xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.นิรโทษตั้ง คกก.-แนวทางล้างผิด ให้หน่วยเกี่ยวข้องรับคำร้องวินิจฉัย เปิดช่องอุทธรณ์ลุ้นรวม 112

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นิกร” เผย กมธ.นิรโทษ เคาะ ตั้ง คกก.-แนวทางล้างผิด ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรับคำร้องและวินิจฉัย พร้อมเปิดช่องยื่นอุทธรณ์ ลุ้นเหมา ม.112 หรือไม่

วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.15 น. ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ผลการประชุมในวันนี้มีมติ 2 เรื่อง คือ

การนิรโทษกรรมโดยใช้รูปแบบผสมผสานจะมีการดำเนินการนิรโทษกรรมโดยใช้กลไก 2 ส่วน คือ กลไกที่ให้ผู้ได้รับสิทธินิรโทษกรรมตามกฎหมาย และประสงค์ใช้สิทธิให้ยื่นคำร้องต่อหน่วยราชการในกระบวนการยุติธรรมที่คดีอยู่ในอำนาจพิจารณาของหน่วยราชการนั้น ให้หน่วยราชการที่รับคำร้อง มีอำนาจรับคำร้องและพิจารณาหรือวินิจฉัยให้สิทธินิรโทษกรรมคดีที่เข้าองค์ประกอบที่จะได้รับการนิรโทษกรรมตามบัญชีฐานความผิดแนบท้ายพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

1. หากคดีอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ให้พนักงาน โดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าของคดีให้ยุติการสอบสวน

2. คดีอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของพนักงานอัยการ ให้พนักงานอัยการยุติการดำเนินคดีคดีที่อัยการส่งฟ้องแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ให้พนักงานอัยการถอนฟ้อง

3. กรณีที่จำเลยถูกฝากขังในเรือนจำ ให้ศาลพิจารณาออกหมายปล่อย

4. คดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด และผู้ต้องคดีเป็นนักโทษในเรือนจำ ให้ศาลพิจารณาออก
หมายปล่อย เพื่อให้กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวนักโทษ

5. คดีถึงที่สุด ผู้เคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิด ประสงค์ขอให้ลบล้างประวัติให้ยื่นคำร้อง ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

6. ให้หน่วยงานตาม 5 ข้อ จัดทำรายงานเกี่ยวกับคดีที่จะให้มีการนิรโทษกรรม เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา หากคณะกรรมการไม่มีความเห็นแย้งภายในเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือถือว่าคณะกรรมการเห็น ด้วยกับการนิรโทษกรรมตามเสนอ

กรณีผู้ได้รับสิทธินิรโทษกรรมใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อหน่วยราชการในกระบวนการยุติธรรมที่คดีอยู่ในอำนาจพิจารณาแล้ว ได้รับการปฏิเสธไม่ดำเนินการ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการนิรโทษกรรม

นายนิกร กล่าวว่า และกลไกที่ 2 ให้ผู้ได้รับสิทธินิรโทษกรรมตามกฎหมายขออุทธรณ์ กรณีที่หน่วยราชการปฏิเสธไม่ให้สิทธินิรโทษกรรม ให้คณะกรรมการนิรโทษกรรมแบบผสมผสานมีองค์ประกอบ อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ, ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธานกรรมการ และคณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้

1. พิจารณารายงานคดีที่จะให้มีการนิรโทษกรรมที่หน่วยงานราชการในกระบวนการยุติธรรมเสนอ หากมีความเห็นแย้งให้ตอบกลับหน่วยงานราชการในกระบวนการยุติธรรมภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานนั้น

2. พิจารณาอุทธรณ์กรณีผู้ใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อหน่วยราชการในกระบวนการยุติธรรมที่
คดีอยู่ในอำนาจพิจารณา ได้รับการปฏิเสธไม่ดำเนินการ ให้คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการนิรโทษกรรมมีผลผูกพันหน่วยราชการดังกล่าวให้พิจารณาการให้นิรโทษกรรม

3. หยิบยกคดีที่ได้รับผลตามพระราชบัญญัตินี้แต่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้หยิบ
ยกขึ้นมาพิจารณาเพื่อส่งให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งกรณีที่คณะกรรมการเห็นเองหรือกรณีที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้องร้องขอ

4. พิจารณาชี้ขาดกรณีที่มีปัญหามาสู่คณะกรรมาการว่าคดีใดได้รับสิทธิตาม
พระราชบัญญัตินี้หรือไม่ จากการเสนอของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงกรณีที่คณะกรรมาการพบเห็นเอง

5. จัดทำรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อรัฐสภา
เพื่อทราบ และเผยแพร่ต่อสาธารณชน

6. สื่อสารสร้างความเข้าใจสาธารณะเพื่อนำไปสู่การสร้างความปรองดอง

และ 7. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้

นายนิกร กล่าวว่า มีเรื่องหลักๆ คือ การไม่ให้กระทำความผิดซ้ำ การคืนสิทธิบางอย่างให้ นอกจากนี้ ยังจะมีการพิจารณาเรื่องฐานความผิดอะไรบ้าง มีกี่อย่างที่จะนิรโทษกรรมให้

เมื่อถามถึงวาระการพิจารณาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายนิกร กล่าวว่า คดีนี้จะมีการพิจารณาทีหลัง เพราะเดิมจากที่ศึกษามาใน 17 ฐานความผิดนั้นไม่มี แต่จากที่ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเสนอมา เราก็นำมารวมอยู่ด้วยและจะต้องมีการตัดสินใจอีกครั้งว่าจะรวมหรือไม่รวม แต่ขณะนี้ข้อมูลครบหมดแล้ว เข้าใจว่า สัปดาห์หน้าก็จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ แต่หากไม่ได้พิจารณาในสัปดาห์หน้าก็จะเป็นอีกสัปดาห์หนึ่ง

เมื่อถามว่า น่าจะเคาะได้เลยใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า น่าจะเคาะได้ ตอนนี้ตนเริ่มทำรายงานในส่วนของอนุกรรมาธิการและสั่งพิมพ์แล้ว เหลือเพียงแค่ชุดใหญ่ ตั้งใจไว้ว่าสิ้นเดือน ก.ค.จะสามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมของสภา ได้ แต่หากไม่ทันก็อาจจะขยับไปไม่เกิน 2 สัปดาห์

เมื่อถามย้ำว่า จะเคาะเรื่องความผิดมาตรา 112 เลยใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า คณะกรรมาธิการพูดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ เพราะตอนนี้โครงสร้างเสร็จหมดแล้วและการร่าง พ.ร.บ.นี้ต้องมีบัญชีแนบท้ายที่ว่าการจะนิรโทษกรรมจะรวมฐานความผิดอะไรบ้างเพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ส่วนที่ประชุมสภา จะเอาอย่างไรก็แล้วแต่ ย้ำว่า กมธ.ชุดนี้มีหน้าที่แค่ชี้แนวทางในการทำร่างกฎหมาย ไม่ได้มีหน้าที่ยกร่าง


กำลังโหลดความคิดเห็น