วันนี้ (21 ม.ค.) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายมุ่งเน้นผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีมีคุณภาพ ให้เพียงพอต่อความต้องการของชาวนา เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของผลผลิตให้มีคุณภาพมากขึ้น และมีศักยภาพการผลิตที่สูงขึ้น รองรับความต้องการของตลาดโลก และสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ รัฐบาลจึงส่งเสริมให้มีการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่หลากหลาย เพื่อให้เกษตรกรได้มีพันธุ์ข้าวให้เลือกเพาะปลูก ตอบโจทย์ในแต่ละพื้นที่ เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กรมการข้าว มีการรับรองพันธุ์ข้าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีพันธุ์ข้าวที่ผ่านการรับรองพันธุ์จากกรมการข้าวแล้วทั้งสิ้น จำนวน 172 พันธุ์ ครอบคลุมทุกชนิดและประเภทข้าวที่ปลูกในนิเวศการทำนาของประเทศไทย และเตรียมประกาศรับรองข้าวพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก อาทิเช่น ข้าวเจ้าพื้นแข็ง ผลผลิตสูง ศักยภาพให้ผลผลิต 1,300 กิโลกรัมต่อไร่ อายุเก็บเกี่ยว 110-115 วัน ต้นแข็ง ไม่หักล้ม ต้านทานโรคขอบใบแห้งและเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีมาก สามารถ ผลิตเป็นข้าวสาร 100% ชั้น 1 ได้
และข้าวเจ้าพื้นแข็ง ผลผลิตสูง อายุสั้น (95-105 วัน) ศักยภาพให้ผลผลิต 1,200 กิโลกรัมต่อไร่ เมล็ดเรียว ยาว ท้องไข่น้อย ปริมาณอมิโลส 26.6% มีกลิ่นหอม (ปริมาณ 2AP = 0.418 ppm) ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทนน้ำท่วมฉับพลันปานกลาง
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับข้าว ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรหลักของประเทศไทย มุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถด้านการผลิตและการตลาดตลอดโซ่อุปทาน โดยมีแนวทางให้กรมการข้าวส่งเสริมผลิตข้าวคุณภาพให้ได้มากที่สุด และต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับแก่เกษตรกร เพื่อพัฒนาให้ในอนาคตอีก 3-4 ปี จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวคุณภาพอันดับหนึ่ง