วันนี้(4 ม.ค.)นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.จังหวัดกำแพงเพชร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระแรก ว่า งบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด 118,596 ล้านบาท เป็น 3.4% ของงบประมาณทั้งหมด โดยในส่วนของกรมชลประทาน ปีนี้ได้รับจัดสรรงบประมาณเพียง 81,138 ล้านบาท ถ้ามองจากตัวเลขที่เห็นอาจจะมาก แต่น้อยนิดกับภารกิจที่กรมชลประทานต้องรับผิดชอบ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศทำอาชีพเกษตรกร น้ำจึงถือว่าเป็นปัจจัยหลักในการทำการเกษตร ถ้ามีน้ำทำชาวบ้านก็ไม่ต้องไปวิ่งตามน้ำไปยังจังหวัดใกล้เคียงนะ
“งบประมาณที่จัดสรรเมื่อนำลงไปในพื้นที่ จะเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ 169,837 ไร่ เพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำได้ 110,000,000 ลูกบาศก์เมตร ช่วยป้องกันอุทกภัยได้ 64,214 ไร่อถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก แต่ภารกิจของชลประทานยังมีอีกมากมายที่ต้องทำ งบประมาณเพียงเท่านี้ จึงไม่มีความเพียงพอ ผมมองว่า ควรที่จะต้องเพิ่มงบประมาณให้กับกรมชลประทาน เพื่อจะเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน”นายเพชรภูมิ กล่าว
นายเพชรภูมิ กล่าวต่อถึง ข้าวที่เป็นสินค้าเกษตร และสามารถส่งออกเป็นระดับต้น ๆ ของประเทศ โดยวันนี้กรมการข้าวมีแนวความคิดที่จะทำโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวโดยให้เกษตรกร 30 ไร่ ๆละ 15 กิโลกรัม รวมแล้ว 450 กิโลกรัม ซึ่งราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวนี้มีราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด ซึ่งตอนนี้ในท้องตลาด ราคาเฉลี่ยประมาณ 20 บาท แต่โครงการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวของกรมการข้าวราคา 3 - 5 บาท แล้วแต่ชนิด ก็จะช่วยลดต้นทุนในการผลิต และจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้ผลผลิตดียิ่งขึ้น เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพเหล่านี้ เราสามารถเก็บไปใช้เป็นพันธุ์ในครั้งต่อๆไปได้อีกหลายครั้ง ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากยิ่งขึ้นโครงการนี้ตนถือว่า เป็นโครงการที่ดี อยากให้รัฐบาลเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนด้วย
นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่นำโครงการต่าง ๆ ที่สร้างประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนในการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นอย่างดี เงินสะพัดหลายหมื่นล้านบาท นอกจากนั้นยังมีเรื่องของโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งนโยบายนี้ถือว่า เป็นนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐด้วย แต่วันนี้ตนมีความเห็นใจ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.เพราะมีภารกิจมากอยู่แล้ว งบประมาณก็ไม่ได้มีเพิ่มเติม แต่ได้รับภารกิจเพิ่มเติมมาคือ การเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตร
“ผมขอฝากรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วยหางบประมาณมาช่วยจะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน และอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะฝากก็คือ ขอให้มีการทบทวนสิทธิ์ผู้ถือครองที่ดินรายใหม่ ๆ วันนี้ต้องยอมรับว่า ที่ดิน ส.ป.ก. มีการซื้อขาย แต่เป็นการซื้อขายกันผ่านมือเปล่า ไม่ได้มีการโอนย้ายถ่ายเท จึงอยากจะให้ ส.ป.ก.ตรวจสอบสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อรายใหม่ ๆ ด้วย”