“วิโรจน์” เผย อภิปรายรัฐบาลมุ่งทวงสัญญาทำตามนโยบายที่แถลงหรือไม่ ลั่นไม่สนใจประเด็น “ทักษิณ” แนะถามราชทัณฑ์ไปเดินตลาดเชียงใหม่เหมาะสมหรือไม่ อ้างสังคมไทยบาดเจ็บจากการเอาบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาเป็นเงื่อนไขขัดแย้ง ก้าวไกลจะไม่ทำแบบนั้นให้สังคมแตกแยกอีก มุ่งแก้ไขโครงสร้าง
วันนี้ (10 มี.ค.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 152 ว่า มีเรื่องให้อภิปรายหลายประเด็น จะเป็นการทวงสัญญารัฐบาลว่าจะทำหรือไม่ทำ ตามที่ได้แถลงนโยบายไว้ มีความคืบหน้าไปถึงไหน รวมถึงสิ่งที่ทำมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะเป็นลักษณะของการเสนอแนะว่าสิ่งที่รัฐบาลควรทำ และไม่ทำคืออะไร นอกจากนี้ ยังมีปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งเรื่องมาเฟียข้ามชาติ อิทธิพลท้องถิ่น รวมถึงการเรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการบางกลุ่ม ทุนสีเทา คอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึงปัญหายาเสพติด การใช้อำนาจรัฐที่ไม่มีหลักนิติธรรม ระบบสองมาตรฐาน
เมื่อถามว่า มองเรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรบ้าง นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายทักษิณ พวกเราไม่เคยสนใจประเด็นของนายทักษิณเลย แต่สนใจเนื้อหาสาระ และสิ่งที่นายทักษิณได้รับ ว่าเป็นสิทธิพิเศษหรือไม่ หรือคนอื่นที่มีเงื่อนไขคล้ายนายทักษิณพึงจะได้รับด้วย ถ้าเป็นเรื่องสิทธิมาตรฐานเราเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร
ส่วนจะเป็นโมเดลให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาด้วยหรือไม่ คงต้องติดตามดู แต่ตนคิดว่าสังคมไทย บาดเจ็บจากการเอาบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาเป็นเงื่อนไขในการขัดแย้งมากพอแล้ว สมัยก่อนก็มีเรื่อง นายปรีดี พนมยงค์ , จอมพลถนอม กิตติขจร, จอมพลประภาส จารุเสถียร ไล่มาจนถึง พลเอก สุจินดา คราประยูร และ นายทักษิณ ตนคิดว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่ตัวโครงสร้าง
“ขอให้สบายใจว่า พรรคก้าวไกลไม่เคยมีความคิดเลย ที่จะหยิบยกเอาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งในหมู่ประชาชน และใช้วิธีการเช่นนั้น ทำให้สังคมกลับมาแตกแยกอีก แต่เราจะมุ่งแก้ไขที่โครงสร้าง วิพากษ์วิจารณ์ และแก้ไขเนื้อหาสาระเป็นหลัก ดังนั้น ยังยืนยันว่า ทั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ และ นายทักษิณ ไม่ได้อยู่ในสารบบคิดของพรรคก้าวไกล แต่เราให้ความสนใจ ใส่ใจ กับสิ่งที่คุณทักษิณได้รับ ถ้าเกิดมีบุคคลอื่นที่อยู่ในเงื่อนไขเดียวกันก็ควรได้รับด้วย”
นายวิโรจน์ ย้ำว่า นายทักษิณ ควรได้รับความยุติธรรม ไม่ใช่ได้รับอภิสิทธิ์ ส่วนที่มีคนมอบว่าเกี๊ยเซียะกันนั้น ถ้าดูบทบาทตนก็คิดว่าไม่ได้เกี๊ยเซียะยังจัดหนัก จัดเต็ม
เมื่อถามว่า การไปเชียงใหม่ของนายทักษิณครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า อาจไปตลาดพบประชาชนด้วย จะเหมาะสมหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องย้อนถามกรมราชทัณฑ์ว่าทำได้หรือไม่ ก้าวไกลคงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้
ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ หากนำโมเดลของนายทักษิณมาใช้กับนักโทษคนอื่น นายวิโรจน์ กล่าวว่า เห็นด้วย เพราะเป็นสิทธิตามมาตรฐาน นักโทษคนอื่นก็ควรได้รับสิทธินั้น เป็นเรื่องง่ายมาก ในยุคที่นายทักษิณถูกขับไล่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จำได้หรือไม่ว่าคนเสื้อแดง ต่อสู้ในบริบทไหน ดังนั้น เราไม่ควรเลือกปฏิบัติ ซึ่งตนคิดว่าทุกวันนี้การต่อสู้นั้นก็ยังอยู่ คำว่าสองมาตรฐานก็ยังหลอนตนอยู่ ซึ่งประเทศไทยต้องการมาตรฐานเดียว