xs
xsm
sm
md
lg

บำรุงราษฎร์ จับมือ ไวทัลไลฟ์ จัดงาน Exclusive Talks ยกระดับการแพทย์ด้าน Longevity Medicine

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลง ในปัจจุบันอัตราการเกิดน้อยลง ขณะที่ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น ส่งผลให้ผู้สูงอายุมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ในปี 2566 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยมีจำนวนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คิดเป็น 20% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ และในปี 2583 ประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด” คาดการณ์ว่าจะมีผู้สูงอายุถึง 30% ซึ่งแน่นอนว่าผลที่ตามมาจากจำนวนผู้สูงอายุที่มากขึ้นคือการเพิ่มขึ้นของโรคและภาระทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกี่ยวข้องกับความชรา ทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัจจัยที่มีผลต่อการมีอายุยืนยาว รวมถึงวิธีการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ทั้งการใช้เทคโนโลยีเพื่อยืดอายุขัยให้ยืนยาวและการประยุกต์ใช้การแพทย์ชะลอวัย

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก รายงานว่า โรค NCD หรือ โรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย นับเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของประชากรโลก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากกองควบคุมโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข โดยแสดงให้เห็นถึงจํานวนผู้เสียชีวิตจากโรคเหล่านี้ในประเทศไทยที่ยังคงเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมเสี่ยง อาทิเช่น การรับประทานอาหารหวานจัด มันจัด อาหารปิ้งย่าง การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ไม่ออกกําลังกาย นอนดึก มีความเครียดสูง พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุหลักของการทําลายเซลล์ในร่างกาย ดังนั้น การส่งเสริมเรื่องการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างยืนยาวควบคู่ไปกับการมีสุขภาพแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการบริบาลสุขภาพระดับโลกมากว่า 43 ปี และ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ในฐานะผู้บุกเบิกการแพทย์ด้านเวชศาสตร์การมีอายุยืน (Longevity Medicine) อย่างมีคุณภาพมากกว่า 20 ปี เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยใช้ประโยชน์จากการวิจัยล่าสุดและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์ เพื่อป้องกันหรือชะลอปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งอาจมีผลต่อสุขภาพ และ เพื่อเสริมสร้างการมีสุขภาพดีและอายุยืนยาว

โดยล่าสุด โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ จัดงาน Exclusive Talks หัวข้อ “Longevity Medicine: Upskilling the Physicians of Tomorrow” และ หัวข้อ “Longevity Medicine: Shaping the Future of Healthy Aging” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และยกระดับการแพทย์ด้าน Longevity Medicine โดยได้รับเกียรติจาก พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน สตรีหมายเลข 1 ของประเทศไทย และ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและความงามด้านผิวพรรณ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มากล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ และ ได้รับเกียรติจากผู้ชำนาญการด้านสุขภาพและนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติด้าน Longevity medicine 3 ท่าน ได้แก่ ดร. ไบรอัน เคนเนดี้, ดร. คอลลิน อีวาลด์ และดร. เอเวอร์ลีน บิสชอฟ มาเป็นวิทยากรรับเชิญในงาน


พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน สตรีหมายเลข 1 ของประเทศไทย และแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและความงามด้านผิวพรรณ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า การแพทย์เพื่ออายุยืนยาวแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และเป็นการยกระดับการดูแลสุขภาพไปอีกขั้น ซึ่งไม่ใช่แค่การรักษาโรคเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น แต่มุ่งเน้นไปที่การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพที่ดีตลอดชีวิตของเรา ความรู้ทางการแพทย์ในเรื่อง Longevity Medicine นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดอนาคตด้านการดูแลสุขภาพ ทำให้แพทย์สามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้เพื่อให้การดูแลสุขภาพที่ครอบคลุม เป็นการดูแลสุขภาพเชิงรุกและเฉพาะบุคคลมากขึ้น

ดร. ไบรอัน เคนเนดี้ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสาขาการวิจัยเรื่องอายุ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการทางชีววิทยาของการสูงวัย และมีส่วนร่วมในการวิจัยที่เน้นเรื่องการชะลอปัจจัยที่ทำให้เกิดความชรา รวมถึงงานวิจัยเรื่องการศึกษาพันธุศาสตร์ ชีววิทยาของเซลล์ บทบาทของยีนบางชนิดและสารประกอบต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อความชรา ตลอดจนประสิทธิผลของการอดอาหารและการจำกัดแคลอรี่ และศักยภาพของยา เช่น ราปามัยซิน ในการยืดอายุขัย ควบคู่ไปกับความสำคัญของวิธีการออกกำลังกายอย่างยั่งยืน อาหารเพื่อสุขภาพ การจัดการความเครียด และการนอนหลับที่มีคุณภาพเพื่อการมีอายุยืนยาว

ดร. คอลลิน อีวาลด์ นักวิทยาศาสตร์ชาวสวิสที่โด่งดังจากงานวิจัยเกี่ยวกับกลไกระดับโมเลกุลของการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดี งานวิจัยของดร. คอลลิน ได้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างเซลล์ประสาทและความชรา และเขาได้มีส่วนสำคัญในการทำความเข้าใจบทบาทของการส่งสัญญาณอินซูลิน/IGF-1 ต่อโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมดุลของคอลลาเจนในช่วงอายุยืนยาว รวมถึงการกำหนดโปรตีนที่สร้างเมทริกซ์นอกเซลล์ ทีมงานของดร. คอลลิน ใช้ข้อมูลการแสดงออกของยีนเพื่อทำนายยาที่สามารถชะลอความชราได้

ดร. เอเวอร์ลีน บิสชอฟ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพเซี่ยงไฮ้ มีความเชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ และเป็นผู้นำในการบูรณาการด้านการใช้ AI มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสุขภาพให้ละเอียดมากยิ่งขึ้นในเชิงการแพทย์อายุยืนยาว งานของดร.เอเวอร์ลีน ในด้านวิทยาผู้สูงอายุและการพัฒนาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพสำหรับการวินิจฉัย กำลังปฏิวัติแนวทางการปฏิบัติทางคลินิกในเรื่องผู้สูงวัยและมะเร็งโดยใช้ข้อมูลเฉพาะบุคคล ซึ่งมีส่วนสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันโรคมะเร็งในคนอายุ 100 ปี ที่มีประวัติทางพันธุกรรมได้อย่างไร


นอกจากนี้ ดร. เอเวอร์ลีน บิสชอฟ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากตัวชี้วัดทางชีวภาพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความชรา เช่น นาฬิกาแสดงการแก่ชรา เพื่อบูรณาการเข้ากับการปฏิบัติทางคลินิก แนวทางนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาด้านการแพทย์เพื่อการมีอายุยืนยาวและพัฒนาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ทั้งสามท่านนี้ไม่เพียงแต่ผลักดันขอบเขตของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ในเรื่องสุขภาพและการดูแลป้องกันอีกด้วย ผลงานวิจัยของพวกเขาเป็นสัญญาณแห่งความหวังสำหรับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจและเปิดรับศักยภาพสูงสุดของการแพทย์เพื่อการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาศาสตร์ด้านการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมและวิธีการที่ทันสมัย ตลอดจนทุ่มเททำการวิจัย เพราะความจำเป็นในการดูแลสุขภาพในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกัน การส่งมอบการดูแลสุขภาพจึงต้องปรับเปลี่ยนตาม เพื่อจุดหมายแห่งการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ และเต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์ในทุกช่วงวัย
กำลังโหลดความคิดเห็น