“อัครเดช” เผย 24 ม.ค. เรียก 5 หน่วยงาน แจงเหตุ โรงงานผลิตพลุ สุพรรณฯ ระเบิด-มาตรการป้องกันของรัฐ ระบุจ่อแก้ กม.โรงงาน ครอบคลุมโรงงานผลิตพลุ-กระบวนการผลิต-ทิ้งกาก-ขีดที่ตั้งบนผังเมือง
วันนี้ (21 ม.ค.) นายอัตรเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภา เปิดเผยว่า ในการประชุมวันที่ 24 ม.ค. กมธ.จะพิจารณาเหตุการณ์ที่โรงงานผลิตพลุระเบิด ที่ จ.สุพรรณบุรี โดยได้เชิญ ผู้ว่าราชการสุพรรณบุรี, กรมการปกครอง, อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, อธิบดีกรมคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการ, เจ้ากรมอุตสาหกรรมทหาร เพื่อรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากการสืบหาสาเหตุการระเบิดที่เกิดขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันของภาครัฐ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อ กมธ. จะนำไปประกอบการพิจารณายกร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงงาน เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างของการประกอบอุตสาหกรรมผลิตพลุขนาดเล็กที่กฎหมายไม่ครอบคลุมทำให้การควบคุมการผลิตรวมถึงการจำกัดของเสียไม่เป็นไปตามกฎหมาย
“จากกฎหมายโรงงานปัจจุบัน พบการกำหนดเงื่อนไข การขอใบอนุญาตที่ไม่ครอบคลุมโรงงานผลิตพลุขนาดเล็กที่มีกำลังผลิต 50 แรงม้า และมีแรงงานไม่มากกว่า 50 คน ทำให้รวมถึงแรงงานในโรงงานนั้นไม่ใช่ผู้มีความรู้ เป็นเพียงชาวบ้านทั่วไปที่ตำพลุเอง ซึ่งหากไม่แก้ไขกฎหมายจะทำให้เกิดการละเลยและเกิดเหตุซ้ำได้อีก ซึ่งการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว จะทำในนามกรรมาธิการ และใช้เวลา 30-60 วันก่อนเสนอเข้าสู่สภา โดยจะทำงานคู่ขนานไปกับการยกร่างแก้ไขกฎหมายโรงงานของรัฐบาลด้วย” นายอัครเดช กล่าว
นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นที่ต้องการแก้ไขในกฎหมายโรงงาน จะมีรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การกำหนดเขตผังเมือง หรือพื้นที่ ซึ่งอาจใช้รายละเอียดเดียวกันกับการผลิตยุทธภัณฑ์ของทหารที่มีการกำหนดเขตพื้นที่ เพราะในการผลิตพลุนั้น พบว่า มีการใช้สารเคมีที่ใช้ในการผลิตอาวุธยุทธภัณฑ์ของทหารด้วย ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของชุมชน จำเป็นต้องพิจารณา รวมถึงกระบวนการเก็บสารเคมี การผลิต และการกำจัดกากของเสียด้วย เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นได้รับผลกระทบ เช่น การนำกากของเสียทิ้งที่กองขยะทั่วไป ซึ่งอาจทำให้ผู้เก็บขยะได้รับอันตรายจากการระเบิดได้ เป็นต้น.