xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอแจง "ลัมบอร์กินี" ยังเป็นของกลางคดีพิเศษ หลังเจ้าของเต็นท์รถยนต์ขู่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 49 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “ดีเอสไอ” แจงกรณีถูกฟ้องแพ่งจากผู้ซื้อรถยนต์หรูลัมบอร์กินี ที่ถูกอายัดในคดีพิเศษ หลังอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ยึดเป็นของกลางอีกครั้ง

ตามที่ปรากฏข่าวในช่องทางสื่อมวลชนต่างๆ ว่ามีผู้ประกอบการเต็นท์รถยนต์ ได้ยื่นฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ รวม 9 ราย ต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหาย 49 ล้านบาท จากกรณีที่มีการซื้อรถหรูลัมบอร์กินี (Lamborghini) มาอย่างถูกต้องตามขั้นตอนแต่ภายหลังถูกคำสั่งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษให้อายัดรถคันดังกล่าวไว้ ทำให้เกิดความเสียหาย นั้น 
 
วันนี้ (21 มิ.ย.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ตรวจสอบจากผู้รับผิดชอบสำนวนการสอบสวน กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาคแล้วปรากฏข้อเท็จจริงว่า กรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษที่ 198/2560 ซึ่งเป็นการดำเนินคดีพิเศษเกี่ยวกับการนำรถยนต์ส่วนบุคคล Lamborghini เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงและโดยสำแดงเท็จ ซึ่งได้มีการอายัดทางทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นของกลางในคดี และได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้น ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นทางคดีไปยังพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เมื่อวันที่ 21 ส.ค.62

ต่อมา พนักงานอัยการได้มีความเห็นเกี่ยวกับรถยนต์คันดังกล่าวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85 เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นของกลางในคดีพิเศษ จึงมีการถอนอายัดทางทะเบียนภายหลังคดีขึ้นสู่การพิจารณาของอัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ยึดรถยนต์ดังกล่าวกลับมาเป็นของกลางในคดีพิเศษ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงมีหนังสืออายัดทางทะเบียนอีกครั้งหนึ่ง

กรณีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอชี้แจงว่าการที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีการอายัดทางทะเบียนในกรณีตามข่าวเป็นการดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143 วรรคสอง (ก) ในการต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานอัยการ


กำลังโหลดความคิดเห็น