เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งสำคัญที่หลายฝ่ายให้ความสนใจและเฝ้าจับตามองชนิดตาไม่กระพริบ สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ ที่เป็นการต่อสู้กันระหว่าง 2 ตระกูลใหญ่ คือ “บ้านกาญจนะ” ที่จะส่ง นายสุรินทร์ บุญประสพ น้องชายของ นางโสภา กาญจนะ หญิงเก่งผู้มากบารมี ภรรยาของนายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.ในพื้นที่หลายสมัย ชิงชัยกับนายก อบจ.สุราษฎร์ธานีคนปัจจุบัน คือ กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว ซึ่งเวลานี้กำลังอยู่ในช่วงขาลง คะแนนนิยมลดลงอย่างมาก เปรียบเสมือน “ม้าไม่มีแรงวิ่ง” เพราะหลากนโยบาย หลายโครงการ ที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชนตอนหาเสียง ซึ่งตอนนี้อยู่มาจะครบวาระ 4 ปี แต่มีคำถามเกิดขึ้นหนาหูว่า มีนโยบายไหนที่ทำสำเร็จเป็นจริงแล้วบ้าง
ล่าสุด ความเคลื่อนไหวในตำบลตะกรบ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี หนี่งในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ มีรายงานว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ อยากสอบถามไปยัง “กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว” ถึงเรื่องการทำบิ๊กโปรเจ็ค นั่นคือ โครงการก่อสร้างสนามกีฬา และสนามแข่งรถสุราษฎร์ธานี อารีน่า ให้ขึ้นชั้นมาตรฐานระดับนานาชาติ โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการในแผนงบประมาณปี 2565-2566 โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการที่นายกฯ อบจ.สุราษฎร์ฯ ให้ความหวังไว้กับชาวบ้าน และรับปากว่าจะทำให้ได้ ซึ่งชาวบ้านอำเภอไชยาได้ตั้งความหวังว่าจะเห็นความเจริญเกิดขึ้นในพื้นที่บ้านเกิดเมืองนอนของตน มีการลงทุน มีเม็ดเงินการจับจ่ายใช้สอยเข้ามาสู่พื้นที่ และมีความคาดหวังเป็นอย่างมากว่า พวกเขาจะมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่วันนี้เหมือนความหวังทุกอย่างพังทลายลง เพราะจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่ได้เริ่มต้นทำอะไรเลย และคงจะทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากอีกไม่นานท่านก็จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งลงแล้ว
ก่อนหน้านี้มีรายงานเรื่องคะแนนนิยมของ “กำนันพงษ์ศักดิ์” ที่ตกต่ำลงไปอย่างมาก เพราะหลากหลายโครงการที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ตอนหาเสียง ไม่สามารถเริ่มต้นลงมือทำให้เกิดผลลัพธ์แก่ชาวบ้านได้ อาทิ นโยบายหาเสียง “เบอร์ 6 6 นโยบาย 6 ยุทธศาสตร์” พร้อมผลักดันจังหวัดสุราษฎร์ธานีสู่เมืองอัจฉริยะ (Surat Smart City) รวมไปถึงโครงการก่อสร้าง Sky walk ที่เขาสก อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี และการที่ชาวบ้านรวมตัวร้องเรียนเรื่องทุจริตก่อสร้างสะพานแก้วที่เกาะลำพู งบประมาณเกือบ 400 ล้านบาท โดยถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจัดทำงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง
ที่สำคัญชาวบ้านยังให้ข้อมูลว่า โครงการต่างๆ ของ นายกฯ อบจ. ท่านนี้ ดูแล้วไม่ได้พิจารณาถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดสร้างสิ่งที่สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ชาวบ้าน ซึ่งมีหลายโครงการที่ชาวบ้านเดือดร้อนมาก แต่กลับไม่ได้รับการดูแล แต่งบประมาณดังกล่าวถูกจัดสรรมาลงในโครงการที่กำลังเกิดเป็นข้อครหาและกำลังถูกร้องเรียนเกือบทั้งสิ้น ซึ่งท่านจะต้องทำตัวให้โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เพราะสัญญาปากเหล่านี้ คือสาเหตุที่ทำให้คะแนนนิยมของ ‘กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว’ หล่นวูบลงไปเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการตีตัวออกห่างของบรรดา สจ. ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น พลิกขั้วย้ายข้างไปเข้าร่วมกับฐานการเมืองฝ่ายตรงข้าม เพราะพวกเขามองอนาคตอ่านขาดว่า ภาพจำของการ “รักษาคำพูด” เป็นสิ่งที่นักการเมืองเมื่อพูดแล้วต้องทำให้ได้ เพราะการไม่ทำตามคำพูด จะทำลายความน่าเชื่อถือ และความศรัทธาของตัวผู้พูดเอง
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฏร์ฯ ที่กำลังจะมีขึ้น ประชาชนจะตื่นตัวไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันอย่างเต็มที่ เป็นความพยายามที่ต้องการทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการคัดเลือกตัวบุคคล ผู้ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ใช้อำนาจแทนตน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น
