เมืองไทย 360 องศา
กรณี นายวัน อยู่บำรุง ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตามหลังการออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข หลังจากไปปรากฏตัวร่วมลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กับ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง คู่แข่งของผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย โดยเหตุการณ์บานปลาย เมื่อร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พ่อของนายวัน อยู่บำรุง ได้ท้าทายให้พรรคเพื่อไทยขับเขาออกจากพรรค เพื่อจะได้หาสังกัดพรรคใหม่ โดยปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ก่อนหน้านี้ นายวัน อยู่บำรุง แพร่ภาพสดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงความในใจหลังมีข่าวลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข โดยเริ่มต้นทักทายแฟนคลับว่า วันนี้บรรยากาศดี แต่สถานการณ์ไม่ค่อยดี หากเป็นเอฟซีแฟนพันธุ์แท้ ที่ติดตามจะทราบว่าตนอยู่บางบอน อยู่เพื่อไทย ไม่เคยคิดที่จะหนีหายไปไหน ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยยังรักและเมตตา แต่วันใดที่พรรคเพื่อไทยไม่รักและไม่ให้โอกาสตนแล้ว ก็ต้องไป ไม่เคยคิดเลยว่าวันนั้นจะมาถึงแล้ว วันพรุ่งนี้จะให้ทีมงานไปยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ส่วนสัปดาห์หน้า จะไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
นายวัน กล่าวว่า รู้สึกใจหายเพราะเป็นสมาชิกมาตั้งแต่พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ส่วนรายละเอียดไม่อยากพูด และตนต้องไปทบทวนตัวเองด้วยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะอะไร ขอพูดเพียงเท่านี้ เพราะไม่อยากพูดอะไรแล้ว พูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา สถานการณ์ย่ำแย่ลง ก็ตามที่เป็นข่าว หยิกเล็บ ก็เจ็บเนื้อ ตนนิ่งกว่าเก่าเยอะ มีความในใจอีกเป็นหมื่นล้านคำที่จะพูด แต่ขอเก็บไว้ ถ้าตนถูกกระทำเมื่อไรจะพูด เมื่อก่อนมีอะไรที่พาดพิงพรรค ตนก็จะสวนให้ ทัวร์ก็มาลงที่ตน ไม่เคยคิดเลยว่า วันนี้จะมาถึง และคิดอยู่เสมอว่าสักวันน่าจะมีวันนี้ แต่ไม่คิดว่ามาเร็ว มีอะไรจะพูดอีกเยอะแต่ไม่เหมาะ
“คนฟังอึดอัด ผมก็อึดอัด ผมยังรักผู้ใหญ่ทุกคนของพรรคเพื่อไทย เคารพคุณอุ๊งอิ๊งหัวหน้าพรรค รักท่านทักษิณ คุณหญิงพจมาน พี่ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะครอบครัวผมสนิทกับครอบครัวท่านมาตั้งแต่เก่าก่อน กาลเวลาเปลี่ยนไป อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป ผมยังรักพรรคเพื่อไทยเสมอ แต่สัปดาห์หน้าต้องขอไปลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ใจหาย” นายวัน กล่าว
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวภายหลังนายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีที่มีภาพไปร่วมติดตามผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ที่บ้านพักของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทราบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แสดงความไม่พอใจนายวันในเรื่องนี้อย่างรุนแรง ถึงขั้นระบุว่าจะต้องหยุดทำงาน นายวันเลยทำหนังสือลาออกเองเลย
“เมื่อหนุ่ม (นายวัน) ลาออกแล้ว ผมจะอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อได้อย่างไร ก็เลยขอให้พรรคขับผมออกจากพรรคตามระเบียบพรรคการเมือง เพื่อจะได้ไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งขณะนี้มีพรรคการเมือง 2-3 พรรค ติดต่อเข้ามาแล้ว ยืนยันว่าผมตกได้ แต่ผมต่ำไม่ได้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ขณะเดียวกันปฏิกิริยา จาก “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถือว่า“ซีเรียส” พอสมควร และมีลักษณะแตกหักกับ “บ้านอยู่บำรุง” อย่างชัดเจน โดยเธอย้ำว่า จะไม่ไปเคลียร์กันอีกแล้ว
“ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องปกครองคนหมู่มาก ก็ได้ตักเตือนไป และนายวันก็บอกว่าจะยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ดิฉันก็บอกไปว่าแล้วแต่ ให้เป็นวิจารณญาณ และตักเตือนไปตามหน้าที่ เพราะคนในพรรคและสส.ในพรรคที่เห็นภาพ ก็ถามกันมามาก เราก็ต้องคุยอยู่แล้ว ไม่ว่านายวันหรือคนอื่นๆ ต้องให้เกียรติพรรค และนายชาญ พวงเพ็ชร์ ก็เป็นผู้สมัครที่พรรคเพื่อไทยส่ง ก็ต้องให้เกียรติทั้งผู้สมัคร และการสนับสนุนของพรรค”
เมื่อถามว่า จะมีโอกาสเดินทางไปบ้านริมคลอง หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่มีการวางแผนตรงนั้น
แน่นอนว่า เมื่อสำรวจปฏิกิริยาทั้งสองฝ่ายแล้วถือว่า “ตัดขาด” กันอย่างชัดเจน แม้ว่า โดยความหมายคงจะไม่มีการขับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกจากพรรค เนื่องจากคงไม่ต้องการให้ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น แล้วกลับมาทิ่มแทงพรรคเพื่อไทย แต่จะใช้วิธี “ตรึง”ให้คาอยู่แบบนี้
อย่างไรก็ดี หากมองในภาพรวมๆ กรณีที่เกิดขึ้นกับครอบครัว “อยู่บำรุง” ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เคยเป็นกำลังหลักในฐานะ “ขาใหญ่บางบอน” ฝั่งธนฯ แต่มาวันนี้เหมือนกับการการถูกผลักใสออกไปอย่างไม่ใยดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขา “หมดราคา” หมดความสำคัญแล้วก็ได้
แต่อีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นอีกว่า ภายในพรรคเพื่อไทยเวลานี้ “ไม่เหมือนเดิม” มีทั้งคนเดินออกจากพรรค และมีคนที่ถูกบีบให้ออก ซึ่งตรงกันข้ามกับคนที่เดินสวนเข้ามา ซึ่งอาจเป็นเพราะมีความพยายามในการ “ถ่ายเลือดใหม่” กำลังปรับการบริหารงานใหม่ หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร เข้ามารับช่วงต่อ ในฐานะ“ลูกสาวเถ้าแก่”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้จับตาการเคลื่อนไหวของมวลชนคนเสื้อแดง ที่เริ่มหันหลังให้กับพรรคมากขึ้น กรณีของนายวรชัย เหมะ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง และเป็นที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ออกมาวิจารณ์การทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน แม้ว่าจะถูกเบรกจนหัวทิ่มก็ตาม แต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจภายใน แม้ว่าสำหรับนายวรชัย ถือว่าเป็นแค่ “ระดับปลายแถว” ไม่มีความสำคัญอะไรนัก แต่มันก็สะท้อนอารมณ์ของบางคนในพรรค เหมือนกับเรียกร้องความสนใจอะไรประมาณนั้น
แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ต้องจับตามองถึงอนาคตของ นายวรชัย เหมะ ว่าในอนาคตจะมีชะตากรรมเช่นไร จะต้องถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งการเมืองที่มีอยู่ หรือไม่
อย่างไรก็ดี สำหรับพรรคเพื่อไทยในวันนี้หากมองเข้าไปแล้วถือว่ามีความ “คุกรุ่น” พอสมควร ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม จนหลายคนมองเห็นว่ากำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยลงไปเรื่อยๆ แม้ว่ามีนายทักษิณ ชินวัตร ได้กลับมาคุมเกมด้วยตัวเองก็ตาม แต่กลายเป็นว่าในเรื่อง “ภาพลักษณ์” กลับไม่ได้ดีขึ้นเลย พิสูจน์ได้จากผลสำรวจที่ออกมาทุกครั้ง ความนิยมลดน้อยลงไปทุกครั้ง จนมีการระบุว่า หากมีการเลือกตั้งวันนี้ พรุ่งนี้ จะแพ้เลือกตั้ง และแพ้มากกว่าเดิมอีกด้วย
ดังนั้น หากมองกันแบบทำความเข้าใจ มันก็เหมือนกับว่า พรรคเพื่อไทยกำลังปรับเปลี่ยนภายใน เพื่อเร่งสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ให้ทันยุคสมัย มีการผลักดัน“ทีมรุ่นใหม่” เข้ามามีบทบาททดแทนรุ่นเก่า เหมือนกับการ “ถ่ายเลือดใหม่” อีกทั้งยังมีการ “คัดออก” หากไม่มีความจำเป็น กรณีของพวก “อยู่บำรุง” ก็เป็นตัวอย่างให้เห็น เพียงแต่ว่าผลที่ออกมาเวลานี้ มันยังไม่ปัง ตรงกันข้ามยังไม่เห็นแนวโน้มที่ฟื้นขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ !!