"ชัยธวัช" มอง “ทักษิณ” ป่วยไม่ใช่เหตุผลได้พักโทษ ย้ำทุกคนต้องได้รับสิทธิ์เท่าเทียมรวมถึงคดีม.112 แนะเปิดข้อมูลการแพทย์ต่อสาธารณชนเรื่องจบ สังคมเลิกสงสัย ยันก.ก.พร้อมเกาะติดข้อมูลตรวจสอบเข้มข้นคู่ขนานนิรโทษกรรมคดีการเมือง
วันนี้ (20ก.พ.) เมื่อเวลา 14.06 น. ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ เมื่อวานนี้(19 ก.พ.) อธิบดีอัยการระบุถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าค่อนข้างวิกฤต จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าป่วยจริงหรือไม่ว่า ตนเข้าใจว่าอาการป่วยไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ได้รับการประกันตัว แต่โดยพื้นฐานพรรคก้าวไกลให้การสนับสนุนการได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว จึงต้องสันนิษฐานว่าทุกคนบริสุทธิ์ ดังนั้นหากใครไม่ได้รับการประกันตัวต้องเป็นกรณียกเว้นจริงๆ เรื่องนี้จะต้องมีการปฏิบัติกันอย่างเท่าเทียมทางกฎหมาย และการได้รับการประกันตัวควรเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับทุกคน แม้แต่ผู้ที่ถูกกล่าวหาคดี 112 ด้วย ส่วนอัยการคงไม่มีอำนาจมาวินิจฉัยเรื่องอาการป่วย เพราะต้องว่าตามเอกสารทางการแพทย์ที่จะไปเกี่ยวข้องกับเหตุผลที่นายทักษิณได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ประกาศของกระทรวงในการพักโทษ ดังนั้นคนที่ให้คำตอบได้ไม่ใช่อัยการ แต่ต้องเป็นแพทย์ กรมราชทัณฑ์ รมต.ราชทัณฑ์ ทางที่ดีที่สุดคนที่เกี่ยวข้องควรออกมาเปิดเผยข้อมูลว่านายทักษิณได้รับสิทธิ์โดยชอบแล้วอย่างไร หากหน่วยงานเกี่ยวข้องมั่นใจว่าเรื่องนี้ทำถูกต้องแล้ว และเปิดเผยเอกสารทางการแพทย์เรื่องนี้ก็จบ สังคมจะได้เลิกสงสัยไม่ตั้งคำถามกับรัฐบาล
“ สถานการณ์ที่ผมคิดว่าเรื่องใหญ่คือการไปตอกย้ำความรู้สึกของคนไทยจำนวนมากที่รู้สึกว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรมมีการปฏิบัติต่อประชาชนไม่เท่าเทียมกับ ในกระบวนการนิติรัฐ อภิสิทธิ์ชน ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ20 ปีที่ผ่านมา ที่ประชาชนออกมาต่อสู้เพื่อต้องการให้สังคมเป็นประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมแบบสองมารตรฐาน วิธีใดที่คิดว่าจะเป็นการคืนความยุติธรรมให้กับนายทักษิณที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจากอดีตที่ผ่านมา ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยวิธีการตอกย้ำ ผลิตซ้ำความอยุติธรรมที่จะสร้างปัญหา”
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลมีการเชิญนายทักษิณมานั่งที่ปรึกษาจะมีความเหมาะสมหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่าตนคิดว่านายทักษิณก็มีสิทธิ์ให้ความเห็นเหมือนประชาชนทั่วไป แต่ก็เป็นวิจารณญาณของรัฐบาล ส่วนจะมีมีอิทธิพลทางการเมืองหรือไม่นั้นก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่าบทบาทของนายทักษิณจะมีความสำคัญต่อแกนนำรัฐบาลปัจจุบัน สำหรับฝ่ายค้านก็จะติดตามข้อเท็จจริงว่ามีการใช้ดุลยพินิจเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และคงต้องผลักดันกระบวนการยุติธรรมไม่ควรจะได้รับแค่คนใดคนหนึ่ง แต่ควรคืนให้กับทุกคน ทุกฝ่ายที่ต้องคดีความที่มาจากความขัดแย้งทางการเมืองทึ่ผ่านมา
ต่อข้อถามว่ามีการตั้งคำถามถึงการทำงานของพรรคก้าวไกลที่ยังตรวจสอบได้ไม่เข้มข้นพอเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ นายชัยธวัชกล่าวว่า เดี๋ยวรอดู ตนบอกแล้วว่าเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องทำ ในฐานะที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ พร้อมๆกับการผลักดันนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง ซึ่งตอนนี้พรรคก้าวไกลพูดทุกวันอยู่แล้ว ขอรวบรวบข้อเท็จจริงก่อน
เมื่อถามว่าสังคมมีการเปรียบเทียบคดีของนายทักษิณกับนายอานนท์ นำพา นักโทษคดี112 ทางพรรคก้าวไกลมีความเห็นอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่างที่กล่าวไว้ว่าเรื่องนี้เป็นการตอกย้ำการเลือกปฏิบัติในทางกฎหมาย และตอกย้ำระบบนิติรัฐที่รัฐบาลบอกว่าจะทำให้เข้มแข็ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำลายความเชื่อถือของสังคมว่ารัฐบาลไม่ได้มีนิติรัฐสำหรับประชาชน แต่เป็นนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชนที่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ส่วนความคืบหน้าของคณะกรรมาธิการนิรโทษกรรมจะมีการนำกรณีของนายทักษิณมาเป็นกรณีตัวอย่างหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่จุดมุ่งหมายของการนิรโทษกรรมควรจะครอบคลุมคดีความที่เกึ่ยวข้องกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือคดีเกี่ยวเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง หากคดีใดก็ตามของนายทักษิณเกี่ยวข้องกับเหล่านี้ก็ควรมีการนำมาพิจารณา เพราะไม่ได้ตั้งต้นที่ตัวบุคคล ส่วนคดีไหนที่ไม่เกี่ยวข้องเช่นคดีการทุจริตคอรัปชั่นก็ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายนี้