ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ข้าว10 ปีกินได้ เสียหมาไปทีละคน คิวต่อไป "หมอชัย" !?
กรณีข้าว 10 ปีกินได้ วีรกรรม "กินเพื่อนาย ตายช่างมัน" ของ "อ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ตั้งใจแสดงการละคร "โชว์กิน" จนคนจับไต๋ได้ ดูออกแหละว่า ต้องการช่วยชาติ หรือช่วยนาย!
โดยเฉพาะ ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้กลับมาสวยๆ
งานนี้นอกจากจะะทำให้ "คนนินทา หมาดูถูก" ไปอีกมากกว่าอายุข้าว10 ปีแน่ๆ เผลอๆ ยันลูกของลูกหลานเหลนบวชนู่น
มิหนำซ้ำ "วาระซ่อนเร้น" อื่นๆ ที่แอบแฝงอยู่ก็ดูคล้ายจะถูกขุด ถูกแฉตามมาด้วย
แน่นอนเจ้าเก่าพะยี่ห้อหมอปฏิปักษ์ตระกูลชิน ที่เอ่ยชื่อจำนำข้าว ก็ต้องคิดถึงชื่อ "หมอวรงค์" "นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี คู่กัน
พอดีเรื่องของ "อ้วน ภูมิธรรม"และข้าว10ปี มาเข้าทางตีน "หมอวรงค์" จึงฟาดได้เต็มข้อ
เปิดฉากก็ ปะฉะดะ ดังที่เห็นหมอโพสต์ฉายหนังตัวอย่างไปเมื่อวันก่อน ว่าด้วยเรื่อง "เปิดหลักฐานมัดภูมิธรรม ข้าว10 ปีกินได้" และ พูดถึงเอกสาร "ขาย" และ “ยกเลิกขาย” ข้าวสารในสต็อกของรัฐ ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามเล่นแร่แปรธาตุทางการเมือง ของเพื่อไทยในเรื่องข้าวในสต็อก
โฟกัสกันตรงๆ ไปที่ ข้าว 10 ปี ที่โกดังจังหวัดสุรินทร์ ที่ “อ้วน ภูมิธรรม” ไปโชว์ชวนชิม หมอจอมสับจำนำข้าว บอกเลยว่า โกดังนี้เคยมีการประมูลไปแล้ว 3 ครั้ง ปี 2557 ปี 2558 และปี 2563 พบว่า ผู้ชนะประมูลไม่ยอมมารับข้าว
เหตุผลกลไก หมอว่า ให้ไปคาดเดาเองว่า ถ้าข้าวดีจริง เป็นไปตามมาตรฐาน ทำไมไม่มารับข้าว?!
ฟันธงลงไปเปรี้ยงว่า มีไอ้โม่งที่พยายามดึงเกมการขายข้าว และจะทำให้ชื่อเสียงข้าวไทยเสียหาย เพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง
เอาเป็นว่า ข้าว10ปี กินได้ นาทีนี้ "อ้วน ภูมิธรรม" คนเดียวจะตะบี้ตะบันขยันการันตีอย่างไร คงยากที่จะมีคนรับฟังเชื่อถือ
กระแสร้อนมาถึง "หมอชัย" นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล ต้องรับบท "ขุนพลอยพยัก" ขยับพูดหวังจะช่วย “อ้วน ภูมิธรรม”
“หมอชัย” คงมั่นใจในฝีปากตัวเอง แต่เจอปะฉะดะ อย่าง "หมอวรงค์" เข้าไป ก็ดูทรงจะซวยตามลูกพี่อ้วนไปติดๆ
“หมอชัย” ปะทะ “หมอวรงค์” ยกแรกด้วยการถกเถียงออกจอ ดรามาจบด้วยนัด"ดีเบต"กันอีกยก
“หมอวรงค์”ได้โพสต์ขัอความลงเฟซบุ๊กตามมาล่าสุด... “ถึงโฆษกรัฐบาล คุณรับปาก ผ่านหน้าจอทีวี ว่าจะมาดีเบตเรื่องข้าว ถ้าไม่มาเสียหมานะครับ” โดย ระบุว่า "ติดตามดีเบตเรื่องข้าวระหว่างผมกับโฆษกรัฐบาล
มาแบบเจอกันตาต่อตา คาดว่าสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ได้วันเวลาแน่นอน จะแจ้งให้ทราบ
ก่อนจาก “หมอวรงค์” ส่งหมัดฮุกว่า "ขอย้ำนะครับ คุณเป็นถึงโฆษกรัฐบาลเศรษฐา พรรคเพื่อไทย เป็นผู้กินข้าว10 ปีโชว์สื่อ รับปากผ่านรายการทีวีแล้ว จะมาดีเบต ต้องมานะครับ ห้ามหนี !!! ถ้าใครไม่มาจะต้องถูกประจาน"
ข้าว10ปี ผู้เชี่ยวชาญ -ปราชญ์ชาวบ้าน ต่างประสานเสียงว่า กินไม่ได้ ขืนกินจะมีพิษภัย เสี่ยงโรค
อย่าว่าแต่เสี่ยงโรค ผลข้างเคียงก็น่ากลัว
ต้องไม่ลืมว่า ก่อนที่ “อ้วน ภูมิธรรม”จะกินโชว์ ก็เกิดอาการ "เสียหมา" มาแล้วหลายคน จนมาถึงภูมิธรรม
“หมอชัย”มาช่วยจำนรรจา หรือจะถึงคิวเสียหมารายต่อไป !?
** เขย่าภูมิใจไทย “มนัญญา” ลาออก จับตาต่อท่อ “ธรรมนัส”
สัญญาณความระหองระแหงในพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย จากนโยบายกัญชา ที่รัฐบาลจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม เริ่มเป็นประเด็นร้อน เพราะการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดเพื่อมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์นั้น ถือเป็นนโยบายเรือธง เป็นผลงานสำคัญของพรรคภูมิใจไทย
การประกาศเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นั่นเท่ากับเป็นการชี้ให้เห็นว่า ผลงานที่พรรคภูมิใจไทย ทำไปนั้น ผิดพลาด!!
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวคนของบ้านใหญ่แห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง อุทัยธานี อย่าง “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ น้องสาวของ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รมช.มหาดไทย คนปัจจุบัน ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย อย่างเงียบๆ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เมื่อตกเป็นข่าว ก็มีการชี้แจงเหตุผลว่า เป็นการลาออกไปเพื่อไปรับตำแหน่ง “ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ซึ่งผู้ที่จะรับตำแหน่งนี้ ต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ขณะที่ บรรดาแกนนำพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรมว.มหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรค และ“ชาดา ไทยเศรษฐ์” ต่างออกมายืนยันว่าไม่มีปัญหาระหองระแหงภายใน
“อนุทิน” บอกว่า “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ยังคงเป็น รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ “เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ “ลูกชายของ “มนัญญา” ก็เป็นกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันอยู่ เป็นคนรุ่นใหม่ที่พรรคจะต้องฟูมฟัก ให้มารับช่วงต่อ
ขณะที่ “ชาดา” ก็ยืนยันว่า ไม่มีย้ายมุ้งการเมือง ที่เป็นข่าวออกมานั้นมีแต่ไปตีความกันเอง!!
แต่ถ้าย้อนไปดูภูมิหลังในช่วงที่ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลที่แล้ว เจ้าตัวจะให้ความนับถือ สนิทสนม และติดต่อประสานการทำงานร่วมกับ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ซึ่งขณะนั้นก็ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ เช่นเดียวกัน หากมีเรื่องการทำงานใดติดขัด ก็จะพูดคุยขอคำปรึกษา “ผู้กองธรรมนัส”เป็นกรณีพิเศษ
ดังนั้น หากจะมีข่าวระแคะระคายออกมาว่า “บ้านใหญ่อุทัยธานี” มีทิศทางย้ายสังกัดกลุ่มการเมืองไปอยู่กับ “ผู้กองธรรมนัส” ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีมูลเสียทีเดียว
ตอนนี้ “มนัญญา” ลาออกจากสมาชิกพรรคไปแล้ว ส่วน“ชาดา” ยังเป็น รมช.มหาดไทยอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องขยับอะไร ในตอนนี้
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณว่า เมื่อ“นายใหญ่” กลับมาเดินงานการเมืองเอง ทั้งในส่วนของรัฐบาล และในส่วนของพรรคและมีแนวโน้มที่ “ผู้กองธรรมนัส” อาจกลับรังเก่า ไปอยู่พรรคเพื่อไทย อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ
โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การเลือกตั้งตามสไตล์ “นายใหญ่” ที่เน้นกวาดต้อนบ้านใหญ่มาไว้ในสังกัด ใช้การทุ่มทุน และอิทธิพลท้องถิ่นในการเลือกตั้ง ใครทำจำนวน สส.ได้ตามเป้า ก็เอาเก้าอี้รัฐมนตรีไป
การเลือกตั้งครั้งหน้า “บ้านใหญ่ลุ่มน้ำสะแกกรัง” อาจไม่สามารถปฏิเสธเงื่อนไขที่ยื่นมาก็ได้
และหากในอนาคตอันใกล้ ที่การโหวตนายกฯ ไม่จำเป็นต้องใช้เสียงสมาชิกวุฒิสภาแล้ว อาจมีการล้มกระดานพรรคร่วม พรรคที่อยู่ในข่ายที่จะไม่ได้ร่วมรัฐบาล นอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว โอกาสสูงมากที่จะไม่มี พรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ ปัจจัยทางการเมืองเหล่านี้จึงถูกนำมาคิด วิเคราะห์ด้วย
ดังนั้น ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เห็นในตอนนี้ ก็พอจะบอกได้ว่า บ้านใหญ่ “ไทยเศรษฐ์” ยอมต้องมองทางหนี ที่ไล่ ต่อท่อการเมืองไว้บ้างแล้ว
