พปชร.จัดประชุมสาขาพรรค จ.เชียงใหม่ ประกาศ “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ” นำ ปชช.เป็นศูนย์กลางวางนโยบาย สร้างพลัง ต่อยอดในการสร้างชาติ
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ และ หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี รองประธานด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเสวนาเรื่อง “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส” ในการประชุมใหญ่ สาขาพรรคภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุมโรงแรมราชพฤกษ์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
โดย นายธีระชัย ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคในช่วงหนึ่ง ว่า พรรคพลังประชารัฐขอเป็นพรรคอนุรักษนิยมทันสมัย ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่ในการปกป้องสถาบันและบริหารเศรษฐกิจทันสมัย เพื่อชีวิตที่สดใสให้กับคนไทยทั้งประเทศ พรรคการเมืองทุกพรรคมักจะเสนอนโยบายที่ต้องการให้ประเทศก้าวหน้า แต่วิธีการของแต่ละพรรคก็จะแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐเราเชื่อว่า ประเทศจะก้าวหน้าได้ก็เพราะประชาชน ถ้าประเทศก้าวหน้าแต่ประชาชนไม่มีศักยภาพ ไม่มีความรู้ ไม่สามารถทำงานได้เต็มกำลัง มีสุขภาพที่ไม่ดี และเครื่องมือในการทำงานก็ไม่ครบถ้วน ไม่ทันสมัย จะหวังให้ประเทศก้าวหน้าคงเป็นไปไม่ได้
นายธีระชัย กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะนำประชาชนเป็นศูนย์กลางในการวางนโยบาย พรรคสร้างพลังให้ประชาชน เพราะประชาชนมีหน้าที่ในการสร้างชาติ จึงเป็นที่มาของชื่อพรรคพลังประชารัฐ ฟังมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะมองว่า อนุรักษ์กับทันสมัยมันไปด้วยกันไม่ได้ หลักคิดของของอนุรักษนิยม คือ การเอาสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เอาไปต่อยอด เอาสิ่งที่ดีเป็นฐานในการพัฒนาและเอื้ออำนวยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้ประชาชนเป็นโอกาสในการที่จะก้าวหน้าในตัวเอง เพื่อที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ประชาชนจะสามารถทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและคนรอบข้าง
“อนุรักษนิยมทันสมัย สามารถแยกออกมาได้ “5 อนุรักษ์ 5 ทันสมัย” ได้แก่ อนุรักษ์สถาบัน, อนุรักษ์ผลประโยชน์ของชาติ, อนุรักษ์ทรัพยากรของชาติ, อนุรักษ์วัฒนธรรม และอนุรักษ์ระเบียบทางสังคม ในส่วนของ 5 ทันสมัย ได้แก่ เศรษฐกิจทันสมัย, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทันสมัย, สิ่งแวดล้อมทันสมัย, สังคมทันสมัย และภาครัฐทันสมัย” นายธีระชัย กล่าว
ด้าน หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ กล่าวว่า คำขวัญของพรรคพลังประชารัฐ “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ” ถามว่า มันจะมาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไรนั้น ตนมองว่า การปกป้องสถาบันที่ดีที่สุด ก็คือ การทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี สิ่งที่สำคัญก็คือ ศักยภาพของประเทศไทย แม้หลายคนอาจจะมองว่าประเทศเราสู้กับประเทศอื่นไม่ได้ แต่จากการที่ตนใช้ชีวิตอยู่ทั้งอเมริกาและอังกฤษกว่า 10 ปี ตนยืนยันว่า แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินที่ดีที่สุด ประเทศของเราเพียงแค่โยนเมล็ดผลไม้ลงไปในดินก็เติบโตเป็นต้น ออกดอก ออกผล แต่อย่างเมืองแคลิฟอร์เนีย พื้นดินเป็นกึ่งทะเลทราย โยนอะไรไปก็ไม่ขึ้น วันนี้เราอยู่กับสิ่งที่ดีที่สุด แต่เรามองไม่เห็น ถ้าจะพูดว่าเราดีที่สุดในอาเซียนก็คงไม่แปลก และจากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐวันนี้สินค้าทางการเกษตรของเราถูกส่งออกไปขายที่ประเทศจีนจำนวนมาก
“อย่างเมล็ดกาแฟในภาคเหนือ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากคนดื่มกันทั่วโลก ความต้องการจากชาวจีนและยุโรปมีจำนวนมาก แต่เราจะยกระดับกาแฟ เราให้เป็นกาแฟระดับโลกได้อย่างไร ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมไปถึงที่ดินในการเพาะปลูก ผมมองว่าประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เราควรนำมาคุยกันเพราะจะสามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่เราต้องรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงเรื่องการโปรโมตสินค้า ให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกได้ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่พรรคพลังประชารัฐของเราจะพยายามผลักดันต่อไป” หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ กล่าว