เลขาฯ ป.ป.ช. เผย ชี้มูลอาญา-วินัย จนท.ศุลกากร ช่วยผู้ประกอบการนำเข้ารถหรู สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ความเสียหายเกือบ 900 ล้าน
วันนี้ (25 มิ.ย.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายชลิต หอมหวล นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ กรมศุลกากร กับพวก กรณีช่วยเหลือผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์ที่ไม่ใช่ตัวแทน ด้วยการรับราคารถยนต์นั่งใหม่สำเร็จรูปที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เป็นราคาศุลกากร และตรวจปล่อยไปจากอารักขาศุลกากรรวมจำนวน 62 คัน (2 สำนวนคดี)
เนื่องจากการไต่สวนปรากฏ หลักฐานบัญชีราคาสินค้า (INVOICE) ซึ่งเป็นหลักฐาน ตามคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในทางอาญาจากสาธารณรัฐอิตาลีว่ารถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI และยี่ห้อ MASERATI จำนวน 122 คัน ที่นำเข้าโดย บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เฟอร์ม่า มอเตอร์ จำกัด มีการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง โดยระหว่างวันที่ 17 ม.ค. 54 - 28 ต.ค. 57 นายชลิต นายเอกสิทธิ์ รัตนะ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ (เสียชีวิตแล้ว) นายนิตย์ชัย ร่มสุขวนาสันต์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ สังกัดสำนักงานศุลกากรกรุงเทพ นายสนองชัย เลขกลางนักวิชาการศุลกากรชำนาญการ นายธนพล มณีรัตน์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ นายอภิชาต แย้มมณี นักวิชาการศุลกากรปฏิบัติการ นายพรชัย เกศไตรทิพย์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ และนายศรัณยพงศ์ สุรรัตน์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ สังกัดสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ตรวจปล่อยรถยนต์นั่งใหม่สำเร็จรูปยี่ห้อ LAMBORGHINI ซึ่งนำเข้าโดยบริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด และบริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัดจำนวน 29 คัน และยี่ห้อ MASERATI ซึ่งนำเข้าโดยบริษัท เฟอร์ม่ามอเตอร์ จำกัด จำนวน 33 คัน ตามใบขนสินค้า ซึ่งสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เป็นราคาศุลกากรและได้ชำระค่าภาษีอากรแล้ว ไปจากอารักขาของศุลกากร โดยรู้อยู่แล้วว่าราคาที่บริษัทผู้นำเข้าทั้งสามบริษัทสำแดงไม่ใช่ราคาที่ได้ชำระจริง และเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายจริง ทำให้บริษัทผู้นำเข้าได้ประโยชน์ในการชำระค่าภาษีอากรนำเข้าน้อยกว่าที่ต้องชำระจริง
เป็นเหตุให้กรมศุลกากร กรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินจำนวนไม่น้อยกว่า 897,148,369 บาท ซึ่ง ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่า การกระทำของนายชลิต นายสนองชัย นายธนพล นายพรชัย นายนิตย์ชัย นายอภิชาต และนายศรัณยพงศ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 มาตรา 157 และมาตรา 162(1) (4) ประกอบมาตรา 91 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แล้วแต่กรณี และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และ2.การกระทำของบริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด บริษัท เฟอร์ม่า มอเตอร์ จำกัด และเอกชนที่เกี่ยวข้อง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด และฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ และส่งรายงาน สํานวนการไต่สวนเอกสารหลักฐานและคําวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ทั้งนี้ ให้แจ้งกรมศุลกากรดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย และให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือ ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจกับผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหา กรณีบกพร่องไม่ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ถูกกล่าวหา จนเป็นเหตุให้กรมศุลกากรได้รับความเสียหาย ขณะที่กรณีการนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI และยี่ห้อ MASERATIอีกจำนวน 60 คัน อยู่ระหว่างการไต่สวน