“ดิจิทัล วอลเล็ต”เหลว ยื้อไปสุดเก้าอี้นายกฯ!?

เมืองไทย 360 องศา

ตามกำ หนดการที่ประกาศกันไว้ก่อนหน้า ระบุว่าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จะมีการประชุมคณะกรรมการ “ดิจิทัล วอลเล็ต” ชุดใหญ่ ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน หรือที่เรียกว่า คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet

มีรายงานว่าการประชุมมีขึ้นที่ตึกภักดีบดินทร์ทำ เนียบรัฐบาล โดยเป็นการประชุมครั้งที่ 1/2567 อย่างไรก็ดีคาดว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นแค่การพิจารณาแนวทางการดำ เนินการโครงการโดยนำ ความเห็นข้อเสนอแนะของสำ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มาประกอบการพิจารณา และอาจจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านตรวจสอบการกระทำ ที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ ด้วย

ก่อนหน้านั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงการประชุมว่า จะนำข้อคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ เสนอให้ที่ประชุมรับทราบ เพื่อจะทำให้การพิจารณารอบคอบยิ่งขึ้น และจะให้คณะกรรมการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ซึ่งยืนยันว่าจุดยืนของรัฐบาล ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถือเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่จริงๆส่วนการประชุมวันนี้จะสามารถอนุมัติพ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาทได้เลยหรือไม่นั้น ต้องไปสอบถามในที่ประชุม ซึ่งต้องคุยกัน ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวจะล่าช้าเกินไปหรือไม่นั้นนายภูมิธรรมกล่าวว่ามาช้าดีกว่าไม่มาอย่ากลัวว่าช้าเพราะช้าอยู่แล้ว เราก็พยายามฝ่าความช้า และทำ ความเข้าใจกับกลุ่มคนที่คัดค้าน และพิสูจน์เท่าที่ทำ ได้ถึงจุดหนึ่งก็ต้องตัดสินใจ

ส่วนจะมองเรื่องเศรษฐกิจจะวิกฤตหรือไม่วิกฤตนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่าหากถกเถียงในเรื่องทฤษฎีก็อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้จึงอยากแนะนำทุกคนที่ยังไม่สบายใจ ว่าประเทศยังไม่วิกฤตจริง ให้ไปอยู่กับความเป็นจริง ให้ไปลองพูดคุยกับกลุ่ม SME นักธุรกิจ หรือไปเดินตลาด ไปพบปะกับพี่น้องประชาชนว่าเขารู้สึกอย่างไร เพราะจากการที่ไปเดินตลาดมาทั่วประเทศไทยแล้ว พบเสียงที่เดือดร้อน คือค้าขายไม่ได้ไม่มีคนมาซื้อสินค้า หรือคนซื้อน้อยลง มีตลอดทุกที่รวมถึง SME ก็เรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปดูแล ทำอย่างไรให้เศรษฐกิจเติบโตกว่านี้

เพราะกำ ลังซื้อไม่มีรวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่แพงและสูง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่ เมื่อวานได้มีการพูดคุยกับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ก็รู้สึกเหมือนกันว่า ภายใต้รัฐบาล ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเช่นนี้น่าจะสร้างความเชื่อมั่นและทำอะไรได้หลายอย่างแต่ก็ยังมีปัญหาที่ส่งผลกระทบอยู่จึงอยากให้รัฐบาลได้ทำอะไรที่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต จึงเป็นประเด็นสำ คัญที่จะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเพิ่มกำ ลังซื้อได้อย่างเต็มที่วันนี้กับประชาชนไม่มีกำ ลังซื้อ ไม่มีเงินมาจับจ่ายใช้สอย

นายภูมิธรรม ยังถามสื่อว่า ทานข้าวแพงขึ้นไหม ชีวิตความเป็นอยู่ เพียงพอกับค่าครองชีพ ที่สูงขึ้นหรือไม่ เพราะถ้าไม่พอ ก็จะเป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แล้วต้นก็เชื่อว่าทุกคนก็ต้องเจอปัญหา ถ้าลดการเที่ยวน้อยลง กินอาหารที่จำ เป็นต่อร่างกายมากขึ้น นานๆทีจะกินอาหารที่ อยากกิน ไม่มีปัญญาที่กินได้เหมือนเดิม เพราะไม่มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวม จึงอยากให้ช่วยกันไปดูแล้วช่วยกันคิด มากกว่าว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร หรือจะอ้างจากประสบการณ์ที่ทำ ก็ต้องไปดูว่า 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเป็นแบบไหน เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ ถ้าอยากทำแบบเดิมก็ได้แบบเดิม ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงแก้ไขก็ต้องใช้วิธีคิดแบบใหม่ เพื่อจะได้มีโอกาสทำ สิ่งใหม่ๆ

แน่นอนว่า หากพิจารณาจากการนัดประชุมของคณะกรรมการ “ดิจิทัลวอลเล็ต”ชุดใหญ่ ที่ถือเป็นคณะกรรมการระดับชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้น อาจจะถือเป็นความคืบหน้าก็ได้เพราะนี่ถือเป็นการ “ประชุมนัดแรก” แบบเป็นเรื่องเป็นราวนับตั้งแต่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา และนับจากการที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารงานนานกว่า 6 เดือนแล้ว และนโยบาย “แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต” ก็ถือเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล ประกอบกับการที่รัฐบาลอ้างถึงเหตุ“วิกฤติเศรษฐกิจ” ต้องดำ เนินการอย่างเร่งด่วน แต่กลายเป็นว่าในทางปฏิบัติทุกอย่างกลับดำ เนินการอย่างล่าช้าจนแทบไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย

ที่ผ่านมารัฐบาลอ้างว่าต้องรอฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ“สภาพัฒน์”สำ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำ นักงานเศรษฐกิจการคลัง และล่าสุดก็มีความเห็นจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ส่งมาเป็นหนังสือเรียบร้อยแล้วก็ตาม ทำ ให้การประชุมคณะกรรมการดิจิทัลฯ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบปี67จะมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา นายจุลพันธ์อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการนี้ซึ่งถือว่าเป็น “แม่งานหลัก” บอกว่า รัฐบาลได้เตรียมร่างพระราชบัญญัติกู้เงินจำ นวน 5 แสนล้านบาทสำ หรับใช้ในโครงการเอาไว้พร้อมแล้ว

อย่างไรก็ดีในที่สุดในตอนเย็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ก็มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัล วอลเล็ต ที่ทำ เนียบรัฐบาลโดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นต้น เข้าร่วม โดย นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะทำ โครงการ “ดิจิทัล วอลเล็ต” ให้ดีที่สุดและถูกกฎหมาย แต่เขาก็ยังไม่ยืนยันว่าผลจะออกมาแบบไหน

แต่ให้ประเมินผลหลังการประชุมในครั้งนี้ก็เชื่อว่าน่าจะออกมาในรูปของการตั้งคณะอนุกรรมการไปศึกษาป้องกันช่องโหว่ในการทำ ผิดกฎหมายจากข้อเสนอแนะ ความเห็นจากหลายหน่วยงานก่อนหน้านี้ที่แสดงความกังวลโดยเฉพาะเรื่องการทุจริตที่จะเกิดขึ้นกับโครงการแจกเงินดิจิทัลฯ ดังกล่าว สรุปก็คือ “ไม่มีความคืบหน้า” หรือไม่ไปไหนนั่นแหละ

ซึ่งล่าสุดก็เป็นไปตามคาดเมื่อ นายกรัฐมนตรีแถลงหลังการประชุมว่า มีการตั้ง “คณะทำ งาน” เพื่อศึกษาข้อสังเกตข้อท้วงติงให้รอบคอบ โดยให้เวลาศึกษารวบรวมอีก 30 วัน แล้วกลับมารายงานคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้ง

ที่ต้องบอกว่า ไม่มีความคืบหน้าก็เพราะว่า หากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้ว โอกาสที่จะออกเป็นพระราชกำ หนด กู้เงิน 5 แสนล้านบาท นั้นฟันธงได้เลยว่าเป็นศูนย์เป็นไปไม่ได้ดังนั้น ก็ต้องออกเป็นพระราชบัญญัติเท่านั้น แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะปิดสมัยประชุมแล้ว ทุกอย่างจึงต้องล่าช้าแบบไม่มีกำ หนด

ขณะเดียวกัน หากพิจารณากันตามรูปการณ์แล้ว การ “ยื้อ” โครงการ แจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ออกไปแบบไม่มีกำ หนดเช่นนี้ มองอีกมุมหนึ่งมันเหมือนกับว่าทุกอย่างกำลังฝ่อลงไป เหมือนกับรอวันเวลา “จบเกม” เพราะเวลานี้แทบจะไม่มีความกระตือรือร้น ออกมาให้เห็น การประชุมก็เป็นแค่แสดงแอ็กชันบางอย่างให้เห็น ว่ายังไม่ล้มเลิกเท่านั้น ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากท่าทีของ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ดูแล้วยิ่งอ่อนแรงลงไป เมื่อเทียบกับในช่วงแรก ซึ่งมันก็เหมือนกับการส่งสัญญาณออกมาให้เห็นว่า ไร้พลังเหมือนกับเก้าอี้นายกฯ ในเวลานี้ ที่หากสังเกตจะเน้นเฉพาะงานฉาบฉวย เช่น แอ็กชันควบคุมฝุ่น พีเอ็ม 2.5 การเดินสายตรวจราชการ แต่ “ไม่มีนโยบายหลัก” ออกมาเลย!!.