใจ หรือไม่แน่ใจว่าผลจะเกิดเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าผลจะเกิดอย่างไรเราต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่เกิดขึ้น ส่วนจะแก้อย่างไรก็ต้องว่ากันไป เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่ามีหรือไม่มีแต่รัฐบาลไม่อยากเอาปัจจัยเหล่านั้นมาทำให้การบริหารประเทศติดขัด ซึ่งสังคมไทยมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทุกอย่างมีผลกระทบ รัฐบาลพยายามแน่วแน่ มุ่งมั่นทำงานแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นภารกิจหลักและภารกิจเร่งด่วน