“ส.ว.สถิตย์” แนะดึงเงินเข้ากองทุนวิสาหกิจเพื่อสังคม จากบัญชีธนาคารที่ไม่เคลื่อนไหว และเงินจากกองสลากที่ไม่มีผู้มารับรางวัล เพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอในการลงทุนกับวิสาหกิจเพื่อสังคม
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ได้กล่าวในระหว่างการประชุมวุฒิสภา เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ว่า วิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นการประกอบธุรกิจที่มีเป้าหมายหลักเพื่อสังคม เป็นหลักการบูรณาการร่วมกันระหว่างความสามารถในการประกอบธุรกิจกับอุดมการณ์เพื่อทำประโยชน์ต่อสังคม ตามหลักการที่เรียกว่า 3P คือ กำไร (Profit) สังคม หรือ คน (People) สิ่งแวดล้อม หรือ โลก (Planet) ดังนั้น ความรู้เรื่องการบริหารธุรกิจจึงเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินกิจการเพื่อสังคมหรือวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งหมายถึงว่าจะต้องประกอบธุรกิจให้มีกำไร องค์กรนั้นจึงจะอยู่ยั่งยืนได้ และสามารถทำประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นจะต้องให้ความรู้ในการบริหารธุรกิจให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม ดังนั้น ในประการแรก จึงสมควรให้มีการจัดตั้งสถาบันวิทยาการวิสาหกิจเพื่อสังคมขึ้นมาเพื่อการนี้
นายสถิตย์ กล่าวอีกว่า ในประการที่ 2 การประกอบธุรกิจเพื่อสังคมเช่นเดียวกันกับการประกอบธุรกิจอื่นๆ จำเป็นจะต้องมีแหล่งเงินทุน โดยเห็นว่า ควรจะประกอบด้วยแหล่งเงินทุนดังต่อไปนี้ 1) สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ควรจะให้ความสนับสนุนเป็นพิเศษในการให้บริการทางการเงินกับวิสาหกิจเพื่อสังคม 2) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยควรพิจารณาศึกษาเพื่อจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์วิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อเปิดโอกาสให้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมสามารถระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นี้ 3) ควรสนับสนุนให้กองทุนวิสาหกิจเพื่อสังคมมีเงินทุนเพียงพอในการลงทุนกับวิสาหกิจเพื่อสังคมโดยอาจมีแหล่งที่มาของทุน 2 แหล่ง คือ 1) จากเงินในบัญชีธนาคารที่ไม่เคลื่อนไหวเกิน 10 ปี และ 2) จากเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ผู้ถูกรางวัลไม่ได้ขอรับเงินภายใน 10 ปี
ประการที่ 3 ควรมีการสนับสนุนทางด้านการตลาด ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยภาครัฐควรให้โอกาสในการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นลำดับแรก หากคุณภาพและราคาเทียบได้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัททั่วไป ส่วนภาคเอกชนก็ควรสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจเพื่อสังคมทั้งในด้านการจัดซื้อและในด้านการให้พื้นที่สำหรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจเพื่อสังคม นอกจากนี้ ควรพิจารณาจัดทำแอปพลิเคชัน (application) ขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางในการซื้อขายผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยในแอพพลิเคชั่นนี้ อาจประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ สถานที่และการเดินทางไปถึงผลิตภัณฑ์นั้น การซื้อขายผลิตภัณฑ์นั้นแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) ได้ในแอปพลิเคชันนี้
อนึ่ง ส.ว.สถิตย์ เป็นผู้ที่มีส่วนสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมใน 2 เรื่องด้วยกัน คือ ในฐานะประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ผลักดันให้ตลาดหลักทรัพย์สนับสนุนการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคม และในฐานะประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้เสนอแนะและผลักดันให้มีกฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจเพื่อสังคม