นายกฯ ร่วมประชุมแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหานครพนม ชี้ 70% ของรายได้จังหวัดมาจากการท่องเที่ยว ค้าขาย และขนส่งสินค้า แต่ตัวเลขขนส่งสินค้าปีนี้ลดลง เพราะหันไปส่งออกทางหนองคายมากขึ้น ต้องมีการพูดคุย คำนึงถึงการอำนวยความสะดวกให้พ่อค้า เชื่อภายใน 5 ปี พัฒนาเป็นด่านสู่สนามบินอินเตอร์ฯ แต่เมื่อมีสินค้าส่งออก-ต้องมีนำเข้า ไม่ตีรถเปล่า จะไม่คุ้ม
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่ชั้น 2 หอประชุมมหาวิทยาลัยนครพนม ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของจังหวัดนครพนม พร้อมกล่าวในที่ประชุม ว่า เรื่องของโรงพยาบาลนครพนม ทางกระทรวงสาธารณสุข จะมีคอมเมนต์อะไรหรือไม่ อยากรู้ว่า คุยกันไปถึงไหนแล้ว งบประมาณปีไหนอย่างไร อยากทราบรายละเอียด ตนเข้าใจถึงความจำเป็นและเห็นใจ รัฐบาลนี้ให้ความสนใจแต่อยากให้ดูและเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นด้วย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้มีข้อเสนอที่ชัดเจน แต่วันนี้ถือเป็นการจุดประกายความคิด และอยากให้เสนอทุกอย่างมาเป็นเรื่องเดียวกัน ลำดับความสำคัญอะไรจะทำอย่างไรเมื่อไหร่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับจังหวัดนครพนม เรื่องรายได้แบ่งเป็น 2 ส่วน 70% เป็นการท่องเที่ยว ค้าขาย และขนส่งสินค้า ถือเป็นตัวเลขที่เกิดจากความเป็นจริง ซึ่งต้องให้ความสำคัญตามสัดส่วน ส่วนที่บอกมาในเรื่องของชลประทาน ตนเชื่อว่า ไม่มีปัญหาอะไร น่าจะจัดการให้ได้โดยมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ไม่ท่วมไม่แล้ง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของรัฐบาลนี้ ขอให้สบายใจว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ เรื่องของถนนหนทาง รมช.คมนาคม คงไม่ลำเอียง คงจะบริหารจัดการได้ตรงนี้โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องของการขนส่ง การขนถ่ายสินค้า ซึ่งจากการรับฟังจากด่านนครพนม หัวหน้าด่าน ได้พบชัดเจนว่าความสำคัญของด่านนี้คืออะไร แต่มีตัวเลขที่น่าสงสัยปริมาณคนถ่ายสินค้าลดน้อยลงจากเมื่อ 4 เดือนของปีนี้ และ 4 เดือนของปีงบประมาณที่ผ่านมา เพราะมีการขนย้ายไปส่งออกจากหนองคายเยอะขึ้น หวังว่า คงจะทราบกันดีอยู่ ฉะนั้นจึงต้องมีการพูดคุย ทางสำนักเลขาธิการนายกฯ ดูยุทธศาสตร์ทั้งหมดของภูมิภาคนี้ ทั้งด่านมุกดาหาร นครพนม และหนองคาย เรื่องของสินค้าที่ออกไปและสินค้าที่เข้ามา แน่นอนสินค้าที่มีปริมาณหลักคือผลไม้ไปประเทศจีน
นายกฯ กล่าวว่า และอีกเรื่องที่ต้องคำนึงถึงอย่างมาก คือ การอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้า ไม่ว่าจะเป็น one stop service และตนเชื่อว่า ในอนาคตไม่เกิน 5 ปี จะสามารถพัฒนาด่านไปสู่สนามบินอินเตอร์เนชั่นแนลควบคู่กับนโยบายการสนับสนุนท่องเที่ยว รวมถึงเรื่องการยกระดับสนามบินเป็นเรื่องที่น่าจะทำกันได้ รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและผลักดันต่อไปแน่นอน และน่ายินดีกับจังหวัดนครพนม บริษัทใหญ่ๆ เจ้าของห้างทั่วโลกสนใจลงทุนที่นี่ ควรจะสนใจสินค้าด้วย ให้ได้รับการโปรโมต ซึ่งไม่ใช่ซื้อสินค้าอย่างเดียวการพัฒนาสินค้าก็สำคัญ การที่มีสินค้าหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม หรืออะไรต่างๆ มีพื้นฐานความแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ยังขาดการดีไซน์ระดับโลกต้องพยายามตอบโจทย์ให้ได้ตรงนี้ เชื่อว่า ภาคเอกชนสามารถนำองค์ความรู้เข้ามาช่วยทำให้มีการดีไซน์ผลิตที่ได้มาตรฐานโลกและสามารถส่งไปขายตามสถานที่ต่างๆ ได้ ห้างในต่างประเทศหากมีสินค้าจากจังหวัดนครพนมไปขายก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้ภาคเอกชนพัฒนาสินค้าไปขายในต่างประเทศได้มีตัวตนในเวทีโลกได้
นายเศรษฐา กล่าวว่า หากเราพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว เรามีสินค้าพาณิชย์มาใช้ตรงนี้หรือเปล่า ผลไม้หลักที่ส่งออกคือทุเรียน ปีที่แล้วเราส่งออกทุเรียนไปประมาณ 2 แสนล้าน หากเราพัฒนาควบคู่ไปกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน one stop service ไม่ให้นักธุรกิจเสียเวลา เชื่อว่า ศักยภาพที่เราจะขนถ่ายสินค้าออกไปจะมีประโยชน์ ควบคู่ไปกับกระทรวงพาณิชย์ที่มีสินค้านำเข้าด้วยไม่เช่นนั้นการตีรถเปล่าเที่ยวเดียวจะไม่คุ้ม ตรงนี้ขอฝากไปด้วย เชื่อว่า สภาหอการค้าไทยมีส่วนสำคัญอย่างมากในการที่จะช่วยพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองหลัก
จากนั้น นายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการของดีประจำ 12 อำเภอ ภายใต้ 3MUST (Eat, Travel, Visit) และจับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและกลุ่มผลิตสินค้าชุมชน ที่บริเวณ ชั้น 1 หอประชุมมหาวิทยาลัยนครพนม