xs
xsm
sm
md
lg

เปิดขุมทรัพย์ “เศรษฐา” อู้ฟู่พัน ล. ที่ดิน-ห้องชุด 100 ล.ขึ้น ครอบครองรถหรูแรร์ไอเทม ลูกให้ปีละ 20 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยลทรัพย์สินนายกฯ “เศรษฐา” มั่งคั่ง 1,020 ล้านบาท ถือที่ดินแปลงเดียว 158 ล้าน ห้องชุดหัวหิน 138 ล้าน ครอบครอง Aston Martin DB5 แรร์ไอเทมวงการยานยนต์ ลูกให้ปีละ 20 ล. เมียมี “พระไพรีพินาศ-หลวงปูแหวน” 2 องค์ประเมินค่าไม่ได้ เครื่องประดับมูลค่ากว่า 131 ล้านบาท

วันนี้ (28 ธ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นายเศรษฐา ทวีสิน กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 66 โดย นายเศรษฐา และ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวม 1,020,468,727 บาท มีหนี้สินรวม 10,182,549 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายเศรษฐา 659,391,610 บาท ประกอบด้วย เงินสด 1 ล้าน เงินฝาก 47 บัญชี ทั้งบัญชีส่วนตัวและบัญชีร่วม โดยฝากธนาคารทั้งในและต่างประเทศ ที่ JP Morgan Chase,N,A รวม 68,986,558 บาท ซึ่งมีการแนบเอกสารอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ 5 ก.ย. 66 มาด้วย เงินลงทุนในกองทุนเปิดต่างๆ 1,301,668 บาท ที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 1 งาน 98 ตร.ว.ในเขตคลองเตย พระโขนง กรุงเทพฯ ได้มาโดยการรับให้เมื่อวันที่ 8 ต.ค 40 มูลค่า 158,400,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 156,423,120 บาท โดยเป็นห้องชุดใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 138 ล้าน และ บ้าน 3 ชั้น ในเขตคลองเตย มูลค่า 18,423,120 บาท ยานพาหนะ 50 ล้านบาท เป็นรถยนต์ยี่ห้อ Aston Martin รุ่น DB5 จาก United Kingdom ระบุจำวันเดือนปี ที่ได้มาไม่ได้ สิทธิและสัมปทาน 87,539,563บาท เป็นประกันชีวิตบริษัทต่างๆ สมาชิกสมาคมราชกรีฑาสโมสร และสิทธิในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไทยพาณิชย์มาสเตอร์ฟันด์ ที่เริ่มทำมาตั้งแต่ 15 ก.พ. 33 และสิ้นสุดเมื่อ 5 ก.ย. 66 มูลค่า 63,200,328 บาท ทรัพย์สินอื่น 135,740,700บาท อาทิ นาฬิกา 38 เรือน มูลค่า 127,953,100 บาท เช่น นาฬิกา Patek Philippe 5470P -001 มูลค่า 30,000,000 บาท ได้มาเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 พระเครื่องตะกรุด 6 องค์ 1,622,600 บาท สร้อยคอทองคำ 1 เส้น 165,000 บาท หีบหลุยส์วิตตอง x สุพรีม 6 ล้านบาท และมีหนี้สินบัตรเครดิต 9,732,579 บาท โดยในจำนวนนี้มี 3 รายการรวม 8,876,505 บาท เป็นยอดหนี้คงเหลือรวมของบัตรหลักและบัตรเสริมเฉพาะของบุตร


โดย นายเศรษฐา แจ้งมีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 253,636,771 บาท จากเงินเดือน 153, 570,160 บาท เงินบำนาญชราภาพ 45,694 บาท เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 185,000 บาท มีรายได้ดอกเบี้ย 13 บาท เงินได้จากการขายกองทุน LTF 464,770 บาท ส่วนแบ่งกำไรจากกองทุน LTF และ RMF 12,069 บาท ผลประโยชน์จากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล 825,402 บาท เงินได้จากการสิ้นสุดสมาชิกภาพในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 65,200,328 บาท บุตรให้รายปี 20 ล้านบาท และเงินชดเชยกรณีเกษียณอายุ 13,333,333 บาท มีรายจ่ายต่อปีประมาณ 51,630,957 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 36. 5 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 1.9 ล้านบาท ค่าอุปการะมารดา 4,762,000 บาทค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 8 ล้านบาท ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3,957 บาทเงินบริจาค 465,000 บาท

ส่วน พญ.พักตร์พิไล ซึ่งปัจจุบันเป็นแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและความงามศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีทรัพย์สินรวม 361,077,116 บาท แบ่งเป็นเงินสด 1.8 ล้านบาท เงินฝาก 38 บัญชี 47,023,391 บาทโดยเป็นบัญชีทั้งส่วนตัวและบัญชีร่วมฝากธนาคารทั้งในและต่างประเทศที่ JP Morgan Chase,N,A เงินลงทุน 52,352,913 บาท โดยลงทุนในกองทุนเปิดต่างๆ และหุ้นกู้ รวมถึงลงทุนใน Blackstone Capital Partners Asia ll L.P.BCP Asia ll จำนวน 1,672,054 บาท และ Brookfield Strategic Real Estate Partners lV-CL.P. จำนวน 5,535,514 บาท และมีการแจ้งว่า ทั้ง 2 รายการนี้ มียอดคงเหลือที่อาจจะต้องมีการลงทุนเพิ่มกว่า 10 ล้านบาท ยานพาหนะ 2.8 ล้านบาท โดยเป็น Toyota Alphard มูลค่า 1.37 ล้านบาท FlAT มูลค่า 680,000 บาท และ Tesla รุ่น Model Y Standard มูลค่า 750,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 845,511 บาท ทรัพย์สินอื่น 256,255,300 บาท อาทิ นาฬิกา 31 เรือน มูลค่า 84,869,300 บาท กระเป๋า 48 ใบ 37,010,500 บาท เช่น Hermes Birkin ไซส์ 30 Black Matte Color หนัง Porosus Crocodile มูลค่า 2,080,000 บาท / พระเครื่อง 2 องค์ ไพรีพินาศ และหลวงปูแหวนที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ สร้อยคอทองคำ 2 เส้น 165,000 บาท เสื้อผ้า 5 ชุด 2.82 ล้านบาท เข็มกลัดมุก 3 อัน 100,000 บาท สร้อยเพชรไข่มุก (ข้อมือ-คอ) กำไลตะปูฝังเพชร 31 ชุด 52, 317,000 บาท ต่างหูเพชร, ทับทิม, มรกต, ไข่มุก, ต่างหูหนีบ 58 ชุด 31,865,600 บาท และแจ้งมีหนี้สินเป็นหนี้บัตรเครดิต 449,970 บาท

นอกจากนี้ แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 3,215,173 บาท จากเงินบำนาญชราภาพ 56,500 บาท เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 632,011 บาท เงินได้จากวิชาชีพอิสระแพทย์ 2,019,930 บาท ดอกเบี้ย 97,767 บาท เงินได้จากการขายกองทุน LTF 343,929 บาทส่วนแบ่งกำไรจากกองทุน LTF และ RMF 64,985 บาท มีรายจ่ายต่อปีโดยประมาณ 20,675,200 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 6 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 14.5 ล้านบาท เงินบริจาค 175,200 บาท

ทั้งนี้ นายเศรษฐา มีบุตร 3 คน คีอ นายณภัทร ทวีสิน, นายวรัตม์ ทวีสิน และ นางสาวชนัญญา ทวีสิน และแจ้งประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี ว่า ในปี 2553-2564 ดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)


กำลังโหลดความคิดเห็น