“ชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม” ร้อง “กมธ.พัฒนาการเมือง” หนุนส่งประติมากรรม Golden Boy กลับบุรีรัมย์ อ้าง กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม บอกดีกว่าเดินสายขายผ้าขาวม้า
วันนี้(13 มี.ค. 67 ) นายวรา จันทร์มณี และนายสมเกียรติ ปัญญาใหญ่ ตัวแทนชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม เข้ายื่นหนังสือต่อนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อขอให้นำประติมากรรม Golden Boy กลับมาไว้ที่ จ.บุรีรัมย์ และขอให้พิจารณากำหนดนโยบายสร้าง Sofe Power ผ่านศิลปะ วัฒนธรรม
ทั้งนี้นายวรา กล่าวว่า Golden Boy สันนิษฐานว่าเป็นรูปสนองพระองค์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ผู้สร้างปราสาทหินพิมาย มีศักดิ์เป็นอาของพระเจ้าสูรยวรมันที่ 2 ผู้สร้างปราสาทนครวัด ถูกขุดพบที่ปราสาทบ้านยางโป่งสะเดา ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เป็นเครื่องเชื่อมร้อยให้เราเห็นวิวัฒนาการของบ้านเมือง และวัฒนธรรมร่วมระหว่างพื้นที่ซึ่งปัจจุบันถูกแบ่งพรมแดนออกเป็นประเทศไทยและเขมรได้อย่างดี
Golden Boy สามารถทำให้เราเห็นความสัมพันธ์เชิงพื้นที่กว้างทเห็นการถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมระหว่างกันไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ตั้งแต่บ้านยางโป่งสะเดา ปราสาทหินพิมายปราสาทพนมรุ้ง เขาปลายบัด เขาอังคาร ปราสาทเมืองต่ำ ศรีเทพ ไปจนถึงปราสาทเบ็งเมียเลีย ปราสาทบาป่วน ปราสาทนครวัด ในกัมพูชา ล้วนเชื่อมโยงกันหมดถือเป็นทูตสันถวไมตรีชั้นดีที่จะเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และยังจะเป็นตัวเอกในการเดินเรื่องให้รัฐบาลนำวัฒนธรรมมาส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมผ่านการท่องเที่ยวและอื่นๆชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม ตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลนำ Golden Boy กลับบุรีรัมย์เพื่อไปสร้างความเจริญให้ท้องถิ่น โดยในส่วนที่กรมศิลปากรอ้างว่าจะเก็บไว้เพื่อการศึกษานั้น ศึกษาที่ไหนก็ได้
“การมายื่นของตนในครั้งนี้ถือเป็นแนวคิดนำร่อง ที่ควรนำโบราณวัตถุกลับไปไว้ที่เดิม ไม่อยากให้กระจุกรวมศูนย์อยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ฃเท่านั้น เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ดีกว่าไปเดินสายขายผ้าขาวม้า“นายวรากล่าว
ด้านนายวรากล่าวว่ากมธ.จะรับเรื่องไปพิจารณา เมื่อมีการพูดถึงการพัฒนาเศรษฐกิจโซนอีสานใต้ ที่มีความเชื่อมโยงวัฒนธรรมจุดนี้น่าจะเป็นต้นทุนที่จะส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เชื่อว่าจะสามารถต่อยอดเศรษฐกิจให้มีการแข่งขันกัน และตอกย้ำจุดยืนรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่สืบต่อมานาน และเป็นจุดที่คนไทย และต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวจะได้เห็นประวัติศาสตร์ที่มีความชัดเจนขึ้นเนื่องจากมีหลักฐานและวัตถุพยานตามจังหวัดต่างๆควรจะมีวัตถุโบราณอยู่ตามพื้นที่นั้น จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาในเรื่องดังกล่าว