xs
xsm
sm
md
lg

"ชูวิทย์" ปลงสังขาร vs สันธนะ แค้นต้องชำระ คู่จิ้นไม่ตายไม่เลิกรา ! ** “วัน” ลาออกผู้ช่วยรัฐมนตรี “ชินวัตร -อยู่บำรุง” ร้าวรอบนี้ยากประสาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ -สันธนะ ประยูรรัตน์ -วัน อยู่บำรุง
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ "ชูวิทย์" ปลงสังขาร vs สันธนะ แค้นต้องชำระ คู่จิ้นไม่ตายไม่เลิกรา !

ศึกมวยคู่อาฆาตระหว่าง "ชูวิทย์ VS สันธนะ" ที่ท้าตีท้าต่อยกันมาต่อเนื่อง ฟ้องร้องกันก็หลายสิบคดี ล่าสุดมีผลตามมาหนึ่งคดี โดยฝ่ายหลังถูกพิพากษาจำคุก 1 ปี กรณีที่ สันธนะ หาว่า โรงแรมของบริษัท ต้นตระกูลของชูวิทย์ มีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิง เข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติด

หลังฟังคำพิพากษา “สันธนะ” ว่า ศาลยกฟ้องตัวเองในความผิดฐานแจ้งความเท็จ แต่ให้ลงโทษในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา 1 ปี ซึ่งศาลก็เมตตารอลงอาญาไว้ 1 ปี เนื่องจากศาลเห็นว่า สิ่งที่ตนกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่เพื่อส่วนตัว

ฟังว่า “สันธนะ” เตรียมที่จะนำเหตุผลตรงนี้สู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป

ระหว่าง “สันธนะ กับ ชูวิทย์” ในความคิดของอดีตตำรวจน่าจะทางเดียว คือ แค้นต้องชำระ เพราะยังมีอีกหลายคดีที่ต้องสู้กัน
ที่ผ่านมา “ชูวิทย์” หลังจากจำใจเลิกเป็นจอมแฉ เพราะ สังขารไม่อำนวย บินไปรักษาตัวที่ประเทศอังกฤษก็ห่างหายจากหน้าสื่อ โดยคดีที่มีกับ “สันธนะ” ก็ขอเลื่อนคดีไป

งานนี้ “สันธนะ” ไม่ใช่ไม่รู้ก็แซะฝากถึง “ชูวิทย์” ให้ดูแลสุขภาพให้ดีจะได้กลับมาสู้คดีกันในศาลอีก เพราะตัวเองกับ ชูวิทย์ ต้องถือเป็น "คู่จิ้น" กัน

วันเดียวกัน “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เคลือนไหวฝากภาพถ่ายล่าสุดพร้อมข้อความถึงเอฟซี ผ่านเพื่อนซี้อย่าง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ช่วยกระจายข่าว ว่า “ด้วยความคิดถึง ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจในชีวิต เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน จึงทำให้คิดได้ มีอีกหลายเส้นทาง ที่ชีวิตไม่เคยไปสัมผัส

ฝรั่งเรียก “Bucket list” สิ่งที่ทำก่อนชีวิตสูญสลาย สิ่งหนึ่งคือ ไม่มัวติดอยู่กับอดีต เพราะนับจากนี้ไปอีกไม่นาน เราก็จะตายไปกันหมด ไม่ช้า ก็เร็ว สิ่งที่เราหามาทั้งชีวิตก็จะไปตกในมือคนอื่นๆ จะไม่มีใครจำเราได้อีกต่อไป แม้แต่คนในครอบครัว จะมีใครไปจำพ่อของทวดได้บ้าง ?

เราควรคิดถึงสิ่งที่เรามีความสุขในวันนี้ เลิก คิด แค้น เคือง พยาบาทใครต่อใคร เพราะทุกสิ่งมันผ่านไปหมดแล้ว ยิ้ม พอใจ กับที่เรามีอยู่วันนี้ ที่ทุกๆ เช้า เราตื่นมาได้ด้วยร่างกายที่ไม่เจ็บปวด แม้จิตใจจะยังสู้ แต่ร่างกายไม่ไหวก็ต้องปล่อยไป มีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำก่อนตาย หาความสุขในสิ่งที่เราอยากทำ”

พร้อมข้อความถึง ‘สันธนะ’ หลังศาลอาญา มีคำพิพากษาในคดีหมิ่นประมาทโรงแรมของชูวิทย์ ระบุว่า

“ข้าพเจ้าขอขมากรรมต่อท่าน ที่ได้ล่วงเกินประการใดก็ตาม ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี นับแต่อดีตชาติเป็นต้นไป มาจวบจนปัจจุบันชาติ ขอให้อโหสิกรรม ต่างคนต่างเดินไป ตามทางตัวเองด้วย เทอญ อย่าได้พบเจอกันอีก ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน”

สรุปว่างานนี้ “ชูวิทย์”ปลงสังขาร ส่วนคู่จิ้น “สันธนะ” มีแค้นต้องชำระ ไม่ตายไม่ยอมเลิกรา!.

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง - ทักษิณ ชินวัตร
++ “วัน” ลาออกผู้ช่วยรัฐมนตรี “ชินวัตร -อยู่บำรุง” ร้าวรอบนี้ยากประสาน

ควันหลง ที่เป็นดรามา จากศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ระหว่าง “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครอิสระ กับ “ลุงชาญ” ชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ยังไม่จบ

หลังจากมีภาพว่อนโซเชียลฯ ว่าในวันเลือกตั้งนั้น “วัน อยู่บำรุง” คนของพรรคเพื่อไทย แต่ดันไปนั่งเชียร์ นั่งลุ้นคะแนนอยู่กับ“บิ๊กแจ๊ส” ที่เป็นคู่แข่ง

“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่อุตสาห์ลงพื้นที่ไปช่วย “ลุงชาญ” หาเสียง เห็นภาพแล้วก็รู้สึกเจ็บจี๊ด เหมือนถูกลองของ ถ้าไม่ลงมือกำราบ ก็จะเสียการปกครอง

ดังนั้น ในการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา “อุ๊งอิ๊ง” จึงได้เรียก “วัน” ไปตำหนิในเรื่องนี้

" พี่ก็ต้องหาทางออกให้อิ๊งด้วย ไม่งั้นอิ๊งก็ปกครองคนไม่ได้”

ด้าน “วัน” ก็ชี้แจงว่า ครอบครัวอยู่บำรุง สนิทกับ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์” ช่วงที่หาเสียงก็ไม่ได้ออกมาเชียร์ หรือทำอะไรเกินเลย เมื่อรู้ว่า พล.ต.คำรณวิทย์ แพ้ จึงไปให้กำลังใจ ในฐานะคนรู้จักกัน และบอกว่าเพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เดี๋ยวจะลาออกเอง

แล้ววันรุ่งขึ้น (10 ก.ค.) “วัน” ก็โพสต์เฟซบุ๊ก ขอลาออกจากการเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พร้อมชี้แจงว่า

ตลอดระยะเวลาที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี ตนเองในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทราบดีถึงมารยาททางการเมือง จึงไม่เคยไปร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แม้แต่วันเดียว เพราะไม่เคยคิดจะทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับพรรคเพื่อไทย

...ผมและครอบครัวอยู่บำรุง มีความผูกพันกันอย่างแนบแน่น และยาวนานกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทั้งสองครอบครัวเปรียบเหมือนญาติ เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน มีความรักและความจริงใจให้กันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นยามทุกข์ หรือยามสุข ครอบครัวอยู่บำรุง และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็ให้ความรักและความเอื้อเฟื้อต่อกันมาตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

การกระทำในวันนั้น เป็นเพียงการแสดงน้ำใจตามมารยาทที่ดี ที่สังคมไทยพึงมีต่อกัน ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนที่มีสำนึกความเป็นไทยเข้าใจตรงนี้ดี และสามารถแยกแยะได้ระหว่างเรื่องการเมือง กับความผูกพันฉันท์มิตรที่ดีต่อกัน

ดังนั้น เพื่อสร้างความสบายใจให้กับหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคทุกท่าน ผมจึงขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยจะยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ ต่อท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข และจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคในสัปดาห์หน้า

ต่อมา “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทราบว่า “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี แสดงความไม่พอใจ “วัน” อย่างรุนแรง ถึงขั้นระบุว่า จะต้องหยุดทำงาน “วัน” ก็เลยทำหนังสือลาออกเอง

“เมื่อหนุ่ม (นายวัน) ลาออกแล้ว ผมจะอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อได้อย่างไร ก็เลยขอให้พรรคขับผมออกจากพรรคตามระเบียบพรรคการเมือง เพื่อจะได้ไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งขณะนี้ มีพรรคการเมือง 2-3 พรรค ติดต่อเข้ามาแล้ว ยืนยันว่าผมตกได้ แต่ผมต่ำไม่ได้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

นับเป็นอีกครั้งที่ “คนบ้านริมคลอง” กับ “คนบ้านจันทร์ส่องหล้า”ขบเหลี่ยม ปีนเกลียวกันอย่างรุนแรง

คงจำกันได้ ก่อนหน้านี้ ช่วงปลายปี 66 หลังการเลือกตั้ง ที่ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ ส่วน “วัน อยุ่บำรุง” สอบตก สส.เขตบางบอน เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สองพ่อลูก ก็ไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ เลย

และ“ร.ต.อ.เฉลิม” ได้ประกาศตัดขาดกับ “ทักษิณ ชินวัตร”โดยอ้างว่า “ทักษิณ” พูดแบบใหญ่โตว่า สองพ่อลูกเป็นเป็นคนกวนโอ๊ย ทำให้ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล

ซึ่งครั้งนั้น “อุ๊งอิ๊ง” ต้องเดินทางไปที่บ้านริมคลอง เพื่อเคลียร์ใจในเรื่องบาดหมางที่เกิดขึ้น และได้จัดสรรตำแหน่ง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน ) ให้กับ “วัน อยู่บำรุง” เรื่องจึงเงียบไปได้

แต่ครั้งนี้ทางบ้าน “จันทร์ส่องหล้า” คงไม่ส่งใครไปง้อคน “บ้านริมน้ำ” อีกแล้ว

เพราะโดยบริบททางการเมืองและในสายตาของแกนนำพรรคเพื่อไทยนั้น เห็นว่า “ฉายาขุนศึกฝั่งธนฯ” ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เสื่อมทรุดลงไปเยอะ ไม่มีพลังเหมือนเมื่อก่อน ขณะที่ “วัน อยู่บำรุง” ที่เขาหวังจะให้สืบทอดทางการเมือง ก็ยังไม่เป็นโล้ เป็นพาย

การเลือกตั้งครั้งหน้า “ตระกูลอยู่บำรุง” ในความรู้สึกของคน “ตระกูลชินวัตร” จึงไม่มีราคาให้ต้องเก็บมาคิด


กำลังโหลดความคิดเห็น