“กิตติรัตน์” ร้องขอลูกหนี้ ลงทะเบียนโดยด่วน เพื่อดูแลแก้ปัญหาหนี้ ยอมรับบางธนาคาร สถาบันการเงิน ไม่เข้าร่วม “คลินิกแก้หนี้” เตรียมดำเนินการให้เข้าร่วมทั้งหมด พร้อมขอบคุณสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ลดอัตราดอกเบี้ย ให้ข้าราชการ แหลือร้อยละ 4.75
วันนี้ (12 ก.พ.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์แก้หนี้ทั้งระบบ ว่า อยากเรียกร้องให้ลูกหนี้นอกระบบมีความกล้าหาญในการมาลงทะเบียน ตามจุดรับลงทะเบียนต่างๆ ทั่วประเทศ หากไม่มีความกล้าหาญรัฐบาลก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ตามความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่า การมาลงทะเบียน ถือเป็นการสิ่งยืนยันว่าจะได้รับการคุ้มครองดูแลและแก้ไข ขณะเดียวกัน ขอเรียกร้องให้เจ้าหนี้ได้กรุณาเข้ามาร่วมลงทะเบียนด้วย
“เพราะอย่างที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ระบุว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะคุ้มครองเจ้าหนี้ด้วย เมื่อลูกหนี้มีหน้าที่ต้องใช้หนี้ที่ยืมมา แต่ลูกหนี้ไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กำหนด ดังนั้น เจ้าหนี้อาจจะยังได้รับชำระหนี้ไม่ครบจำนวนเงินต้นที่มีอยู่ ก็มีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง โดยการมาลงทะเบียนด้วยเช่นกันหนี้นอกระบบที่จ่ายดอกเบี้ยจำนวนมากๆ ในอัตราสูงท่วมเงินต้นแล้ว ควรจะถือว่าจบกัน แต่ การที่เจ้าหนี้ยังคงคิดว่าจะเรียกร้องดอกเบี้ยต่อเนื่อง ไปเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย” นายกิตติรัตน์ กล่าว
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ต่างๆ ซึ่งจัดสินเชื่อสวัสดิการให้กับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจนั้น ได้ทยอยลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความเสี่ยงเพราะรัฐบาลที่ดูแลแล้ว ร้อยละ 4.75 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม และข้าราชการมีเงินเหลือ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ทั้งนี้ หลายส่วนราชการกำลังดำเนินการที่จะเป็นในลักษณะเดียวกัน และเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีหรือข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ตนเองขอบคุณคณะกรรมการและสหกรณ์ที่ให้ความร่วมมือใน ส่วนที่เป็นธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินบางแห่ง ที่ได้ร่วมให้สินเชื่อสวัสดิการกับข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ก็มีความคืบหน้า นำไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสอดคล้องกัน ซึ่งมั่นใจว่าข้าราชการทั้งหมดจะมีเงินเหลือหลังจาก ชำระหนี้เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต
ขณะเดียวกัน ในส่วนของหนี้นอกระบบ นายกิตติรัตน์ ยังขอบคุณธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่ให้ความร่วมมือ ในส่วนของหนี้ นอกระบบอื่นต้องขอบคุณธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง และสถาบันการเงินหลายแห่ง ที่ให้ความร่วมมือ กับแนวทาง ในการปรับโครงสร้างหนี้ เช่นหนี้บัตรเครดิตหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมีกลไกที่เรียกว่า “คลีนิกแก้หนี้” แต่ยอมรับความจริงว่ายังมีสถาบันการเงิน ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าเครดิตแค่นี้ ซึ่งจะมีการดำเนินการต่อไปเพื่อขอร้องไห้สถาบันการเงินเหล่านั้นมาให้ความร่วมมือเหมือนกับสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ ที่สำคัญต้องเป็นไปตามธนาคารแห่งประเทศไทย มีระเบียบข้อกำหนด การชำระหนี้ ไม่ใช้ชำระแต่ดอกเบี้ยไปตลอด เงินต้นจะต้องลดลงด้วย
นายกิตติรัตน์ กล่าวยืนยันว่า ทุกภาคส่วนมีความคืบหน้า สถานะลูกหนี้ที่เป็นเอ็นพีแอลลดลง คณะทำงานยังคงทำงานอย่างเต็มความสามารถไม่เว้นวันหยุดเพื่อทำให้ความคืบหน้าตรงนี้บรรลุเป้าหมายจนกระทั่งการแก้ไขหนี้ทั้งระบบเบ็ดเสร็จภายในระยะเวลาของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน
