xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.นิรโทษ เคาะกรอบเวลาเริ่มนับ 1 ม.ค.48-นิยามแรงจูงใจ ยังไม่สรุปขอบเขตล้างผิด ปลายเดือนถกรวม 112

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กมธ.นิรโทษ” เห็นชอบ กรอบเวลาเริ่มนับ 1 ม.ค.48-นิยามแรงจูงใจทางการเมือง ยังไม่สรุปขอบเขตผลการนิรโทษกรรม “นิกร” เผย จ่อถกรวม ม.112 หรือไม่ปลายเดือนนี้



วันนี้ (6 มิ.ย.) นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมในวันนี้ว่า มติที่ประชุมเห็นชอบเรื่องของกรอบเวลานิรโทษกรรม ช่วงเวลาตั้งแต่ 1 ม.ค. พ.ศ. 2548 ถึงปัจจุบัน

ส่วนของนิยาม คำว่า การกระทำที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง ได้ข้อสรุปว่า “หมายถึง การกระทำที่มีพื้นฐานมาจากความคิดที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง หรือต้องการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงเวลา ที่มีความขัดแย้งหรือเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง”

โดย นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เสนอความเห็นในที่ประชุม ว่า ควรมีเรื่องขอบเขตการนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นความเห็นใหม่ที่เสนอเข้ามาใน กมธ.

นายนิกร กล่าวว่า ทาง กมธ.ยังได้ข้อสรุปเกี่ยวกับขอบเขตการนิรโทษกรรม รวมถึงผลของการนิรโทษกรรม ว่า “บรรดาการกระทำใดๆ หากเป็นความผิดตามกฎหมาย ให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษแล้วก็ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้น ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง และให้ถือเสมือนว่า บุคคลนั้นไม่เคยกระทำความผิด”

เมื่อถามว่า ท้ายที่สุดการนิรโทษกรรมจะครอบคลุมถึงคดีมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า อีกสัก 2-3 ครั้ง คงจะพิจารณาได้ ขณะนี้มีหลายคดีที่ต้องมาคิดกันว่าจะนิรโทษอะไรบ้างอย่างไร ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาต้องดูกรอบอื่นมาก่อน แต่หากจะนิรโทษกรรมมาตรา 112 จะต้องครอบคลุมทุกคดีใช่หรือไม่นั้น ต้องแล้วแต่ว่าจะเจอมาอย่างไร เพราะตอนนี้รวมอยู่ในกรอบการศึกษาทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น