เมืองไทย 360 องศา
สำหรับเดือนสิงหาคม ถือว่ามีความหายกับทั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย มากเป็นพิเศษ หลังที่ นายทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศว่า “หลังเดือนสิงหาคมจะได้เห็นผลงานของรัฐบาล”
โดยนายทักษิณ กล่าวที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ตอนหนึ่งว่า ห่างจากประเทศไทยไป 17 ปี ปราศรัยไม่ค่อยเป็นแล้ว แต่มีความห่วงใยและผูกพันกับแผ่นดินไทย กับพี่น้องคนไทยตลอดเวลา ไม่เคยลืม วันนี้ขอให้ทุกคนร่วมอนุโมทนาบุญ กุศลใหญ่นี้ ขอให้ทุกท่านและครอบครัวได้พ้นบ่วงแห่งหนี้สิน มีโอกาสที่จะตั้งตัว
“ผมเชื่อว่าหลังจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป รัฐบาลคงจะทำงานเป็นรูปธรรมออกมา เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ เราต้องให้ความมั่นใจและเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ให้แข็งแรง วันนี้เป็นงานบุญ เราเริ่มต้นทำจิตใจให้ผ่องใส สมองจะได้ผ่องใส แก้ปัญหาของทุกคนได้ ขอให้ทุกคนมีความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดสมความปรารถนา" นายทักษิณ ระบุ
จากนั้น นายทักษิณได้เดินพบปะพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงาน โดยหลายคนเข้ามารุมล้อม สวมกอด ขอถ่ายรูปและมอบดอกกุหลาบให้ มีจังหวะหนึ่ง แฟนคลับพยายามที่จะหอมแก้มนายทักษิณ แต่เจ้าหน้าที่ได้ห้ามไว้ทัน เนื่องจากกังวลเรื่องปัญหาสุขภาพ
คำถามที่ตามมาว่า ทำไมต้องเป็นเดือนสิงหาคม คำตอบอาจเป็นเพราะ ในเดือนดังกล่าว นายทักษิณ ชินวัตร มีกำหนดพ้นโทษ ซึ่งย่อมเกี่ยวพันกับพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล เพราะอย่างที่รับรู้กันก็คือ เขาเป็นทุกอย่าง และอยู่เบื้องหลังทั้งในเรื่องการสั่งการ จนถูกมองว่าไม่ต่างจากการครอบงำกันเลยทีเดียว
การที่เขาพ้นโทษออกมาอย่างเต็มตัวในเดือนสิงหาคม นั่นก็หมายความว่า หลุดออกจากพันธนาการและข้อจำกัดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกังวลทางกฎหมาย หรือ “ขี้ปาก” ของชาวบ้านอีกต่อไป ทำทุกอย่างแบบเปิดเผย
สิ่งที่พิสูจน์ได้ล่าสุดก็คือ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม รัฐบาลได้มีการประชุมการประชุมคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ บอร์ดเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยหลังประชุม นายเศรษฐา ทวีสิน ได้เปิดเผยผ่านเพจ เศรษฐา ทวีสิน ระบุว่า ดิจิทัลวอลเล็ตพร้อม เปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้ ครับ
การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดลงทะเบียน และการดำเนินการในภาพรวมที่จะรองรับการใช้งานของประชาชนและร้านค้า โดยมีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ รวมไปถึงการลงรายละเอียดเงื่อนไขของการรับสิทธิ์ และมาตรการป้องกันการทุจริต การเรียกเงินคืนให้ชัดเจนขึ้นครับ
โครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือ โครงการใหญ่ของภาครัฐที่จะเติมเงินกระเป๋าพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และระบบเศรษฐกิจในภาพรวม เพื่อความละเอียดรอบคอบทั้งทางกฎหมาย และทางเทคนิค โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ทำให้ใช้เวลาดำเนินการมากหน่อย แต่พี่น้องไม่ต้องคอยเก้อแน่นอนครับ
โดยหลังจากนั้นก็มีการเปิดเผยขั้นตอนการลงทะเบียน โครงการ “ดิจิทัล วอลเล็ต” ตามมาทันที โดยย้ำว่า จะมีการแจกเงินดิจิทัลฯ ภายในไตรมาสสี่ ของปีนี้
ขณะเดียวกันเมื่อย้อนกลับมาที่ นายทักษิณ ชินวัตร อีกรอบที่เกี่ยวเนื่องกับเดือนสิงหาคม หลังการพ้นโทษ ที่เขาแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยว่าพร้อมเข้ามาช่วยงานรัฐบาล ทำให้มองว่าจะเข้ามาในลักษณะเป็น “ที่ปรึกษา”
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดือนสิงหาคม นายทักษิณ ชินวัตร พ้นโทษ อาจจะเข้ามาช่วยงานรัฐบาลหรือไม่ ว่า เป็นความเห็นของนายทักษิณ เพราะอยากเอาความรู้ความคิดเห็น ประสบการณ์ที่มี อยากจะช่วยเหลือประเทศชาติ ต้องถามท่านว่า อยากจะช่วยอะไร อย่างไร หรือมีความคิดเห็นเรื่องใดบ้าง ก็อยู่ที่นายทักษิณต้องไปถามท่าน
ส่วนงานที่พรรคเพื่อไทย จะเข้าไปช่วยได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าถ้านายทักษิณ พ้นมลทินทั้งหมด ก็สามารถเข้าไปช่วยงานพรรคได้
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ หลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องขังเด็ดขาดในคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างการพักโทษ ออกมาแสดงความเห็นว่าหลังเดือนสิงหาคมนี้ รัฐบาลคงจะทำงานได้เป็นรูปธรรมมากขึ้นและเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ ตรงนี้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลมีแนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะพ้นโทษในเดือนสิงหาคมนี้มาเป็นที่ปรึกษาฯ หรือให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ว่า “พอดียังไม่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของท่าน และท่านให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไรบ้าง ขอคำถามอีกครั้ง”
ถามย้ำว่า อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าหลังเดือนสิงหาคมนี้ รัฐบาลคงจะทำงานได้เป็นรูปธรรมมากขึ้นและเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลมีแนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะพ้นโทษและเป็นผู้บริสุทธิ์ในเดือนสิงหาคมนี้ มาเป็นที่ปรึกษาฯหรือให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนั้นยังไม่ได้คิดและยังได้มีการพูดคุยกัน ส่วนการทำงานที่จะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นนั้น ตรงนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีการพูดคุยกันตลอดเวลาในเรื่องของการทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
เมื่อถามย้ำว่าแนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกตรีมาเป็นที่ปรึกษาหรือให้คำแนะนำจะเป็นไปได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันตรงนี้ แต่อย่างที่ตนเคยชี้แจงไปแล้วตนได้มีโอกาสได้พบปะกับอดีตนายกรัฐมนตรีหรือผู้นำของประเทศไม่ว่าจะใครก็ตาม ที่มีข้อเสนอแนะที่ดีตนก็ยินดีรับฟัง
แม้ว่าคำพูดของ บุคคลทั้งสอง จะเป็นในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ แต่เป็นลักษณะของการเปิดกว้างอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าทุกคนรับรู้กันอยู่แล้วว่า นายทักษิณ เป็นเจ้าของพวกเขาอยู่แล้ว ไม่ต่างจากพรรคของเขา และรัฐบาลที่เขาเป็นคนคัดเลือกรัฐมนตรีเข้ามา รวมไปถึงตำแหน่งการเมืองในรัฐบาลส่วนใหญ่ก็มาจากเขาหรือเขาให้การสนับสนุน
อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาทุกอย่างผิดไปจากเป้าหมายไปมาก ตั้งแต่การเดินทางกลับประเทศไทย โดยไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว ทำให้เสียเครดิต ได้รับการ “เหยียดหยาม” การจัดตั้งรัฐบาลที่ถูกมองว่า “ตระบัดสัตย์” อีกทั้งที่ผ่านมายังไม่มีผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้ แม้ว่าจะผ่านมาเกือบปีแล้ว
การที่ นายทักษิณ ประกาศว่า หลังเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปจะได้เห็นผลงานรัฐบาลเป็นรูปธรรม นั้นทางหนึ่งคงมั่นใจว่า เมื่อเขาเป็นอิสระแล้ว คงสามารถบัญชาการ และขับเคลื่อนผลงานของรัฐบาล และสร้างคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยให้กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ขณะเดียวกัน งานนี้ถือว่าเป็น การ “วางเดิมพัน” ของเขาที่สูงมาก เพราะนี่อาจเป็นการเสี่ยงครั้งสุดท้าย เพราะหากพลาดไม่เข้าเป้า ทุกอย่างก็จบเห่ มีสิทธิ์พังทั้งขบวน เนื่องจากทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเครดิตที่ถดถอยลงไปมากแล้ว !!