xs
xsm
sm
md
lg

กรมโรงงานเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มโรงงานกำจัดกากของเสียใน จ.ระยอง หลังพบความเป็นกรดในบ่อบำบัดสูงถึงขั้นอันตราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ระยอง -​ อธิบดีกรมโรงงานติดตามการกำจัดกากของเสียน้ำในบ่อดินและพื้นที่ปนเปื้อน บริษัท วินโพรเสส จำกัด หลังบ่อดินแตกทำน้ำเสียทะลักเข้าพื้นที่เกษตรชาวบ้านใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ก่อนแจ้งข้อหาเพิ่มพบน้ำเสียในบ่อบำบัดมีความเป็นกรดสูงถึงขั้นอันตราย

จากกรณีที่มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่ จ.ระยอง ​จนทำให้เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา บ่อบำบัดน้ำเสียของบริษัท วินโพรเสส จำกัด ซึ่งเป็นบ่อดินที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านหนองพวา ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง แตก จนทำให้น้ำเสียที่มีสีคล้ายสนิมเหล็กไหลทะลักเข้าบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร สวนยางพารา และบ่อเลี้ยงกบของชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย อีกทั้งน้ำเสียจำนวนมากยังไหลลงคลองสาธารณะจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นั้น

วันนี้ (10 ต.ค.)​ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองพวาด เพื่อติดตามความคืบหน้าการกำจัดกากของเสียในบ่อดินและพื้นที่ปนเปื้อน รวมทั้งขยะที่ไหลตามน้ำเข้าพื้นที่ของชาวบ้านของบริษัท วินโพรเสส จำกัด ตามคำสั่งศาลจังหวัดระยอง

โดย นายจุลพงษ์ เผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการติดตามการดำเนินงานในด้านการบำบัดกากของเสียที่คงเหลืออยู่ภายในโรงงาน ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 25 มี.ค.64 โดยมีของเสียตามคำพิพากษาที่ต้องกำจัดและบำบัด ได้แก่ เศษฝุ่นเหล็กและตะกรัน ของเหลวและกากตะกอนในบ่อคอนกรีต ของเสียเคมีวัตถุประเภทของเหลวไม่ทราบชนิดที่บรรจุภายในภาชนะถัง

รวมทั้งน้ำในบ่อดินและพื้นที่ปนเปื้อน จำนวน 6 บ่อ และขยะทั่วไปที่โรงงานแห่งนี้จะต้องบำบัดและกำจัดให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.66 แต่ทางโรงงานขอขยายเวลาการดำเนินงานไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.66 นี้ 


อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ยังเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้โรงงานแห่งนี้ได้ว่าจ้างบริษัทรับจ้างกำจัดกากของเสียเข้าดำเนินการใน 2 ส่วนคือ กากของเสียในตัวอาคารและบ่อดิน ซึ่งประเด็นที่เดินทางลงพื้นที่วันนี้คือ การตรวจสอบบ่อบำบัดที่อยู่ในระหว่างดำเนินการภายในโรงงาน จำนวน 1 ใน 5 บ่อที่แตกไหลลงลำรางสาธารณะจนกระทบพื้นที่การเกษตรชาวบ้าน

แต่มีประเด็นใหม่ขึ้นมาคือเดิมทีน้ำเสียในบ่อเป็นกรดที่ไม่ถึงขึ้นเป็นวัตถุอันตราย แต่ปรากฏว่ายิ่งมีการบำบัดยิ่งพบความเป็นกรดในบ่อสูงมากจนถึงขั้นเป็นวัตถุอันตราย ซึ่งทำให้ทีมตรวจสอบเกิดความสงสัยจึงรวบรวมพยานหลักฐานการตรวจวิเคราะห์ และหลักฐานภาพถ่าย

ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะมีการนำกรดในตัวอาคารมาเทลงบ่อบำบัด ซึ่งหลักฐานพบว่ามีการนำถังเปล่าพลาสติกบรรจุสารมาตัดแยกไปขายประมาณ 8-10 คันรถบรรทุก 10 ล้อแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากสิ่งของทุกอย่างภายในอาคารโรงงานถูกอายัดไว้แล้ว


"ในเรื่องนี้จะต้องมีการดำเนินคดีกับโรงงานเพิ่มเกี่ยวกับ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และอีกส่วนคือการนำเอาถังบรรจุสารตัดแยกไปขาย ซึ่งผู้ประกอบการจะกระทำได้ต่อเมื่อ กรมโรงงานอนุญาตเท่านั้น และเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้ต้องเก็บไว้ที่ศาล แต่ที่ผ่านมาโรงงานแห่งนี้ไม่ได้มีการวางเงินไว้ที่ศาล ซึ่งข้อเท็จเหล่านี้ กรมโรงงานจะส่งเรื่องให้อัยการจังหวัด เสนอต่อศาล เพื่อให้คดีไม่หยุดแค่การบำบัดน้ำเสียในบ่อ และในอาคารเท่านั้น และทรัพย์สินทั้งที่ดินและอาคารของโรงงานจะต้องตกเป็นของบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งการกระทำดังกล่าวของเจ้าของโรงงานถือเป็นการลักทรัพย์ เบื้องต้นได้แนะนำให้ผู้แทนธนาคารไปแจ้งความดำเนินคดีโรงงานนี้แล้ว" อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น