“เลขาฯ เพื่อไทย” แจง “อุ๊งอิ๊ง” เยือนกัมพูชา แลกเปลี่ยนการทำพรรค เผย “ฮุนเซน” อยากให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วม พร้อมยัน “เพื่อไทย” ทยอยเปิดตัวผู้สมัครสู้ศึก อบจ. กลางเดือนนี้แน่ ไม่มอง “บ้านใหญ่” ไหลเข้า “ก้าวไกล” บอกล้าสมัยแล้ว
วันนี้ (11 มี.ค.) นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า เป็นการเชิญกันภายในระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน อาจมีการหารือกันเรื่องการทำพรรค เพราะพรรคเพื่อไทยได้เปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ทั้งนี้ หลังจาก สมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้มาเยี่ยมอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรค ว่า จะเชิญพรรคเพื่อไทยไปแลกเปลี่ยน เรื่องการทำพรรคโดยคนรุ่นใหม่ จึงมีความมั่นใจว่า ทางกัมพูชาเองก็ต้องการความเปลี่ยนแปลง เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป สมเด็จฮุน เซน เองเคยพูดว่านอกจากลูกของท่านเอง ส่วนมากก็ยังเป็นคนรุ่นเก่าอยู่ จึงอยากแลกเปลี่ยนเพื่อการทำงานกัน
ส่วนการเตรียมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีการตระเตรียมในจังหวัดที่มีความพร้อม และเป็นจังหวัดที่ค่อนข้างมีเอกภาพ ที่ทั้ง ส.ส. และผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยให้ความเห็นชอบร่วมกัน พร้อมยืนยันไม่ได้ส่งทุกจังหวัด แต่ในการทำการเมืองท้องถิ่น ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะมาช่วยผลักดันการเมืองระดับชาติ เพราะงบประมาณต่างๆ ได้กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การเมืองระดับชาติก็ต้องพึ่งพาท้องถิ่นพอสมควร
สำหรับในจังหวัดที่เรามีความพร้อม ก็คิดว่าน่าจะมีการเปิดตัวผู้สมัครในประมาณกลางเดือน หรือประมาณวันที่ 20 มี.ค. ต้องดูความพร้อมของหัวหน้าพรรค แต่ได้มีการวางแผนไว้เบื้องต้นแล้วว่าจะเปิดตัวประมาณ 4-5 จังหวัดก่อน และทยอยเปิดต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนกระแสของพรรคก้าวไกลที่มีบ้านใหญ่ไหลมาร่วมมากขึ้นนั้น นายสรวงศ์ มองว่า คำว่าบ้านใหญ่ล้าสมัยแล้ว ความจริงอุดมการณ์การทำพรรคการเมืองต่างๆ มีความคิดเห็นที่ตรงกันบ้าง แตกต่างกันบ้าง คำว่าบ้านใหญ่ก็คือครอบครัวที่มีพื้นฐานทางการเมืองในจังหวัดต่างๆ
“ผมมองว่า เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนเข้าใจอยู่แล้ว ว่าใครอยู่พื้นที่ทำอะไร โดยเฉพาะการเมืองท้องถิ่น เพราะต้องยอมรับว่า การทำการเมืองท้องถิ่นต้องอยู่กับพี่น้องประชาชนจริงๆ การเมืองระดับชาติเอง เราใช้เวลาอยู่กับการประชุม อยู่ในกรุงเทพฯ เสียเยอะ ส่วนการเมืองท้องถิ่นเองพี่น้องประชาชนเห็นอยู่ว่าใครอยู่ในพื้นที่” นายสรวงศ์ กล่าว
