xs
xsm
sm
md
lg

“ปิยบุตร” อ้างคดียุบก้าวไกลถูกจับตาทั้งจากในและต่างประเทศ ควรเปิดไต่สวนให้สองฝ่ายกันเต็มที่ เตือน ส.ส.หากเลือกอนาคตควรอยู่กับพรรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาฯ คณะก้าวหน้า อ้างคดียุบก้าวไกล มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับคนเลือก 14 ล้านคน เป็นพรรคอันดับ 1 ถูกจับตาทั้งจากในและต่างประเทศ ควรเปิดไต่สวนเป็นหลักประกันว่าให้สองฝ่ายได้สู้กันเต็มที่ ยอมรับมีพรรคสำรองเป็นธรรมดา เพราะประเทศนี้ยุบพรรคกันมาเยอะแล้ว เตือน ส.ส.ถ้าคิดถึงอนาคตต้องอยู่กับพรรค แต่เชื่อรัฐบาลไม่ดูด เพราะมีเสียงขาดแล้ว 

วันนี้ (3 ก.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ประชุมนัดแรก ในวาระการแต่งตั้งตำแหน่งใน กมธ. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะ กมธ. สัดส่วนพรรคก้าวไกล เดินทางมาประชุม พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนครั้งแรกในรอบหลายเดือน ถึงการรับตำแหน่ง กมธ. ว่า ในเรื่องของตำแหน่งยังไม่ทราบ ตนตั้งใจมาประชุมโดยการตอบรับการเป็น กมธ.ครั้งนี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล เป็นคนชวน เนื่องจากคิดว่าความรู้ของตนยังเป็นประโยชน์ในการทำงานด้านนิติบัญญัติ นอกจากประชุม กมธ.แล้ว ยังถือโอกาสมาเจอเพื่อนๆ ที่เป็นนักการเมือง ทั้งในพรรคก้าวไกลและต่างพรรค อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสมาคุยกันเรื่องบ้านเมือง รัฐธรรมนูญ รวมถึงนิรโทษกรรม

ส่วนจุดยืนเรื่องการออกเสียงทำประชามตินั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า กติกาเดิมค่อนข้างยาก ตนเข้าใจว่า การตั้ง กมธ.นี้มาร่างของแต่ละพรรคและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ค่อยต่างกัน คือ การปรับกลับมาใช้เสียงข้างมาก ใช้แค่คนกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิก็ถือว่าผ่านแล้ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการทำประชามติ กรณีเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

“หากเป็นไปได้ แก้รอบนี้ทีเดียวเลยก็ดี เช่น เราเคยสังเกตมาแล้วว่าในการออกเสียงเลือกตั้งมีข้อบกพร่องอย่างไร ครั้งนี้จะทำหรือไม่ อย่างการออกเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงการให้มีผู้สังเกตการณ์ จะเติมเข้ามาหรือไม่ ไหนๆ แก้แล้ว อย่าไปแก้แค่ประเด็นเดียว แก้เรื่องอื่นให้สมบูรณ์ด้วยดีหรือไม่ ก็ต้องไปพูดคุยใน กมธ.” นายปิยบุตร กล่าว

เมื่อถามว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 17 ก.ค. มีนัยยะอะไรหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า เท่าที่ฟัง นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงข่าว ก็ยืนยันว่า ภายในเดือน ก.ย. คงต้องตัดสินคดี ถือเป็นประโยชน์ต่อลูกความทั้งสองฝ่าย ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพรรคก้าวไกล ก็ต้องต่อสู้อย่างเต็มที่ คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคที่ประชาชนเลือกมา 14 ล้านเสียง เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ดังนั้น ประชาชนจับตาทั้งในและต่างประเทศ การที่ศาลเปิดให้ไต่สวนอย่างเต็มที่ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นหลักประกันให้เห็นว่าศาลให้โอกาสทั้งสองฝ่ายสู้คดีอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า คำตัดสินจะกระทบต่อพรรคก้าวไกลอย่างไร นายปิยบุตร ระบุว่า แกนนำของพรรคก็มีประสบการณ์มาตั้งแต่สมัยยุบพรรคอนาคตใหม่ แน่นอนว่า ต้องสู้คดีอย่างเต็มที่ในทางกฎหมาย แต่ในทางการเมืองที่ต้องมีการตระเตรียมในอนาคต ก็คงเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า ระหว่างนี้พรรคก้าวไกลคงไม่เสียสมาธิ ตั้งอกตั้งใจทำงานในฐานะ ส.ส. ส่วนพรรคสำรองนั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า เป็นธรรมดา ประเทศนี้ยุบกันมาไม่รู้กี่พรรคต่อกี่พรรค แต่ละพรรคก็ต้องเตรียมเรื่องพวกนี้ไว้

เมื่อถามว่า ส.ส.จะอยู่กับพรรคหรือไม่ นายปิยบุตร ระบุว่า บริบทรอบนี้กับรอบที่แล้วต่างกัน รอบที่แล้ว เสียงของฝ่ายค้านและรัฐบาลก้ำกึ่งมาก การดึง ส.ส.มีความสำคัญ แต่รอบนี้เสียงทิ้งห่าง และฝ่ายรัฐบาลคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดึง ส.ส.พรรคก้าวไกลไป รวมถึงกระแสของพรรคก้าวไกลก็สูงมาก บรรดา ส.ส.ของพรรคต้องคิดให้ดีว่าถ้าย้ายพรรคแล้วจะทำอย่างไร ต่อให้รู้สึกไม่สบายใจ หรือมีใครมาเสนออะไรให้ก็ตาม แต่การอยู่พรรคก้าวไกลเป็นการอยู่เพื่ออนาคต ตนมีโอกาสพูดคุยกับ ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็ถามว่า “คุณจะเลือกข้างอดีตหรืออนาคต ถ้าคุณเลือกข้างอนาคต” ทิศทางหลังจากนี้ ในการเลือกตั้งปี 2570 ยังมีความหวังอยู่

เมื่อถามว่า มีการปล่อยข่าวงูเห่าออกมาตลอด มองว่า คนปล่อยหวังผลอะไร นายปิยบุตร กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา มันเป็นเทศกาล เวลาพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ดูเหมือนจะถูกยุบในไม่ช้า ก็จะมีคนตั้งคำถามว่าจะมีการดึง ส.ส. จึงขอฝากคนที่อยากจะดึงไป “ผมว่าไม่มีประโยชน์ เพราะเสียงคุณขาดลอยไปแล้ว ดึงไปก็ไม่มีประโยชน์ รัฐบาลก็มีเสถียรภาพเข้มแข็งดี”

เมื่อถามว่า หากตั้งพรรคใหม่ นโยบายแก้ไข ม.112 ควรจะนำไปหาเสียงด้วยหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า อยู่ที่กรรมการบริหารพรรคว่าคิดอ่านอย่างไร แต่ส่วนตัวต้องรอดูว่าความจำเป็นของการแก้ไขยังมีอยู่หรือไม่ พิจารณาเทียบกับความแนวความคิดของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่สุดท้ายของขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะมีความเห็นอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น